หนุ่มเซ็ง ! รุ่นพี่แสบ อาศัยจังหวะหลับ แอบเอารถไปขับ สุดท้ายซิ่งชนพังยับ ไม่รับผิดชอบ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

หนุ่มสุดเซ็ง ซื้อรถด้วยเงิยสด 4.4 แสน กลับถูกรุ่นพี่แสบ อาศัยจังหวะตัวเองหลับ แอบเอารถไปขับ ชนทางเท้าพังยับ ชดใช้แค่ 1 หมื่น สุดท้ายหายจ้อย 

 

 

            วันที่ 13 ก.พ. 66 ติณห์ สวัสดี (บาน) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65 นายไปร์ท มานั่งเล่นที่บ้านของตน จนเช้าวันรุ่งขึ้น(11 ต.ค. 65) ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่นั้น เขาก็เอากุญแจรถของตนออกไปขับ โดยไม่ได้ขอตนสักคำ จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ก็มีคนโทรมาบอกว่าเขาเอารถของตนไปขับชนทางเท้าอย่างแรง สภาพรถพังยับเยิน ซึ่งตนได้เสนอให้นายไปร์ทซื้อซากรถต่อไปเลย เพราะต่อให้ซ่อมกลับมาก็ไม่เหมือนเดิม เพราะชนหนัก 

 

 

            โดยตกลงราคากันที่ 410,000 ส่วนรถ คันดังกล่าว ตนซื้อด้วยเงินสดมาจำนวน 440,000 บาท หลังจากตกลงกันได้ เขาจ่ายเงิน มาแค่รอบเดียว 10,000 บาท  แล้วก็ไม่จ่ายอีกเลย ขณะเดียวกัน ตนไม่ได้แจ้งความแค่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพระเห็นบ้านเขามีเงิน เปิดโรงกลึง มีรถมอเตอร์ไซค์ 3-4 คัน รวมถึงรถกระบะด้วย พร้อมทั้งเพิ่งทำรั้วล้อมบ้านใหม่ คิดว่าเขาจะรับผิดชอบ แต่พ่อเขากลับบอกว่าไม่มีเงินจ่าย

 

            ด้าน ไปร์ท (นามสมมติ) ผู้ที่นำรถไปขับชน กล่าวว่า ที่ตนไปนั่งอยู่บ้านนายบานยันเช้า เพราะตนทะเลาะกับพ่อ กลับบ้านไม่ได้ แต่พอตอนเช้าตนคิดว่าจะกลับไปคุยกับพ่อ เลยไปขอยืมรถนายบาน แต่นายบานหลับอยู่ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เลยหยิบเอากุญแจเขามา ขับรถกลับบ้าน ซึ่งรถคันดังกล่าวตนยืมเขาเป็นประจำอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดอะไร กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนเรื่องเงินรับผิดชอบ ตอนแรกตนเสนอว่าจะซ่อมรถให้ แต่เขาไม่เอา จึงเสนอว่าจะออกรถใหม่ให้ โดยให้รถเป็นชื่อของนายบาน แต่ตนจะส่งเงินผ่อนให้ตลอด เขาก็ไม่เอา ทั้งนี้ ตนจ่ายเงินไปให้เขาแล้วกว่า 30,000 บาท 

 

 

            ฟาก ทนงค์ พ่อของผู้ที่นำรถไปขับชน กล่าวว่า ตนไม่มีเงิน เพราะธุรกิจก็มีปัญหาปิดตัวไป 2 ปี จากโควิด ตอนนั้นก็เพิ่งเริ่มกลับมาทำใหม่ ซึ่งก็กู้หนี้ยืมสินเขามา เลยไม่มีเงินก้อนให้เขา และก่อนหน้านี้ก็เคยทำสัญญากับพ่อของนายบานสรุปว่าเขาจะเอาเงินแค่ 100,000 บาท มีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน โดยพ่อของนายบานเอาเงินไป 13,000 บาท ขณะเดียวกันตนยินดีผ่อนคืนให้ได้แค่เดือนละ 5,000 หากจะดำเนินคดีก็ดำเนินการได้เลย ทั้งนี้ ตนเคยถูกกลุ่มนายบานเข้ามาข่มขู่เรียกเงินถึงในบ้าน ตนยืนยันว่าจะแจ้งความ 

 

            นายบาน กล่าวต่อว่า ที่นายไปร์ทบอกว่าเขายืมรถตนเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องจริง ตนแค่เคยวานให้เอารถไปกลับ แล้วนำมาจอดแค่ครั้งเดียวที่บางแสน ส่วนเรื่องสัญญา ที่พ่อของนายไปร์ท ทำกับพ่อของตนไว้ ตนไม่รู้เรื่องเลย เพราะตนกับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากได้เงินคืนทั้งหมด 270,000 บาท โดยหักทั้งเงินที่เขาเอาให้พ่อตนไป รวมถึงค่าซากรถที่ตนขายแล้วได้เงินมาแล้วด้วย 

 

 

            ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เคสนี้ ตนเชื่อว่าตำรวจรับแจ้งความแน่นอน ขึ้นศาลด้วย และอัยการ น่าจะเรียกคืนให้ทั้งหมด เพราะรถของนายบาน ถูกเอาไปโดยพลการ อีกทั้งเจ้าตัวยังยืนยันว่าไม่เคยให้ยืมเป็นประจำ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ยอมความไม่ได้

 

           ทางออกที่ดีที่สุด มี 2 ทางเลือก คือ จะเอาเงินไปประกันตัว หรือจะเอาเงินมาจ่ายคืนเขา ขณะที่สัญญาที่พ่อทนงค์ ทำไว้กับพ่อของนายบาน ตามกฎหมายแล้ว ต้องมาทำกับเจ้าตัวโดยตรง เพราะนายบานเป็นเจ้าของทรัพย์