มาเฟียรถไฟ ! เรียกเบ๊รุมกระทืบ “พ่อค้าข้าวหมกไก่” เหตุขึ้นไปขายบนรถไฟ

เช้านี้ที่หมอชิต - กลุ่มผู้ขายของในสถานีรถไฟชุมพร ที่อ้างว่าเป็นผู้ได้รับสัมปทาน ไม่พอใจ 2 ผัวเมียที่มาขายอาหารอิสลามบนตู้โบกี้รถ ก่อนจะเรียกพวกรุมทำร้ายต่อหน้าผู้โดยสารนับพันคน โชคดีมีทหารที่โดยสารมากับรถไฟลงมาห้ามไว้ได้ มิเช่นนั้นอาจถึงตาย

 

โดยกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวกัลยรัตน์ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดชุมพร (ผู้เสียหาย) เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 22.00 น. ตนเองพร้อมด้วย นายวรชัย อายุ 24 ปี สามี ซึ่งมีอาชีพขายข้าวหมกไก่ใส่กล่อง และขายเฉพาะบนตู้โบกี้โดยสารเท่านั้น โดยแต่ละวันตนเองพร้อมสามีจะขับรถยนต์ไปจอดที่สถานีรถไฟปะทิว แล้วจะซื้อตั๋วโดยสาร คนละ 57 บาท พร้อมค่าระวางอีกคนละ 20 บาท แล้วจะเดินเร่ขายบนตู้โบกี้ ซึ่งขบวนรถไฟที่ตนเองขึ้นมาขายประจำ คือ ขบวน 171 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิม ซึ่งครอบครัวตนเองทำมาค้าขายแบบนี้มากว่า 20 ปี แต่ตนเองได้แยกมาขายได้เพียง 2 ปี

 

ในวันเกิดเหตุ ขณะที่รถไฟขบวน 171 กำลังจอดเทียบชานชาลา ได้มีชาย-หญิง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นสามี-ภรรยากัน ได้ขึ้นมาบนขบวนรถ พร้อมกับชี้หน้าต่อว่าตนเองว่า มีสิทธิอะไรมาขายของที่สถานีรถไฟแห่งนี้ ซึ่งเขาอ้างว่า เขาได้รับสัมปทานมาถูกต้อง ซ้ำพูดดูถูกด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายอย่าง และยังเรียกตนเองว่า ไอ้พวกแม่ค้าเร่เถื่อน ซึ่งตนเองได้พยายามเจรจาชี้แจงด้วยคำสุภาพ แต่ไม่เป็นผล ทั้งสามี-ภรรยากลับต่อว่าหนักขึ้น และเสียงดัง จนผู้โดยสารทั้งบนรถและที่รอเตรียมขึ้นรถต่างหันมาดูเป็นตาเดียว

 

จากนั้น ตนเองกับสามีได้ลงรถ และกำลังวางสิ่งของที่ชานชาลา ฝ่ายผู้หญิงก็ได้ปรี่เข้ามากระชากแขนตนเองพร้อมต่อว่าอีก ตนเองได้สะบัดแขน และตอบกลับไปว่า อย่ามาจับแขนตน แล้วก็ไปชี้แจงต่อกับทางสามีเขา แต่พูดได้ไม่กี่คำ ทางตัวผู้ชายได้ตบมือเหมือนส่งสัญญาณเรียกกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน เข้ามารุมเตะต่อยตนเอง และกระทืบสามีตนเองจนล้มลุกคลุกคลาน ผู้โดยสารทั้งบนรถและที่อยู่บนชานชาลาแตกตื่นต่างวิ่งหนี และบางคนก็เข้าห้ามปราม จนพวกนั้นล่าถอยกลับไป ตนพร้อมสามีโชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะมีทหารคนหนึ่งที่โดยสารมากับรถขบวนนี้ ได้วิ่งลงมา และได้ช่วยเหลือตนเองจนรอดเงื้อมมือพวกอันธพาลกลุ่มนี้

 

จากการตรวจสอบร่างกายสามีตนเองถูกฟันเข้าที่แผ่นหลัง ที่ศีรษะ ตนเองรู้สึกเจ็บใจมาก โดยเฉพาะตัวผู้ชายที่ใจร้าย โหดร้ายมาก ยังเข้ามาเตะตนเองเข้าบริเวณชายโครงจนจุก และตนเองกำลังตั้งท้อง 3 เดือน อีกด้วย ซึ่งตนเองจะไม่ยอมความแต่อย่างใด จะแจ้งความดำเนินคดีกับพวกนี้ให้ถึงที่สุด

 

ด้าน นายเผชิญชัย อายุ 38 ปี อดีตพ่อค้าอยู่ในสถานีรถไฟ กล่าวว่า ตนเองเคยขายข้าวหมกไก่อยู่กับแม่ค้าชาวอิสลามกลุ่มนี้มานานนับ 10 ปี จนกระทั่งเลิกอาชีพนี้ มายึดอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ อยู่ที่สถานีรถไฟชุมพร และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร พ่อค้าแม่ค้ารายอื่น ๆ ก็ต่างฝ่ายต่างขายกันไป แต่มาชุดนี้กลับเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งตนเองยอมรับว่าโหด ใจร้ายเกินไป ไม่ควรถึงขั้นลงมือลงไม้ ควรคุยปรับความเข้าใจกันดีกว่า

 

ด้าน พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร แล้ว ตนเองพร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ก็ได้ออกไปเก็บกล้องวงจรปิดบนสถานีรถไฟชุมพร ซึ่งครั้งแรกที่ไปขอไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด ซึ่งตนได้พยายามชี้แจง ก็ได้มาบางส่วน ซึ่งก็พอสามารถนำมารวบรวมกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ได้ ในเบื้องต้นขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุบางรายแล้ว และกำลังจะรอเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป

 

ขอบคุณภาพจาก : Facebook อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6