หนุ่มสุดช้ำ โดนรุ่นพี่แสบแอบเอารถไปขับ ชนยับ ไม่รับผิดชอบ ไล่ไปฟ้องเอา !

แบบนี้ก็ได้หรอ ! หนุ่มสุดงง หลับอยู่ในบ้าน ถูกรุ่นพี่แสบ แอบเอารถไปขับ ชนทางเท้าสภาพยับเยิน ซ้ำ พอเรียกค่าเสียหายกลับไม่รับผิดชอบ พร้อมไล่ให้ไปฟ้อง 

 

 

            วันที่ 13 ก.พ. 66 ติณห์ สวัสดี (บาน) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65 นายไปร์ท มานั่งเล่นที่บ้านของตน แล้วเขากลับบ้านไม่ไหวเลยขอนอนพักที่บ้านเรา วันรุ่งขึ้น(11 ต.ค. 65) ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่นั้น เขาก็เอากุญแจรถของตนออกไปขับ โดยไม่ได้ขอตนสักคำ จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ก็มีคนโทรมาบอกว่าเขาเอารถของตนไปขับชนทางเท้าอย่างแรง จากนั้นตนจึงรีบไปที่เกิดเหตุ  ก็เห็นสภาพรถพังยับเยิน 

 

 

            ทั้งนี้ คำนวนค่าซ่อมออกมาแล้วประมาณ 200,000 กว่าบาท ตนจึงเสนอให้นายไปร์ทเอาซื้อซากรถต่อไปเลย เพราะต่อให้ซ่อมกลับมา แต่ชนมาหนัก สภาพมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ซึ่งตกลงกันได้ว่าเขาจะรับผิดชอบที่ 410,000 บาท โดยตนซื้อรถคันดังกล่าว ตนซื้อด้วยเงินสดมาจำนวน 440,000 บาท ซึ่งหลังจากตกลงกันได้ เขาก็ไม่ได้จ่ายตนสักบาท จ่ายมาแค่รอบเดียว 10,000 บาท พร้อมทั้งยังอ้างว่า พ่อของตนไปเอาเงินจากเขามา 30,000 บาท เลยให้เขาหักเงินจำนวนนั้นไป 

 

            ขณะเดียวกัน ตนได้แค่ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ไม่ได้แจ้งความ เพราะตนสงสารเขาที่เขาเจ็บตัวเหมือนกัน อีกอย่างคือ ที่บ้านเขาเปิดโรงกลึง ตนเห็นว่าที่บ้านเขามีเงิน คิดว่าเขาจะช่วยตน ซึ่งเขาก็มีรถมอเตอร์ไซค์ 3-4 คัน รวมถึงรถกระบะด้วย พร้อมทั้งเพิ่งทำรั้วล้อมบ้านใหม่ แต่พ่อเขากลับบอกว่าไม่มีเงินจ่าย ตนไปทวงเงิน ก็บอกว่า ตนไปก้าวร้าวเกเร ไปทวงทำไมทุกวัน จะแจ้งความบุกรุกตนอีกด้วย 

 

 

            ด้าน ไปร์ท (นามสมมติ) ผู้ที่นำรถไปขับชน กล่าวว่า คืนก่อนวันที่เกิดเหตุ ตนนั่งกินอยู่บ้านนายบาน ซึ่งตนกลับบ้านไม่ได้เนื่องจากทะเลาะกับพ่อ แต่พอช่วงเช้าตนคิดว่าจะกลับไปคุยกับพ่อ จึงไปเรียกนายบานที่หลับอยู่ แต่เขาไม่ตื่น เลยหยิบเอากุญแจเขามา ขับรถกลับบ้าน ซึ่งรถคันดังกล่าวตนยืมเขาเป็นประจำอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดอะไร กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น ยืนยันว่าตนไม่ได้ขับรถเร็ว  

 

            ส่วนเรื่องเงินค่ารับผิดชอบ 410,000 บาท ตอนนั้นตกลงกันหลังจากเพิ่งเกิดอุบัติเหตุ ตนยังมีอาการตกใจ คิดอะไรไม่ออก เลยไม่ได้แย้งอะไรเขา ซึ่งตอนแรกตนเสนอว่าจะซ่อมรถให้ แต่เขาไม่เอา จึงเสนอว่าจะออกรถใหม่ให้ โดยให้รถเป็นชื่อของนายบาน แต่ตนจะส่งเงินผ่อนให้ตลอด ฃ

