หนุ่มไฟแนนซ์ร้อง ถูกเพื่อนบ้านแทงยับ คดีไม่คืบ สุดงง ตร.ไม่เคยว่าง แถมสั่ง “โทรปลุกด้วย”

เหตุการณ์อุกอาจ หนุ่มไฟแนนซ์ ถูกเพื่อนบ้าน ควักมีดดักแทงคาร้านสะดวกซื้อ แต่ที่งงกว่า คือ เกิดเหตุมาแล้ว 1 เดือน คดียังเงียบ แถมตำรวจติดต่อได้ยาก วันชี้จุด ยังวานให้ผู้เสียหายปลุก !

 

 

            วันที่ 30 ม.ค. 66 อลงกรณ์ อุดมศิลป์ (เบนซ์) ผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 ตนกับเพื่อน ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน ซึ่งนายฉุน มายืนดักรอตนอยู่หน้าร้าน เมื่อตนซื้อของเสร็จ เดินนออกมา นายฉุนก็เข้ามาหาเรื่องตน ถามตนว่า "ข้องใจอะไรหรือเปล่า" ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ข้องใจอะไร แต่นายฉุน มาพูดจามึงกูใส่ ตนบอกไปว่าขอไม่คุยด้วย จากนั้น นายฉุน ก็โมโห วิ่งไปเอามีดที่รถของเขา วิ่งเขามาขู่จะแทงตน แต่ถูกเพื่อนของตนห้ามเอาไว้ 

 

  

 

            ทั้งนี้ ตนเคยมีเรื่องกับรุ่นพี่ของผู้ก่อเหตุ แต่ตนได้เคลียร์กับรุ่นพี่คนดังกล่าวแล้ว ไม่มีปัญหาหรือทะเลาะอะไรกับนายฉุนมาก่อนเลย หลังจากโต้เถียงกันอยู่พักหนึ่ง เขาก็เข้ามาแทงตน 2 ครั้ง แม้จะมีชาวบ้าน และรปภ. เข้ามาห้ามก็ตาม โดยตนถูกแทงที่ชายโครง และต้นขาซ้ายถูกแทงลึกเข้าไป 2 ซม. เจตนาเขาตั้งใจจะเอาให้ถึงตายเลย เพราะเข้าวิ่งเข้ามากระหน่ำแทง แต่ตนหลบทัน โดนแค่ 2 แผล 

 

 

            หลังจากเกิดเหตุ ตนไปแจ้งความเลยที่ สภ.อ.เมืองปทุมธานี ไปก่อนไปทำแผลที่โรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพราะตนกลัวตายมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุอยู่ใกล้กับบ้านของตน เขาอาศัยอยู่ห่างจากบ้านตนไปแค่ประมาณ 7 หลัง ซึ่งตนได้นำคลิปหลักฐานต่าง ๆ ส่งให้ตำรวจไปหมดแล้ว แต่คดีก็ยังเงียบอยู่ แถมช่วงหลังตนโทนหาร้อยเวร คนที่ทำเรื่องไม่ค่อยติด จนต้องใช้เบอร์แฟนโทรไป เขาถึงจะรับ อีกทั้งวันชี้จุด ตำรวจก็นัดตนประมาณ 09.00 น. แต่กลับบอกให้ตนโทรปลุกเขาด้วย ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้ามาคุยมาเคลียร์กับตนเลย มีเพียงญาติของเขาเข้ามาเสนอขอจบเรื่อง โดยจะให้เงิน 50,000 บาท 

 

            อย่างไรก็ตาม เมื่อวาน(29 ม.ค. 66) ตนยังเจอผู้ก่อเหตุ ให้ข่าวอยู่ที่บ้านของเขาอยู่เลย แต่หลังจากเกิดเหตุ เขายังไม่เคยมาทำอะไรตน มีแต่เบิ้ลรถจักรยานยนต์ เหมือนเยาะเย้ยตน ทำให้ตนต้องเข้าไปร้องเรียนกับทางสายไหมต้องรอด เพราะตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนหวังจะพึ่งตำรวจ แต่ผ่านมา 1 เดือนแล้ว กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย 

 

 

            ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้ผู้ก่อเหตุรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองปทุมธานี ผู้เสียหายเขาเลยกลัว เพราะคดีมันก็ยังเงียบ แต่ที่สำคัญยังไงก็ต้องดำเนินคดี เพราะมันมีหลักฐานชัดเจน แม้อีกฝ่ายจะบอกว่ามีการทะเลาะโต้เถียงกัน แต่มันมีการเอาอาวุธมาทำร้าย ต้องจัดการให้ชัดเจน เพราะเขาอาศัยอยู่ใกล้กัน อาจจะเกิดเหตุอีกได้ 

 

            ทั้งนี้ ที่ญาติผู้ก่อเหตุ ไปให้สัมภาษณ์ว่าฝั่งผู้เสียหายจะเรียกเงิน 300,000 บาท ตนมองว่าเขาควรเอาลูกหลานที่ก่อเรื่อง มาขอขมาผู้เสียหาย ต้องสำนึกผิดในสิ่งที่ทำก่อน ไม่ใช่ไปให้ท้ายกัน เพราะผู้เสียหายเขาต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีความประสงค์จะเรียกเงิน ซึ่งการมาเยียวยามันจะช่วยบรรเทาโทษได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้ประสานเรื่องราวไปยัง ปธ.กก.ตร.ฯ โก๊ะ ท่าทราย ให้เขาประสานไปยัง ผกก.สภ.อ.เมืองปทุมธานี

 

 

            ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เคสนี้ ต้องตั้งข้อหาพยายามฆ่า เนื่องฝั่งผู้ก่อเหตุ มีการเตรียมการไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเขาเตรียมมีดเอาไว้ อีกทั้งยังเล็งแทงเข้าที่ชายโครง ซึ่งเป็นจุดอันตราย อาจพลาดเข้าโดนหัวใจได้ 

 

            ขณะที่ ร.ต.อ. อุดมเกียรติ มาแจ้ง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เผยว่า เบื้องต้น มีการรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 เวลา 15.01 น. มีการสอบปากคำพยาน ผู้กล่าวหาไว้แล้ว และได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว ที่ช้าเพราะต้องรอใบชันสูตรบาดแผลจากทางโรงพยาบาล มาประกอบสำนวน เมื่อได้แล้วจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ก่อเหตุ โดยทางโรงพยาบาลติดต่อให้เข้าไปรับใบชันสูตรบาดแผลพรุ่งนี้(31 ม.ค. 66)

 

 

            ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุเขารู้จักกับตำรวจ ตนยังไม่มีข้อมูลว่าเขารู้จักกับตำรวจคนไหน ขณะเดียวกัน ตัวน้องสาวของผู้เสียหายเขากลัวเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากพี่ชายเขาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เลยแนะนำเขาว่าถ้าเกิดเหตุอะไร ให้รีบแจ้งเหตุทันที