เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 มีกรณีแม่ค้าขายกล้วย ร้องขอความช่วยเหลือมาทางรายการ เนื่องจากลูกชายโอนเงินผิดบัญชี 15,000 บาท แต่บัญชีปลายทางไม่ยอมคืนเงิน แถมยังมีการท้าทายให้แจ้งความ บอกตนเองพร้อมเข้าคุก โดยวันนั้นมี คุณจ๋า และคุณโอ (ลูกชาย) มาเล่าเรื่องในรายการ โดยมีทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ มาร่วมให้คำปรึกษาทางกฎหมายในรายการ
โดยคุณโอเปิดเผยในรายการว่า ต้องการโอนเงิน 15,000 บาท เข้าบัญชีแม่จ๋า ผ่านช่องทางพร้อมเพย์ แต่กดเลขผิด 1 ตัว จึงทำให้โอนผิดไปเข้าบัญชีคุณสุดารัตน์ (บัญชีปลายทาง) ซึ่งหลังจากทราบว่าโอนผิดบัญชี ก็รีบโทรไปที่เบอร์พร้อมเพย์ดังกล่าว โดยโทรไปประมาณ 100 ครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย ตนจึงได้รีบแจ้งความที่ สภ. เมืองร้อยเอ็ดทันที
หลังจากนั้นคุณโอ จึงหาช่องทางติดต่อกับบัญชีปลายทางเพื่อให้โอนเงินคืน โดยทาง คุณสุดารัตน์ เจ้าของบัญชีปลายทางตอบกลับมาว่า ไม่สามารถโอนเงินคืนให้ได้ โดยอ้างว่าไม่รู้ว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี เนื่องจากเป็นบัญชีที่ตนไม่ค่อยได้ใช้ และก่อนหน้านี้ตนได้กู้เงินธนาคารไว้แต่ไม่ได้จ่ายคืน ทำให้เงินที่เข้ามานั้นถูกทางธนาคารหักไปอัตโนมัติ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ผ่านมาประมาณ 5 เดือนแล้ว ทางคู่กรณีก็ยังไม่โอนเงินคืนมาแม้แต่บาทเดียว
คุณจ๋าเปิดเผยว่า ตนเองเดือดร้อนมาก เพราะเงินก้อนนั้นเป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในการค้าขาย ซึ่งทางรายการได้ติดต่อให้ คุณสุดารัตน์ โทรเข้ามาในรายการ เพื่อเจรจาหาข้อยุติกัน แต่คำตอบที่ได้คือ คุณสุดารัตน์ไม่มีเงินก้อนจะมาคืน ทำได้เพียงผ่อนชำระคืนให้เดือนละ 500 บาท และไม่ขอรับปากว่าจะหาเงินมาคืนได้ภายในกี่วัน
ขณะที่ทนายสงกาญ์ ได้แนะข้อกฎหมายว่า คดีนี้เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ พฤติกรรมนั้นส่อให้เห็นถึงเจตนาการนำเงินของผู้อื่นไปใช้ หากบัญชีปลายทางไม่คืนเงิน อาจจะเสียเงินในการสู้คดีมากกว่า 15,000 บาท จึงแนะนำว่าให้รีบนำเงินไปคืน
ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางบัญชีปลายทางหรือคุณสุดารัตน์ ได้ติดต่อมาทางทีมงานรายการถกไม่เถียงด้วยน้ำเสียงลนลานว่า ตอนนี้พร้อมที่จะโอนเงินคืนให้บัญชีต้นทาง 15,000 บาท แบบเต็มจำนวน ไม่ขอผ่อนจ่าย จึงอยากจะขอเลขบัญชีต้นทางเพื่อโอนเงินคืน เนื่องจากตนติดต่อบัญชีต้นทางไม่ได้เลย
ขณะที่ทางคุณจ๋าให้ข้อมูลกับทางทีมงานว่า ตนไม่ขอรับเงินคืนแล้ว แต่จะแจ้งความดำเนินคดีกับคุณสุดารัตน์แทน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีปลายทาง พบว่าได้มีการโอนเงิน 15,000 บาทที่โอนผิดนี้ เข้าอีกบัญชีหนึ่งของตนเอง ทางคุณจ๋าจึงไม่ขอรับเงินคืนและดำเนินการเอาผิดฐานยักยอกทรัพย์
สำหรับกรณีนี้ ทางรายการถือว่าได้ดำเนินการหาข้อยุติของทั้ง 2 ฝ่ายจนถึงที่สุดแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ หากทางคุณจ๋าจะดำเนินการต่อไปไปในทิศทางใด ทางรายการก็จะไม่ขอก้าวก่าย และถือว่าเป็นเคสตัวอย่างให้กับกรณีอื่น ๆ ที่มีการโอนเงินผิด ถ้าเงินนั้นไม่ใช่เงินของเรา แนะนำว่าอย่าเอาไปใช้ หากสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่ใช่ขบวนการมิจฉาชีพ ก็รีบติดต่อโอนเงินคืนเขา ไม่เช่นนั้น จะเป็นอย่างกรณีนี้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35