วันนี้ (6 ก.พ.) เป็นวันแรกที่ทัวร์จีนกรุ๊ปแรก จะเดินทางมาเข้ามายังประเทศไทย แน่นอนว่า เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งตารอ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากช่วงโควิด-19 แต่กลับมีคนบางกลุ่มกลับสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับประเทศไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว ทั้งถีบ ทั้งใช้มีดฟันแขนนักท่องเที่ยวจนเป็นแผล รวมถึงเรื่องของบริการแบบ “VVIP” อีกด้วย
วันนี้ 6 ก.พ.2566 เป็นวันแรกที่ทางการจีนจะเริ่มอนุญาตให้ชาวจีน เดินทางไปท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ได้ใน 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนกรุ๊ปแรก จำนวน 180 คน จะเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง โดยสายการบินสปริงแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 9C741 เส้นทางนครกว่างโจว-ดอนเมือง โดยทัวร์กรุ๊ปนี้มีโปรแกรมที่จะไปท่องเที่ยวกรุงเทพ และ พัทยา จำนวน 6 วัน ซึ่งจะไปที่วัดพระแก้ว เยาวราช พระใหญ่ วัดปากน้ำ พัทยา สวนนงนุช เกาะเสม็ด
แม้หลายคนจะดีใจกับการที่ทางการจีนอนุญาตให้ชาวจีน เดินทางไปท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหลาย แต่กลับเกิดเรื่องฉาวขึ้นกับการท่องเที่ยวไทย เมื่อนักท่องเที่ยวจีนได้โพสต์ “TikTok” ว่า มาเที่ยวภูเก็ต ซื้อแพ็กเกจแบบวันเดียวเที่ยวเกาะสิมิลัน ราคา 9,000 บาท จ่ายเงินมัดจำ 5,000 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดหมาย บริษัททัวร์อ้างไปผิดโรงแรม พอขอเงินคืน ก็ไม่พอใจ ทั้งถีบ ทั้งใช้มีดฟันแขนนักเที่ยวจนเป็นแผล
นี่เป็นส่วนหนึ่งของคลิปวีดีโอที่ถูกนำไปเผยแพร่ใน “TikTok” ของจีน โดยมีผู้หญิงคนหนึ่ง พูดภาษาไทย เดินมาใช้เท้าขวาถีบคนที่ถ่ายคลิป พร้อมสบถคำด่าเป็นภาษาไทย ก่อนจะใช้มีดขนาดเล็กฟันแขนคนที่ถ่ายคลิปจนเป็นแผลยาวตามแนวขวางของแขน
โดยคลิปฉบับเต็มที่ถูกทำไว้ค่อนข้างละเอียด อธิบายที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้ว่า ครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่ง ติดใจประเทศไทยและเคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยหลายรอบ แต่การมาไทยครั้งล่าสุดนี้ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและผิดหวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็ก ๆ ในครอบครัวอยากดูเต่าทะเล ทางผู้ใหญ่จึงวางแผนเที่ยว โดยเดินทางมาจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เพื่อมาเที่ยวเกาะภูเก็ต
และเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ซื้อแพคเกจทัวร์เที่ยวเกาะสิมิลันแบบ 1 วัน (One day tour) ราคา 9,000 บาท กับบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้โรงแรมที่พัก โดยจะออกเดินทางในวัน 31 ม.ค. และได้ชำระเงินมัดจำไป 5,000 บาท
ต่อมา วันที่ 30 ม.ค. เวลาประมาณ 20.30 น. นักท่องเที่ยวได้ส่งข้อความไปถามว่า “จะมารับกี่โมง” และยังมีการส่งนามบัตรของโรงแรมให้ทางบริษัททัวร์อีกด้วย
จากนั้นบริษัทนำเที่ยว ได้นัดนักท่องเที่ยวจะไปรับที่ล็อบบี้โรงแรมเวลา 05.50 น. ของวันที่ 31 ม.ค. แต่พอถึงเวลานัดหมาย นักท่องเที่ยวจีนครอบครัวนี้ รอบริษัททัวร์มารับอยู่นาน ก็ไม่เห็นมา ระหว่างนั้นพยายามโทรศัพท์หาบริษัททัวร์หลายรอบ ตั้งแต่เวลา 06.03 น. จนถึงเวลา 07.03 น. รวมโทรทั้งหมด 7 ครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับสาย
