งานวิจัยชี้ เครื่องดื่มน้ำตาลสูง เชื่อมโยงอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม
logo ข่าวอัพเดท

งานวิจัยชี้ เครื่องดื่มน้ำตาลสูง เชื่อมโยงอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม

ข่าวอัพเดท : งานวิจัยมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน ค้นพบความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มมีน้ำตาลสูง กับอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม งานวิจัย,จีน,ชิงหัว,ผมร่วง,เครื่องดื่มน้ำตาลสูง

971 ครั้ง
|
03 ก.พ. 2566
         งานวิจัยมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน ค้นพบความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มมีน้ำตาลสูง กับอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม
 
        วันที่ 2 ก.พ.66 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน ได้ทำการวิเคราะห์ผลการสำรวจผู้ชายชาวจีน 1,028 คน ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 27.8 ปี  ผลการวิเคราะห์พบว่าร้อยละ 57.6 ของผู้เข้าร่วมสำรวจ เผชิญอาการผมร่วงแบบผู้ชาย (MPHL) ซึ่งอาการผมร่วงแบบ MPHL เป็นรูปแบบผมร่วงที่พบได้บ่อยสุดในหมู่ผู้ชาย หรือครองสัดส่วนร้อยละ 95 ของอาการผมร่วงทั้งหมดที่ผู้ชายเผชิญ ซึ่งอาการผมร่วงแบบ MPHL ส่งผลให้ผมบาง และ/หรือหลุดร่วงบริเวณด้านหน้าหรือด้านบนของหนังศีรษะ และเส้นผมมีแนวโน้มมีขนาดเล็กลงในบริเวณเหล่านี้
 
         การศึกษาครั้งนี้ครอบคลุมเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหลายประเภท ได้แก่ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่และเครื่องดื่มชูกำลัง นมใส่น้ำตาล นมถั่ว ชาใส่น้ำตาลและเครื่องดื่มชา และกาแฟ
 
           กลุ่มผู้เข้าสำรวจร้อยละ 44.6 กล่าวว่า พวกเขาดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 7 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยคณะนักวิจัยพบว่า ผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มมีน้ำตาลสูงขึ้นจะมีความเสี่ยงเผชิญอาการผมร่วงแบบผู้ชายมากขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ระดับการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในกลุ่มผู้มีอาการดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 4,293 มิลลิลิตรต่อสัปดาห์ สูงกว่าระดับของกลุ่มปกติ ซึ่งอยู่ที่เพียง 2,513 มิลลิลิตร
 
        คณะนักวิจัย กล่าวว่า ปริมาณน้ำตาลที่สูงขึ้น สามารถนำไปสู่ความเข้มข้นของกลูโคสในเลือดที่สูงขึ้น ส่งผลให้วิถีการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นน้ำตาลฟรักโทส หรือที่เรียกว่าวิถีโพลีออล ( polyol pathway ) ทำงานมากเกินจำเป็น ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้ โดยการศึกษาชี้ว่าอาการผมร่วงบ่งบอกถึง “วิถีโพลีออลที่ทำงานมากเกินไป”
 
          ขณะเดียวกัน รายงานเน้นย้ำว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอาจส่งผลเสียต่อลักษณะรูปร่างภายนอก พร้อมเผยถึงความจำเป็นในการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบระยะยาวเพิ่มเติม เพื่อยืนยันความเชื่อมโยงข้างต้นและเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการศึกษาด้านสุขภาพต่อไป