30 รุม 6 ! โจ๋อารมณ์ค้าง รุมทืบนักดนตรี ฉุนหยุดเล่นตอนเพลงตื๊ด สุดงง ตร.ขอให้ยอมความ

วงดนตรีรถแห่ เข้าร้องสื่อ หลังถูกแก๊งโจ๋งานบวช 30 คน รุมทืบนักดนตรี 6 คน เหตุ เล่นไม่จบรอบ แม้เจ้าภาพจะเป็นฝั่งให้หยุดเล่น เพราะนาคเข้าโบสถ์เรียบร้อยแล้ว ! 

 

 

            วันที่ 20 ก.พ. 66 สังวรณ์ ปักมาตร์ (จอก) เจ้าของวงดนตรีรถแห่ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 66 เจ้าภาพจ้างตนไปเล่นแตรวงงานบวช ต้องรับนาค 06.00 น. แห่กลับบ้านเพื่อมาทำพิธีปลงผมตอน 09.00 น. หลังจากนั้นเล่นดนตรีรถแห่ถึง 10.00 น. ก็จะเป็นช่วงที่เจ้าภาพกินเลี้ยงกับแขก มาเล่นอีกทีตอน 13.30 น. โดยเริ่มแห่จากบ้านไปที่วัด แล้วก็วนรอบโบสถ์ ซึ่งเล่นไปได้แค่ 2 รอบครึ่ง เจ้าภาพก็มาห้ามให้หยุดเล่น เพราะ พระอุปัชฌาย์ ก็มาเรียกนาคเข้าโบสถ์ เนื่องจากเลยเวลาทำพิธีแล้ว 

 

            จากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่น 1 คน มาด่าด้วยคำหยาบ บอกว่า "จ้างมาตั้ง 18,000 เล่นแค่ 2 รอบครึ่งเองหรอวะ" ซึ่งตนก็ยังใจเย็นอยู่ จึงเดินไปบอกวัยรุ่นคนดังกล่าวว่า เดี๋ยวเสร็จพิธี ตนจะเล่นให้อีกเพลงหนึ่ง แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ยังไม่พอใจ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ฝั่งวัยรุ่นทำท่าจะเข้ามาทำร้ายตน แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกันไป ตนก็เก็บของเตรียมกลับบ้าน  

 

 

            ระหว่างขับรถออกจากวัด ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นดักอยู่หน้าวัด ตนเลยลงไปคุย แต่ก็กลับถูกคนใส่เสื้อเขียนว่าเป็น "เพื่อนนาค" สีเขียว เข้ามาต่อยตน จากนั้นอีก 2-3 คน เข้ามากระโดดถีบ จึงเกิดเรื่องชุลมุนขึ้น มีการปาของใส่ด้วย ตนยืนยันว่าฝั่งคู่กรณีเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยที่ฝ่ายตนมีเพียง 6 คน ส่วนคู่กรณีมีประมาณ 30 คน ตนต้องสู้กลับเพื่อเอาตัวรอด ทั้งนี้ ตนได้ไปแจ้งความมาแล้ว เพราะตนกลัวว่าคู่กรณีจะตามไปเอาเรื่องเวลาไปเล่นงานที่อื่น แต่ตำรวจก็ให้รอฝั่งคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ตนอยากทำให้เป็นกรณีศึกษา เผื่อว่าเด็กกลุ่มนี้จะไปก่อเหตุอีก 

 

 

            ด้าน อนุสรณ์  บุญแจ้ง (เบียร์) มือกลองที่บาดเจ็บ เล่าว่า ตนถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย 4 คน ได้รับบาดแผลที่หลังหู ตอนนั้นสู้ตอบโต้กลับเพื่อป้องกันตัว เพราะเขามีไม้ ถ้าตนไม่สู้ ตนคิดว่าอาจจะไม่รอด นอกจากนี้ มือเบสในวงก็ได้รับบาดเจ็บหนัก หลังจากเกิดเหตุ ต้องไปเล่นงานต่อ เขาก็เล่นไม่ไหว เลือดออกตลอดงาน บริเวณหัว 

 

            หลังจากมีเรื่องกันในตอนแรก พวกตนก็คิดว่าจบแล้ว เพราะเจ้าภาพก็จ่ายเงินแล้ว ซึ่งเจ้าภาพก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย กระทั่งไปมีเรื่องตอนขับรถออกจากวัด 

 

 

            ฟาก ธนพล ศูนย์รัมย์ (ดิว) นักร้องนำที่บาดเจ็บ เผยต่อว่า ตนมาโดนทำร้าย หลังจากที่แยกทั้งสองกลุ่มออกจากกันแล้ว แต่กลับถูกชายเสื้อดำเข้ามาชี้หน้าด่า ตนตอบกลับไปเพียงว่า "พวกคุณไม่ควรมีปัญหานะ" เขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายตนเลย ทั้งนี้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และซี่โครง ตนไม่สามารถไปเล่นงานต่อได้จึงไปแจ้งความเอาไว้ก่อน แต่ตำรวจให้แค่ใบบันทึกประจำวันเอาไว้

 

 

            ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนอยากแนะนำให้ฝั่งนักดนตรีที่ถูกทำร้าย ไปตรวจร่างกาย เพื่อเป็นหลักฐานให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายมีบาดแผลชัดเจน ทั้งนี้ตนได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1. ท่านตอบกลับมาว่า ท่านจะลงมาดูแลเรื่องนี้เอง 

 

            ขณะเดียวกัน เคสนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถพูดคุยไกล่เกลี่ยค่าเสียหายเยียวยาเรื่องแผลกันได้ แต่คดีความก็ต้องดำเนินการต่อ เพราะการทำร้ายร่างกายเป็นคดีอาญา 

 

            ส่วน ชาติ ญาติของฝั่งคู่กรณี เผยว่า  เด็ก ๆ ฝั่งเพื่อนนาค เป็นลูกหลานของตน ทั้งนี้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เด็กในเหตุการณ์เล่าให้ตนฟังว่า มีการจ้างวงดนตรีมาเล่น แล้วเล่นไม่ครบ จึงเกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ในบริเวณเขาพยายามห้ามไม่ให้มีเรื่องมีราวกัน และฝั่งทางวงดนตรีใช้อาวุธมาตีฝั่งนี้จนหัวร้างข้างแตก ตนยืนยันได้ว่าลูกหลายตนไม่เคยมีเรื่องเกเร หรือมีเรื่องมีราวกับใคร 

 

 

            ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย เผยว่า เบื้องต้น เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 66 ทั้ง 2 ฝ่ายได้มาแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย จึงได้ส่งผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายไปรักษาตัว และทำใบชันสูตรเพื่อให้แพทย์ลงความเห็น โดยฝั่งเพื่อนนาคมีคนที่หัวแตก 4 คน  ขณะนี้กำลังรอความเห็นของแพทย์ และจะนัดคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ในวันพุธ (22 ก.พ. 66) 10.00 น. และจะให้พูดคุยเจรจากัน โดยมีผู้ใหญ่เป็นพยาน ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ 

 

            ขณะเดียวกัน ตนได้ให้พนักงานสอบสวนลงไปเก็บภาพวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งก็ได้มาพอสมควร อย่างก็ไรตามข้อสรุปของเรื่องนี้ ก็ต่างว่ากันตามพยานหลักฐาน