มีน้องนักเรียนหญิงชั้น ม.4 อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงคลิปเรื่องราวไว้ใน TikTok ว่า อยู่ดี ๆ เงินหายออกจากในบัญชี 500,000 กว่าบาท เจ้าตัวยืนยันไม่เคยกดรับลิงก์ใดใด ไม่เคยรับสายแปลก ที่สำคัญเงินก้อนนี้เป็นเงินจากการเสียชีวิตของพ่อแม่ที่เกิดอุบัติเหตุ ตนเองต้องเก็บไว้เรียนหนังสือ ล่าสุด น.ส.บี นามสมมติ พร้อมญาติ ๆ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
น.ส.บี นามสมมติ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนพร้อมพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนท้าย ทำให้พ่อแม่เสียชีวิต ส่วนตนบาดเจ็บสาหัส นอน รพ.เกือบ 1 เดือน หลังจากออกจาก รพ.แล้ว ตนได้รับเงินจากประกันและ พ.ร.บ.จากอุบัติเหตุรวมเป็นเงินกว่า 2 ล้าน 9 แสนกว่าบาท โดนโอนทั้งหมดเงินเข้าบัญชีของธนาคารออมสิน สาขาปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ชื่อบัญชีของตน จากนั้นตนได้นำเงิน 1 ล้านบาทไปซื้อสลากออมสิน และอีก 1 ล้านบาทไปซื้อสลาก ธกส. เหลือเงินในบัญชีกว่า 9 แสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาตนใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องทุนการศึกษาของตน จนเหลือเงินบัญชี กว่า 5 แสนบาท เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและทุนการศึกษาของตน
ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา พบว่าได้มีโอนเงินออกจากบัญชีของตนวันเดียวถึง 14 ครั้ง เงินสูญหายไปจากบัญชีจำนวน 511,100 บาท เหลือเงินในบัญชีแค่ 800 บาท จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ว่าเงินของตนได้ถูกดูดสูญหายไปกว่า 5 แสนบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ย. วันเดียวกันถึง 14 ครั้งด้วยกัน ซึ่งหลังแจ้งความกับตำรวจแล้ว ทางตำรวจได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลจากธนาคารออมสิน สาขาปากพนัง โดยได้ข้อมูลว่า เป็นการทำธุรกรรมผ่านแอปฯ ธนาคารออมสิน ในชื่อของตนเอง ไปยังชื่อ น.ส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก เป็นบัญชีปลายทางอยู่กรุงเทพมหานคร โดยเริ่มโอนออกครั้งแรก 300 บาทและเพิ่มยอดโอนเรื่อย ๆ ภายในวันเดียวกัน 4,800 บาท, 6900 บาท, 9,600 บาท, 12,900 บาท, 18,900 บาท, 30,000 บาท, 10,000 บาท, 38,000 บาท, 81,000 บาท, 120,000 บาท, 180,000 บาท และ 36,000 บาท รวมยอดเงินที่ถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมด 511,100 บาท เหลือเงินในบัญชีเพียง 800 บาทเท่านั้น
ทำให้ตนตกใจมากเพราะที่ผ่านมาแม้ตนจะมีแอปฯ ธนาคารออมสิน แต่ไม่เคยกดโอนไปไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยกดลิงก์หรือไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์อะไรเลย รวมทั้งไม่เคยกดรับสายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้รู้สึกงงและตกใจว่าเงินตนหายไปได้อย่างไรจนเกือบเกลี้ยงบัญชีกว่า 5 แสนบาท ทางธนาคารก็ไม่รับผิดชอบอะไร แจ้งความกับตำรวจก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ผ่านมา 3 เดือนแล้ว
ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้ออกมาช่วยเหลือตนด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจไซเบอร์อยากให้ลงมาช่วยเหลือตนด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีผู้เสียหายที่จังหวัดเลย ถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาแจ้งว่ามาจากหน่วยงานสรรพากร ถามว่าเบอร์นี้ผูกกับไลน์หรือเปล่า ซึ่งผู้เสียหายก็ตอบไปว่า “ใช่” จากนั้นปลายสายก็วางสายไป ต่อมาก็มีสายจากไลน์โทรมา แต่แฟนไม่รับสาย เพราะรู้ว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงตัดสายทิ้งไป ระหว่างนั้นเครื่องโทรศัพท์ค้างทำอะไรไม่ได้เลย จนสักพักมือถือใช้งานได้ปกติ แต่มีข้อความเด้งขึ้นมาว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของแฟน โอนเงินเข้าไปอีกบัญชีธนาคาร ในระบบพร้อมเพย์ ซึ่งเป็นหมายเลขเดียวกับที่โทรมาตอนแรก จำนวน 360,000 บาท
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35