สาวโวย ขายบ้านไม่ออก เหตุเพื่อนบ้านตีมึน ขนของกองในบ้าน ตากผ้า จอดรถขวาง แถมถามหาน้ำใจ !

เจ้าของบ้านโวย ซื้อบ้านมารีโนเวทขาย ลูกค้าติดต่อเยอะ แต่สุดท้ายไม่เอาสักราย ลดราคากระหน่ำก็แล้ว ก็ยังขายไม่ออก เหตุจากเพื่อนบ้าน ขนของกองในบ้าน-หน้าบ้าน พร้อมจอดรถขวาง !

 

 

            วันที่ 6 ก.พ. 66 กี้ เจ้าของบ้าน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้ทำการซื้อบ้านที่ จ.นนทบุรี เพื่อรีโนเวทแล้วนำมาขายทอดตลาดต่อ ซึ่งได้ตั้งประกาศขายบ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่เดือน ก.ค. 65 โดยติดประกาศขายทั้งหน้าบ้าน และทางออนไลน์ ซึ่งมีลูกค้าติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ตนได้พาลูกค้าเข้าไปดูบ้านอยู่ตลอด แต่ก็ยังขายไม่ออก ซึ่งไปทุกครั้ง ก็จะเจอราวตากผ้า รองเท้า มอเตอร์ไซค์ กระบะทรายแมว ของเพื่อนบ้าน อยู่บริเวณบ้านของตน ซึ่งตนต้องไปคอยเรียกเขาให้มาเคลียร์ของต่าง ๆ ออก ทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยออกมา แม้จะมีเสียงโทรทัศน์อยู่ในบ้าน จนตนต้องเลื่อนของออกเอง แต่เมื่อตนดูบ้านเสร็จ ขับรถกำลังออก เขากลับออกมาเลื่อนราวตากผ้าไว้หน้าบ้านตนเหมือนเดิม 

 

 

            ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 66 มีผ้าเช็ดเท้ามาอยู่ที่รั้วบ้านของตนด้วย อีกทั้งยังมีกล่องของที่เขาซื้อมาอ้างว่าลงทุนไป 300,000 แล้วพอรถมาส่ง ฝนมันตก เลยเอามาฝากไว้ในบ้านของตน ซึ่งบ้านคู่กรณีเขาก็ได้ออกมาขอโทษ และเลื่อนของออกให้ และยังบอกอีกว่า ของเขามีแค่กล่องของ กับราวตากผ้า แต่นอกเหนือจากนี้ เป็นของบ้านอื่น ๆ ในซอย ซึ่งทุกคนในซอย ทำเหมือนบ้านของตนเป็นโถส้วม 

 

            ขณะเดียวกัน เคยมีลูกค้าที่ตนได้ตกลงกับเขาเรียบร้อยแล้ว เขากำเงินมา เพื่อที่จะซื้อบ้าน และเข้าอยู่อาศัยเลย ขนของใส่รถมาพร้อม แต่พอเขาเข้ามาดูบ้าน ลูกค้าก็ปฏิเสธโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ตนดูสีหน้าออกว่าไม่ค่อยดี ซึ่งวันนั้นเพื่อนบ้านเขาเอารถจอดเลยหน้าบ้านตนมาครึ่งคัน 

 

 

            ด้าน ลักษณ์ พี่สาวเจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว ตอนแรกตนตั้งราคาไว้ที่ 1,050,000 บาท แต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ยังขายไม่ออกเลย ต้องลดราคาลงมาขาดทุน เหลือ 950,000 บาท ก็ยังขายไม่ออก พร้อมแถมแอร์ให้ด้วย 1 ตัว ขณะเดียวกันหลังเจอปัญหา เคยเสนอให้เพื่อนบ้านซื้อบ้านหลังนี้ไปเลย เพราะเขาขายของ ไม่มีที่เก็บของ แต่เขากลับต่อราคา บอกจะซื้อในราคา 500,000 บาท 

 

 

            ทั้งนี้ ตอนแรกตนคิดว่าจะไม่เอาเรื่องเอาความคู่กรณี แต่ตนไปเห็นเขาให้สัมภาษณ์ข่าว บอกว่า เขารำคาญเรา อีกทั้งยังบอกว่า เรื่องแค่นิดเดียว ไม่มีน้ำใจ ทำแค่นี้ยกโทษให้ไม่ได้หรอ ต้องยกธูปเทียนมาไหว้เลยไหม ซึ่งเหมือนประชดประชันกันมากกว่า ตนเลยคิดว่าจะไปแจ้งความ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คู่กรณีเขาไม่เอาของมาวางไว้หน้าบ้าน เพราะบางที ลูกค้าเขาสนใจ เขาก็จะเข้าไปดูบ้านเองก่อน 

 

 

            ฟาก ปลา เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนยอมรับผิด และขอโทษ ที่เอากล่องลังไปไว้ในบ้านของคุณกี้ เนื่องจากตอนนั้นมันสุดวิสัยจริง ๆ โดยตอนที่ของมาส่งฝนมันตก ตนเลยเอาของไปฝากบ้านคุณกี้ก่อน ขณะเดียวกัน วันที่ 3 ก.พ. 66 วันที่เกิดเหตุ คุณกี้เข้ามาในบ้าน ซึ่งตอนนั้นพ่อของตนกำลังจะส่งของขึ้นรถรับของ เลยเห็นสภาพนั้น ส่วนราวตากผ้า ตนก็ยอมรับผิดที่เอาไว้หน้าบ้านเขาอยู่ตลอดเช่นกัน ซึ่งตนก็ได้บอกคุณกี้แล้วว่า ถ้าหากมีครั้งต่อไปอีก จะเอาของตนไปทิ้งเลยก็ได้ รวมทั้งตนขอสัญญาว่าจะไม่เอาของไปไว้หน้าบ้านคุณกี้อีก อย่างไรก็ตาม พวกกระบะทรายบ้านแมว หรือราวตากผ้าบางอัน ก็ไม่ใช่ของตน มีของบ้านอื่นด้วย 

 

 

            ขณะที่ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ในมุมกฎหมาย เคสนี้มีความผิด หากผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าของ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถ้าหากเข้าไปในกลางคืน โทษจะแรงขึ้นไปอีก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกัน ถ้าเราเอาสิ่งของไปวางหน้าบ้านผู้อื่น เป็นการรบกวนการครอบครอง หรือข่มเหง รังแก คุกคาม ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 

 

            ส่วนในมุมมองของตน ตนอยากให้คุณปลาเอาใจเขามาใส่ใจเรา ยิ่งคุณกี้เขาซื้อบ้านมาเพื่อทำรีโนเวทขาย แล้วเขาขายไม่ออกจากเหตุนี้ เขาเสียโอกาสไป อย่าไปทำอะไรแบบนี้เลย ยิ่งเป็นเพื่อนบ้านกันด้วย ขณะเดียวกัน ฝั่งเจ้าของบ้าน ตนแนะนำให้ไปแจ้งลงบันทึกประจำไว้ก่อนก็ได้ หากเกิดเรื่องขึ้นอีก ค่อยดำเนินคดีต่อไป