มีคุณน้าท่านหนึ่งออกมาร้องสื่อ หลังหลานสาวสมัครงานหาคนดูคลิปวีดีโอตามเว็บ สุดท้ายถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินจนสูญเงิน ไปกว่า 3 แสนบาท
นายอธิชัย อายุ 39 ปี ชาว จ.นครราชสีมา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2565 หลานสาว วัย 16 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม. 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ไปเห็นลิงค์โฆษณา รับสมัครงานหาคนดูคลิปวีดีโอผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ด้วยความที่อยากได้เงิน จึงกดสมัครเข้าไป ก่อนมีการแอดไลน์ จากนั้นแอดมินได้ให้โอนเงิน 100 บาท เพื่อเป็นค่าสมัคร โดยเงินที่โอนเข้าไป อ้างว่าจะไปเป็นเงินลงทุน
ถ้าหากทำงานได้ จะได้รับเงินส่วนแบ่งจากยอดวิว หรือจำนวนคนดู ของคลิปนั้น ๆ พร้อมส่งเงื่อนไข และรายละเอียดเกี่ยวกับการดูคลิปวีดีโอ ถ้าดูเป็นมิวสิกวีดีโอ เริ่มต้นที่ 5 เพลง ได้จะเงิน 200 บาท แต่ต้องจ่ายค่าประกัน 100 บาท จนไปถึง 50 เพลง ได้เงิน 5,000 บาท แต่ต้องจ่ายเงินประกัน 1,000 บาท
เมื่ออ่านหลายรายละเอียด หลานสาวสนใจดู 20 คลิป จึงโอนเงินประกันไป 400 บาท ผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง มีชื่อ-นามสกุล ระบุชัดเจน ผ่านไปไม่นาน แอดมินแจ้งมาว่าเบิกงานให้หลานไม่ทัน ทำให้ต้องหางานอื่นมาให้แทน เป็นการกดรับสินค้า แต่พอหลานดู เริ่มไม่มั่นใจ ขอยกเลิกบัญชี แต่ปรากฏว่าค่าปิดบัญชีต้องโอนอีก 500 บาท ซึ่งหลานก็ได้โอนไปอีก
ต่อมา วันที่ 29 ธ.ค. ทางแอดมินทักมาหาหลาน แต่หลานไม่ตอบ กระทั่งวันที่ 7 ม.ค. ทางแอดมินส่งข้อความมาในเชิงข่มขู่ว่า “สวัสดีค่ะ ยูสเซอร์ของคุณ (จะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน และ การเรียน) พร้อมกลับข้อความ เรื่องการกระทำผิดกฎหมาย จนทำให้หลานของตนกลัว โอนเงินไปอีก 500 บาท เพื่อปิดบัญชี
แต่ก้ยังไม่ได้เงินคืน แอดมิน บอกอีกว่า ขั้นตอนการปิดบัญชี ต้องโอนไปยังบัญชีเดิมอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 1,500 บาท และ ค่าเอกสารอีก 1,500 บาท ซึ่งหลานได้โอนจนไม่เหลือเงินแล้ว จากนั้น ก็ได้ไปขอยืมโทรศัพท์ยาย ซึ่งมีเงินเก็บเป็นเงินบำนาญของตาที่เกษียณอายุราชการแล้ว อยู่ในบัญชีประมาณ 3 แสนบาท จากนั้น หลานก็ถูกหลอกให้โอนไปเรื่อย ๆ อีกหลายครั้ง เป็นเงิน 5 พันบาทบ้าง 1 หมื่นบาทบ้าง 2 หมื่นบาทบ้าง จนรอบสุดท้าย คือยอดเงิน 180,000 บาท ก่อนรวมเป็นเงินทั้งหมด 302,500 บาท
จากนั้น เรื่องเริ่มแดง ตอนที่หลานโทรไป ขอยืมเงินกับป้า โดยป้าได้เค้นถามว่าเอาเงินไปทำอะไร ก่อนทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมพาหลานไปแจ้งความ ตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมา ส่วนหลาน ขณะนี้ได้ร้องไห้ฟูมฟาย และกรี๊ดร้อง มีอาการผวา นอนไม่หลับ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และกลัวว่า หลานจะคิดสั้นเหมือนกับเด็กวัย 15 ปี ที่ผูกคอเสียชีวิต อย่างที่ จ.นนทบุรี ที่ถูกมิจฉาชีพหลอก ทำให้ตนต้องมานอนเป็นเพื่อทุกคืนตั้งแต่เกิดเหตุ
หลังไปแจ้งความยัง สภ.เมืองนครราชสีมา เบื้องต้นได้รับคำแนะนำว่าให้ไปแจ้ง ตำรวจไซเบอร์ ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แต่จนถึงวันนี้ ก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี ซึ่งผู้เสียหายอยากฝากไปยังตำรวจที่รับผิดชอบ อยากให้ช่วยเร่งรัดเรื่องคดีให้เร็วขึ้น เพราะไม่อยากให้มีเหยื่อแบบหลานของตนเกิดขึ้นอีก และอยากฝากไปยังผู้ปกครองในเรื่องการดูแลบุตรหลานอยากให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35