อดีตจ่าทหารเรือ “แพะคดีพรากผู้เยาว์” ร้องขอความเป็นธรรม ติดคุก 8 ปี

เช้านี้ที่หมอชิต - อดีตจ่าทหารเรือ ขอความเป็นธรรม เป็นแพะพรากผู้เยาว์ ต้องออกราชการ ติดคุก 8 ปี สุดท้ายเด็กออกมารับแม่สั่งให้ชี้ตัว

 

เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา จ่าเอก เทียน บุญยิ่ง อายุ 61 ปี อดีตทหารเรือ สังกัด กรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังตกเป็นแพะในคดีพรากผู้เยาว์ซึ่งเป็นลูกสาวอดีตแฟนสาว ทำให้ติดคุกนาน 8 ปี จนถูกให้ออกจากราชการ สุดท้ายลูกสาวอดีตแฟนออกมารับสารภาพว่า ที่ต้องให้การจนถูกจับติดคุกเนื่องจากแม่บังคับให้บอกตำรวจแบบนั้น

 

จ่าเอก เทียน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ตอนนั้นตนเองรับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ว่าจ้าง นางสมบัติ (สงวนนามสกุล) แม่ของเด็กมาทำบ้าน จนมีความสัมพันธ์กัน ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 4-5 เดือน ตนเองทนพฤติกรรมของ นางสมบัติ ไม่ได้ เนื่องจากพบว่ามีการเสพยาเสพติด ตนจึงพยายามตีตัวออกห่าง แม้ นางสมบัติ พยายามตามตื๊อ แต่ตนเองตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่ง

 

ต่อมา นางสมบัติ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตนไว้ที่ สภ.พลูตาหลวง จังหวัดชลบุรี ในข้อหาพรากผู้เยาว์ ลูกสาว (ซึ่งขณะนั้นอายุ 13 ปี ) ตนได้ประกันตัวออกมาสู้คดีมาโดยตลอดจนถึงศาลฎีกา เพราะตนเองไม่ได้ทำสิ่งที่แม่เด็กกล่าวอ้าง แม้แต่หน้าเด็กเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้า ผลการตรวจร่างกายเด็กก็ไม่พบคราบอสุจิในอวัยวะเพศ แต่พบว่ามีร่องรอยการฉีกขาดของอวัยวะเพศเท่านั้น อีกทั้งตอนที่แม่ของเด็กระบุเวลาเกิดเหตุ ตนอยู่บ้านพักข้าราชการทหารในฐานทัพเรือสัตหีบ แต่ที่เด็กไปชี้คือบ้านพักของแม่เขาที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร ระหว่างที่คบหากับแม่เด็กตลอดระยะเวลากว่า 6 เดือน ไม่เคยเห็นลูกสาวคนที่เป็นคู่กรณี จนกระทั่งปี 58 ศาลมณฑลทหารบกที่ 14 ตัดสินจำคุกตนเป็นเวลา 24 ปี แต่ลดโทษเพราะไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน เหลือจำคุก 16 ปี

 

ต่อมา ลูกสาวของนางสมบัติ ซึ่งเติบโตขึ้นมาจนมีอายุ 24 ปี ชื่อ นางสาวอำไพ ได้ทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาหน่วยของตน และให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่เป็นความจริง แต่ถูกแม่ คือ นางสมบัติ บังคับให้กล่าวใส่ร้ายตน ด้วยตอนนั้นอายุเพียง 13 ปี ที่ต้องออกมาพูดเพราะทนการถูกแม่ทำร้ายร่างกายไม่ไหว และอยากไถ่บาป

 

ทำให้ตนทำเรื่องฎีกาขอความเป็นธรรม แต่ก็ไม่เป็นผล ตนเองต้องติดคุกในเรือนจำกลางชลบุรีนาน 8 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 3 ครั้ง และพ้นโทษมาเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2565

 

วันนี้จึงอยากออกมาขอความเป็นธรรม ถึงแม้จะถูกจับติดคุกไปแล้ว ถูกออกจากราชการ ถูกทนายหลอกว่าจะทำคดีให้ถึง 3 คน ต้องสูญเสียเงินจ้างไปนับแสนเอาที่ไปจำนอง ทุกวันนี้ต้องมาอาศัยบ้านญาตินอน ตอนนี้ลำบากมากแต่ก็อยากได้รับความเป็นธรรมกลับมา ไม่ถูกตราหน้าว่าข่มขืนเด็ก

 

ด้าน นายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จะไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม และเชิญตัว นางสาวอำไพ มาสอบปากคำว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นจริงตามที่ระบุว่าถูกบังคับให้พูด ก็ต้องมาสอบปากคำใหม่ทั้งหมดเพื่อคืนความเป็นธรรมให้จ่าทหารเรือท่านนี้