พนันออนไลน์ ตร.ทำผิดเสียเอง "ผู้การแต้ม" ชี้เว็บพนันพรึ่บ 3 หมื่นเว็บ กฎหมายล้าสมัย โทษแค่ปรับ เว็บใหญ่รอด เว็บเล็กถูกจับ ดีอีเอส-กสทช. ต้องไม่โยนความรับผิดชอบกันไปมา
ถกแก้พนันออนไลน์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า จากการสำรวจพบว่าเว็บพนันออนไลน์มีกว่า 30,000 เว็บไซต์ ซึ่งเติบโตขึ้นด้วยปัจจัยหลัก 3 ประกา รคือ 1. กฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ.การพนัน มีโทษน้อยแค่ปรับ จำคุก หรือรอลงอาญา 2.เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง สนับสนุน ให้โอกาส 3.การบังคับใช้กฎหมายมีจุดบกพร่อง เว็บใหญ่รอด เว็บเล็กถูกจับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่สามารถปิดกั้นการเข้าถึงหรือบล็อกได้ และที่น่าตกใจมากขณะนี้คือเว็บต่างๆ ที่เปิดให้ดูหนังฟรี จะแทรกโฆษณาชักชวนให้เล่นการพนัน ทำให้เด็กเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ผู้การแต้ม ระบุว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ คือตัวอย่างที่ดีในการที่ภาคประชาชนออกมาติดตามตรวจสอบ การกระทำความผิดของหน่วยงานภาครัฐ ทำให้สังคมเข้มแข็ง อยากให้ตำรวจเรียกศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมา ด้วยการทำงานตามหน้าที่ ตรงไปตรงมา ไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน พนันออนไลน์เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องตั้งเป็นวาระแห่งชาติ ตำรวจต้องปราบปรามอย่างจริงจัง
ด้านนายประพฤติ ฉัตรประภาชัย แสดงความคิดเห็นว่า ปัจจุบันไม่มีกฎหมายที่บังคับใช้กับพนันออนไลน์ แต่ใช้กฎหมายพนันที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2478 โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี ไม่เข้ากับยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกฎหมายที่ดีต้องเจริญเติบโตไปพร้อมกับสังคม ตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ มีคณะกรรมการการพนัน กำกับดูแล ไม่เน้นลงโทษ แต่เน้นการสร้างข้อกำหนดทางกฎหมายเข้ามาช่วยควบคุม ประเทศสหรัฐอเมริกามีกฎหมายระดับรัฐบาลกลาง ควบคุมการสื่อสารคมนาคม ลงโทษ จำคุก ผู้โฆษณา ผู้รับเงิน
สำหรับบ้านเรา ธนาคารต้องตั้งระบบให้เจ้าของเว็บและผู้เล่นไม่สามารถจ่ายเงินผ่านธนาคารได้ หากจะแก้ปัญหาพนันออนไลน์กลไกของรัฐต้องเข้มแข็ง และนอกเหนือจากกระทรวงดีอีเอสแล้ว กสทช. ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทในการควบคุม มีอำนาจสั่งบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อปิดกั้นการสื่อสารของเว็บพนันออนไลน์ได้ ไม่ใช่โยนความรับผิดชอบกันไปมาอย่างที่เป็นในปัจจุบัน
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า เว็บพนันออนไลน์น่ากลัวกว่าการพนันทั่วไป เพราะสามารถทะลุทะลวงเข้าถึงทุกเพศทุกวัย ทุกชนชั้นในสังคม และเป็นที่น่าเศร้าใจว่าในปัจจุบันมีข่าวคราวของตำรวจซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้รักษากฎหมายกลับเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
+ อ่านเพิ่มเติม