 

            ทั้งนี้ ตนจ่ายเงินไปให้เขาแล้วกว่า 30,000 บาท โดยให้พ่อเขาไป 10,000 บาท ตัวเขาเองก็เอาจากที่บ้านตนไปอีก 10,000 และตนยังให้เขาไปอีก 5,000 รวมทั้งส่วนที่พ่อตนให้ให้พ่อเขาอีก 

 

 

            ฟาก ทนงค์ พ่อของผู้ที่นำรถไปขับชน กล่าวว่า ตนไม่มีเงิน เพราะธุรกิจก็มีปัญหาปิดตัวไป 2 ปี จากโควิด ตอนนั้นก็เพิ่งเริ่มกลับมาทำใหม่ ซึ่งก็กู้หนี้ยืมสินเขามา เลยไม่มีเงินก้อนให้เขา และก่อนหน้านี้ก็เคยทำสัญญากับพ่อของนายบานสรุปว่าเขาจะเอาแค่ 100,000 บาท มีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน โดยพ่อของนายบานเอาเงินไป 13,000 บาท ทั้งนี้ ตนเคยถูกกลุ่มนายบานเข้ามาข่มขู่เรียกเงินถึงในบ้าน ตนยืนยันว่าจะแจ้งความ 

 

            นายบาน กล่าวต่อว่า ที่นายไปร์ทบอกว่าเขายืมรถตนเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องจริง ตนแค่เคยวานให้เอารถไปกลับ แล้วนำมาจอดแค่ครั้งเดียวที่บางแสน ส่วนเรื่องเงิน 5,000 ที่เขาเคยให้ตนมา มันไม่ได้เกี่ยวกับคดีรถ ตนได้คุยกับนายไปร์ทนอกรอบแล้ว 

 

            ส่วนเรื่องสัญญา ที่พ่อของนายไปร์ท ทำกับพ่อของตนไว้ ตนไม่รู้เรื่องเลย เพราะตนกับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะพ่อแม่แยกทางกัน แล้วปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว แล้วพ่อตนก็ไม่เคยเอาเงินมาให้ตนด้วย อย่างไรก็ตาม เงินที่เขาเอาให้พ่อตนไป ตนไม่ได้ติดใจอะไร ให้เขาหักจากยอดทั้งหมดได้เลย ขณะที่ยอดทั้งหมด ตนขอเรียกค่าเสียหาย 270,000 บาท จากยอดทั้งหมด 370,000 บาท โดยหักจากค่าซากรถที่ตนนำไปขายแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยินดีให้เขาผ่อน เดือนละ 20,000 บาท

 

 

            ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า นายไปร์ทพยายามเน้นย้ำว่า ยืมกุญแจรถหลายรอบ ซึ่งมันเคยมีแนวคำตัดสินศาลฎีกามาแล้ว ว่าไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ถ้ามีการเคยยืมใช้กันเป็นประจำ แต่ถ้าไม่เคยยืม จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ยอมความไม่ได้ ซึ่งเคสนี้ ตนเชื่อว่าตำรวจรับแจ้งความแน่นอน ขึ้นศาลด้วย มูลค่าทรัพย์ที่เสียหายไปทั้งหมด ตนคิดว่าอัยการน่าจะเรียกคืนให้ทั้งหมด เพราะรถของนายบานมันอยู่ในบ้าน ถูกเอาไปโดยพลการ และจากปากของเขา เขาไม่เคยให้ยืมเป็นประจำ 

 

            ทั้งนี้ ทางออกที่ดีที่สุด นายไปร์ทต้องยอมรับสภาพก่อนว่าต้องรับผิดชอบรถของเขา เพราะเป็นคนขับรถคันดังกล่าวไปก่อเหตุ ทางเลือกมี 2 ทาง คือ จะเอาเงินไปประกันตัว หรือจะเอาเงินมาจ่ายคืนเขา ขณะที่สัญญาที่พ่อทนงค์ ทำไว้กับพ่อของนายบาน ตามกฎหมายแล้ว ต้องมาทำกับเจ้าตัวโดยตรง เพราะนายบานเป็นเจ้าของทรัพย์