ภายหลังบริษัททัวร์อ้างว่า พวกเขาไปรับผิดโรงแรม จึงไม่เจอนักท่องเที่ยว ทางนักท่องเที่ยวเองก็รู้สึกว่าพวกเขาอาจถูกพวกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง นักท่องเที่ยวเลยไปแจ้งความกับตำรวจและได้ไปที่บริษัททัวร์แห่งนี้กับตำรวจ เพื่อเจรจาขอคืนเงินมัดจำ 5,000 บาท
หลังจากเจรจากันหลายครั้ง บริษัททัวร์ยอมคืนเงินให้เพียง 3,000 บาทเท่านั้น ทางนักท่องเที่ยวรู้สึกว่าพวกเขาเองไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องมาหักเงิน 2,000 บาท อย่างไม่ยุติธรรม ดังนั้น บริษัททัวร์ควรคืนเงินเต็มจำนวน 5,000 บาท ทั้งสองฝ่ายเกิดมีปากเสียงกัน ทางคนของบริษัททัวร์มีการข่มขู่และได้ทำร้ายร่างกายโดยการถีบและใช้มีดฟันที่นักท่องเที่ยวจนได้รับบาดเจ็บ
หลังจากได้รับบาดเจ็บได้ไปแจ้งตำรวจอีกครั้ง และไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่นักท่องเที่ยวบอกว่า ผิดหวังกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ไปขอความช่วยเหลือ เขาบอกว่าได้เงิน 5,000 บาท แต่มันควรจะถูกต้อง ที่สำคัญเขาบอกว่าเขารักเมืองไทย เพราะผู้คนและสถานที่ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสียใจและผิดหวังมาก
และนอกจากเรื่องการทำร้ายนักท่องเที่ยวแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ก็คือ เรื่องของ “แพ็กเกจทัวร์จีน VVIP” ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กดังอย่าง “เพจลุยจีน” ซึ่งออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดที่ลูกเพจส่งมาให้ว่า พวกเอเจนซียังคงขายแพ็กเกจทัวร์จีน VVIP รับผ่านด่าน ตม.และสนามบินไทยตามปกติ ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และภูเก็ต
โดยระบุข้อความอีกว่า จะกลัวอะไร ก็แค่เคยขึ้นข่าวหน้าหนึ่งที่ประเทศไทย คนทำงานเขาต้องหาเงินต่อ และบนหน้าเว็บไซด์เถาเป่า ก็ยังซื้อได้ตามปกติ หลายร้านกลับมาเปิดบริการอย่างครึกครื้นอีกครั้ง ส่วน “รถแต่งเหมือนตำรวจนำขบวน” นั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าลดรอบลงหรืองดไปก่อน
ส่วนแพ็จเกจ VVIP สุวรรณภูมินั้น ทางเอเจนซี่ขอขึ้นราคา ส่วนเชียงใหม่-ภูเก็ต บริการปกติ ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องกรอกเอกสารเอง
จ.ภูเก็ต แจ้งข้อหาผู้หญิงทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวจีน
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน คือ ผู้หญิงอายุ 44 ปี และได้สอบปากคำ โดยทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้ว
พ.ต.อ. คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำผู้ต้องหามาสอบปากคำถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งทางผู้ต้องหาได้เล่าเหตุการณ์และให้การรับสารภาพ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.อ. พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผู้กำกับการ 2 บก.ท่องเที่ยว 2 บอกว่า ตำรวจท่องเที่ยวมีหน้าที่ในการดูแลนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ช่วงนี้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ จึงขอให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี หากมีปัญหาเรื่องภาษาก็สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้ทุกที่
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35