สองสามีภรรยา ร้องทนายรณณรงค์ หลังถูกหลอกขายตั๋วทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นราคาถูก แต่ไม่ได้ไป มีอีกหลายบริษัทตกเป็นเหยื่อ สูญเงินนับ 10 ล้านบาท
เมื่อเย็นวานนี้ (14 ก.พ.) นายทินกร วัฒนกุลเทพ อายุ 54 ปี พร้อมด้วย นางสาวรพีพรรณ เจริญเรืองกิจ อายุ 46 ปี ภรรยา เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ นายณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือคดี หลังถูกบริษัทจัดทัวร์ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง หลอกลวงว่าสามารถพาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้ในราคาถูก
แต่เมื่อถึงเวลาเดินทางจริง กลับไปไม่ได้ตามที่อ้าง ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวลูกค้าของตนเองทั้งสอง ได้รับความเสียหาย และได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบจึงได้มาร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือด้วย
นายทินกร เผยว่า เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 ได้มีบริษัทของรุ่นน้องที่รู้จักกัน อยากจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจำนวน 30 คน แต่มีงบประมาณจำกัด แค่คนละ 25,000 บาท ซึ่งทางตนเองดูแล้วว่าไม่สามารถทำให้ได้ เนื่องจากในช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น ราคาสูงมาก แต่ทางบริษัทของรุ่นน้องก็บอกมาว่าพนักงานอยากไปกันมาก ไปไหนก็ได้ในประเทศญี่ปุ่น ตนจึงหาโปรแกรมท่องเที่ยว จากบริษัทโฮล์เซลล์เจ้าหนึ่ง ตั้งอยู่ตำบลคูคต จังหวัดปทุมธานี เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและทำทัวร์ มีราคาที่ถูก โดยจัดเป็นโปรแกรมไปเที่ยวที่ Fukuoka ประเทศญี่ปุ่น และก็ได้ราคาตามที่ต้องการ คือ 25,000 บาท แต่ต้องรีบจอง และวางเงินทั้งหมด
ตนเองจึงแจ้งลูกค้า และทำการเก็บเงินพร้อมทั้งโอนเงินทั้งหมดไปให้ทางบริษัทดังกล่าวกว่า 6 แสนบาท และแจ้งให้ลูกค้าเตรียมตัวเดินทางในวันที่ 29 มกราคม 2566 จนกระทั่งใกล้วันเดินทางตนได้ติดต่อไปเพื่อขอใบเตรียมตัวจากบริษัทดังกล่าว ขอชื่อโรงแรม เพื่อจะใช้ในการลงทะเบียนเข้าประเทศญี่ปุ่น ทางบริษัทกลับส่งใบเตรียมตัวมาให้ แต่กลับไม่มีชื่อ-เบอร์โทร ของมัคคุเทศก์ รวมถึงชื่อคนมารับ-ส่ง ลูกทัวร์ของตนที่สนามบินก็ไม่มี มีแต่ชื่อโรงแรม
ตนจึงโทรไปเช็กกับทางโรงแรมที่ญี่ปุ่นตามชื่อโรงแรมที่ทางบริษัทให้มา ผลปรากฏว่าทางโรงแรมที่ญี่ปุ่นแจ้งว่าไม่มีการจองใด ๆ ทั้งสิ้น ตนได้พยายามโทรติดต่อเจ้าของบริษัทดังกล่าว ซึ่งก็มีการรับสายครั้งหนึ่ง จึงแจ้งปัญหาไป แต่ก็โดนบ่ายเบี่ยงทุกอย่าง หลังจากนั้นก็ไม่รับโทรศัพท์อีกเลย ตนก็พยายามติดต่อไปทั้งวัน แต่ก็ไม่รับสาย
ต่อมาตนได้สอบถามไปในกลุ่มไลน์ ซึ่งในกลุ่มนี้มีลูกค้าคนอื่น ๆ อยู่ด้วย ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ ที่ทางตนไปทวงถามในกลุ่ม อ้างว่าทำให้เขาเสียหาย ทำให้ลูกค้าหลายรายไม่ยอมโอนเงินให้ เลยขอยกเลิกทัวร์ของตนเอง ซึ่งอีกเพียง 2-3 วัน ก็จะถึงวันที่ออกเดินทางอยู่แล้ว ตนเองจึงขอเงินคืน แต่ทางบริษัทกลับบอกว่าจะคืนเงินให้ภายใน 7 วัน และตนกับภรรยาต้องเซ็นสัญญาว่า ให้ตนเองเป็นฝ่ายผิด ที่ไปทำให้บริษัทเขาเสียหาย รวมถึงห้ามไม่ให้ไปโพสต์ข้อความใด ๆ กล่าวหาบริษัทเขาอีกด้วย
ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องจึงไม่ได้เซ็นให้เขา ต่อมาตนกับภรรยาก็โดนเตะออกจากไลน์กลุ่ม ตนมาทราบอีกว่ามีคนที่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน กับตนอีกหลายสิบบริษัทมีผู้เสียหายกว่า 400 คนสูญเงินกว่า 10 ล้านบาท จึงได้รู้ว่าบริษัท แห่งนี้น่าจะทำแบบนี้กับกลุ่มลูกค้าหลาย ๆ บริษัทมาแล้ว
ตอนนี้ได้รวบรวมผู้เสียหายไปร้องเรียนที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกำลังจะไปร้องเรียนที่กองปราบปรามสอบสวนกลาง รวมทั้งเดินทางมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์อีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ตนเอง กับภรรยาต้องออกเงินเองเพื่อซื้อตั๋วท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้กับเพื่อนของตนที่พาพนักงาน 30 คนไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยสำรองออกเงินไปแล้วเกือบ 1 ล้านบาท
ขณะที่ทนายนายรณณรงค์ กล่าวว่า ถ้าหากทางบริษัททัวร์ไม่มีการจองตั๋วเครื่องบินเอาไว้จริง ก็จะเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกง นอกจากนี้ยังเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์อีกด้วย เท่าที่ทราบจากผู้เสียหายตอนนี้มีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกหลอกมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 10,000,000 บาท แล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35