วางแผนแต่งงาน เก็บเงินอย่างไร สุขใจคู่วิวาห์ ! | เงินทองของจริง

เนื่องในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ "วันวาเลนไทน์" เมื่อพูดถึงความรักของหนุ่มสาว จีบกัน คบกัน แต่งงานกัน ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ทั้งค่าสินสอด ค่าจัดงานแต่งงาน เราจะเริ่มต้นเก็บเงินเพื่อแต่งงานอย่างไรดี ?

 

เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องแรก คือ "สินสอด" ต้องตกลง และต่อรองให้ชัดเจน เพราะแต่ละครอบครัวมีมุมมองเรื่องสินสอดที่ต่างกัน บางครอบครัวมองว่า คู่หนุ่มสาวรักกันชอบกัน ก็ไม่เรียกอะไรมากมาย แต่บางครอบครัวอาจมองเป็นเรื่องของความมั่นคงของฝ่ายชาย เป็นการพิสูจน์ว่าสามารถดูแลลูกสาวได้หรือเปล่า

 

เรื่องที่สอง คือ กำหนดระยะเวลาให้แน่ ว่าจะแต่งงานกันในอีกกี่ปี เพื่อที่จะวางแผนเรื่องการเก็บเงินได้ลงตัว

 

ส่วนเรื่องที่สาม เรื่องนี้ต้องบอกว่าเกี่ยวกับยุคสมัย หากเป็นเมื่อก่อน ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายที่ต้องเก็บเงิน แต่ในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายอาจจะมีการคุยกัน ตกลงร่วมกัน เช่น บางคู่อาจวางแผนไว้ว่าในอีก 3 ปีจะแต่งงาน ตกลงกันไว้ว่าจะเก็บเงินคนละเท่าไร เป้าหมายของเงินก้อนนี้เท่าไร ซึ่งต้องคุยกันให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน กำหนดระยะเวลา กำหนดจำนวนเงินให้ชัดเจน ซึ่งการเก็บเงินส่วนนี้หากเป็นภาษาทางการจะเรียกว่า "เป้าหมายการเงินในระยะสั้น" โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ 0-3 ปี ดังนั้นไม่ควรเก็บเงินก้อนนี้ไว้ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น เพราะเป็นภาวะการลงทุนที่มีความผันผวน ให้เก็บในรูปแบบ เงินฝาก ทองคำ สลากออมทรัพย์ หรือ กองทุนตราสารหนี้ แทน

 

เมื่อเริ่มเก็บเงินเพื่อแต่งงานแล้ว เราจะมีวิธีการบริหารจัดการเงิน ให้ไปสู่เป้าหมายในวันวิวาห์ได้อย่างไร ?

 

อันดับแรก ต้องคุยเรื่องเป้าหมายให้ชัด รูปแบบงานแต่ง หน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งจะโยงเข้ากับค่าใช้จ่าย และต้องพูดคุยเปิดอก วางแผนร่วมกัน ข้อมูลเรื่องของรายได้ และภาระต่าง ๆ ที่มีอยู่ ตกลงกันให้ดี เช่น เงินเดือนเท่าไร ค่ากิน-อยู่ เท่าไร หากเปิดใจคุยกันแล้ว อาจทำข้อตกลงเก็บเงินร่วมกัน เช่น เปิดบัญชีและกำหนดสิทธิ์ร่วมกันก็ได้

 

ปัญหาเงินไม่พอ ! อาจจะเป็นเพราะค่าสินสอด หรือขนาดงานแต่งอาจจะเกินงบ ซึ่งคู่รักจะต้องหารายได้เพิ่ม เพื่อให้มีเงินเก็บเพิ่ม และคอยติดตามเรื่องตัวค่าใช้จ่ายของงานแต่งงานอยู่เสมอ ว่าสามารถปรับเปลี่ยนส่วนไหนได้หรือไม่ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงแล้วจะทำให้ประหยัดงบได้มากขึ้น

 

หากถึงเวลางานจริงแล้ว จ่ายไม่ไหวจ แนะนำว่า "ไม่ควรกู้" เพราะการเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการเป็นหนี้ไม่ส่งผลดี อาจมีวิธีแก้ที่ดีกว่า เช่น การเลื่อนเวลาออกไป ปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปแบบของงานแต่งงาน อยากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ เพราะความรักอาจจางลงได้ หากมีปัญหาทางการเงิน