เช้านี้ที่หมอชิต - เริ่มขึ้นแล้วสำหรับการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลครั้งสุดท้ายของสภาชุดนี้แบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ก่อนจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายคนแรกในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน โดยกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ฉายาหน้ากากคนดี แต่ฝ่ายค้านจะกระชากหน้ากากคนดีให้ประชาชนได้รู้ แม้จะไม่มีการลงมติในการอภิปราย แต่ขอให้ประชาชนไปลงคะแนนในคูหา ว่าจะให้คนดีอยู่ต่อหรือไม่
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายเป็นคนต่อมา ระบุว่า ภายใต้รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นทศวรรษที่สูญหาย เกือบ 10 ปี ใช้งบประมาณมากดังถนนปูด้วยทอง แต่กลับเป็นประเทศเดียวที่จีดีพีรั้งท้ายอาเซียนและยังไม่ฟื้นตัวจริงจากโควิด นอกจากนั้น ยังสูญหายเวลาไปกับ 3 สิ่งสำคัญคือ การศึกษา คอร์รัปชัน และภัยแล้ง ที่ก่อนหน้านี้มีพรรครัฐบาลบอกว่า มีลุงไม่มีแล้ง แต่ที่ผ่านมาเกือบ 1 ทศวรรษ พื้นที่แล้งซ้ำซากในภาคอีสานเพิ่มจาก 40 ล้านไร่ เป็น 49 ล้าน ซึ่งในระเด็นเหล่านี้ พลเอก ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นตอบด้วย
ขณะที่รอบดึก รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาอภิปรายแฉในประเด็นเดือด ๆ เกี่ยวขบวนการฟอกเงินและค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่มีขบวนการไทยเทาสนับสนุน ดังเช่นกรณี ส.ว.อ. ที่มีความพัวพันกับ ทุนมินลัต นักธุรกิจชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมในข้อหาฟอกเงิน แม้ว่า ส.ว.อ. จะอ้างว่าไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกันนานแล้ว แต่นายรังสิมันต์ ได้นำหลักฐานเสนอต่อสภาเพื่อชี้ให้เห็นว่า ส.ว.อ. ยังคงมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนี้มาตลอด แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ แม้ สว. คนดังกล่าว จะโดนหมายจับ แต่ต่อมาหมายจับดังกล่าวกับถูกถอนและเปลี่ยนเป็นหมายเรียกแทน ซึ่งก็ไม่เคยมีการเรียกเลยจนกระทั่งเปิดสมัยประชุมสภาทำให้ได้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
นายรังสิมันต์ ยังชี้ว่า สว. มีที่มาจากการเลือกของพลเอกประยุทธ์ ดังจะไม่ทราบประวัติ ส.ว.อ. เลย หรือ ส่วนประโยชน์ที่พลเอกประยุทธ์ใช้จาก ส.ว.อ.คือที่ดินที่นำไปสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติเวลานี้ คือสิ่งแสดงให้เห็นว่า การที่ประยุทธ์ตั้งใครมามีตำแหน่ง ไม่ได้แคร์ว่าจะประวัติดำมืดแค่ไหน ขอแค่มีเส้นมีสตางค์พร้อมช่วยสืบทอดอำนาจก็พอ และเป็นสาเหตุที่จะปล่อย สว.อ. จบเห่ไปลำพังไม่ได้ เพราะช่วยอุ้มกันมาและจะช่วยอุ้มกันต่อไปและถ้าประยุทธ์ได้ไปต่อ คงไม่ทิ้งทุนมินลัตแน่นอน เพราะการฟอกเงินให้ขบวนค้ายาข้ามชาติมันทำกันแค่ไทยฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันทำทั้ง 2 ฝ่าย แล้วเอาเงินที่ได้จากการทำลายชีวิตประชาชนทั้ง 2 ชาติมาแบ่งกันระหว่างผู้มีอำนาจ
สำหรับคดีของจีนเทาซึ่งนายรังสิมันต์ ได้ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายรังสิมันต์ระบุว่า กรณีตู้ห่าวเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่มีปีศาจในรายละเอียด เต็มไปด้วยการเตะถ่วง ทำลายหลักฐานที่อาจพลิกชนะเป็นแพ้ จึงต้องถามหาความรับผิดชอบต่อผู้มีหน้าที่ดำเนินการและกำกับดูแล ทั้ง ผบช.น. ผบ.ตร. และนายก ประยุทธ์
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงจีนเทาคนอื่น ๆ ที่มาหาประโยชน์ในไทยว่า นอกจาก ตู้ห่าว ก็ยังมีอีกหลายคน เช่น หลินหลง เซาเซียนโป เสอจื้อเจียง และหยูซินฉี ที่อ้างสนิทกับคนใหญ่คนโตของไทยไปหาประโยชน์ สซึ่ง หยูซินฉี คนนี้ก็เคยไปถ่ายรูปกับ พลเอกประยุทธ์ ด้วย
หลัง นายรังสิมันต์ อภิปรายจบลง คุณชูวิทย์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง จีนเทาเข้าสภา โดยระบุว่า ข้อมูล จีนเทา ที่ผมไม่ได้พูดนอกสภา ได้ถูกส่งต่อให้คุณโรมใช้ในการอภิปราย
.
หยู ซินฉี คือกรณีแอบอ้าง และอวดอ้าง ความใกล้ชิดสถาบันที่เทิดทูนของคนไทย ไปใช้ในการหลอกลวงคนจีนเข้ามาในประเทศไทย จีนไม่มีระบบกษัตริย์ ไม่รู้ศาสนา แต่สิ่งหนึ่งที่จีนเทารู้ คือ หากจะทำอะไรที่ผิดกฎหมายเทา ๆ ในไทย ต้องรู้จัก ทหาร ตำรวจ
การอภิปรายของ คุณโรม ทำได้ดีต้องขอชื่นชม เพราะเป็นผู้ปกป้องสถาบันไม่ให้เป็นเครื่องมือของสารพัดชาติเทา ในฐานะรุ่นพี่ ทั้งธรรมศาสตร์ สภา และคุก ขอให้ทำเพื่อประชาชนต่อไป พี่ขอสู้อยู่นอกสภาในภาคประชาชน
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม