เช้านี้ที่หมอชิต - เป็นประเด็นที่น่าจะนำไปสู่การป้องกันได้หรือเปล่า เมื่อตำรวจ ปอศ. บุกรวบอดีตสาวแบงก์ หลังจากมีลูกค้านำเช็คเงินสดไปฝากชำระหนี้ให้ธนาคาร พนักงานคนหนึ่งกลับเอาเช็คไปใส่บัญชีสามี ยอดเสียหายกว่า 36 ล้านบาท งานนี้ถูกรวบทั้งคู่
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. บุกไปจับกุม นางสาวลตา กิตติวัฒนภาพย์ อายุ 33 ปี พร้อมกับสามี คือ นายภรัณยู ธัชศฤงคารสกุล อายุ 36 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ภายในห้องพักชั้น 20 ของคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 2 แห่ง นำเช็คเงินสดมาฝากเข้าธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ที่ติดค้างกับทางธนาคาร รวมเป็นเงินกว่า 36 ล้านบาท โดยดำเนินการผ่าน นางสาวลตา ผู้ต้องหา ซึ่งขณะนั้นเป็นพนักงานของธนาคาร ที่คอยทําหน้าที่ดูแลและประสานงาน แต่ต่อมาปรากฏว่ายอดเงินทั้งหมดกลับไม่ได้ถูกนำไปชำระหนี้ธนาคารแต่อย่างใด จนนำมาสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า นางสาวลตา ได้แอบนำเช็คเงินสดดังกล่าวฝากเข้าบัญชีธนาคารของ นายภรัณยู ผู้ต้องหาอีกราย ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ก่อนนำไปใช้จ่ายส่วนตัว จึงมีการเข้าแจ้งความไว้ที่พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จนนำมาสู่การออกหมายจับและตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ดังกล่าว
คนเป็นภรรยาถูกตั้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง และเป็นพนักงานของสถาบันการเงิน กระทําการแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองโดยมิชอบ ส่วนสามีโดนข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
จากการสอบสวนในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ เบื้องต้น จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้าน พันตำรวจเอก เมฆพิศาล ผู้กำกับการของกองกำกับการ 5 บก.ปอศ. บอกว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตําแหน่งเป็นพนักงานธนาคาร ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบการเงินการธนาคาร จึงอาศัยช่องว่างของข้อความที่ระบุบนเช็ค แอบโอนเงินที่ต้องสั่งจ่ายให้ธนาคารไปเป็นของตนเอง จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้จะดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม