“รังสิมันต์ โรม” ลากไส้ “หลานประยุทธ์” เอี่ยวธุรกิจตู้ห่าว แต่ไม่มีใครกล้าแตะ

เช้านี้ที่หมอชิต - รังสิมันต์ โรม ตั้งกระทู้ถามสด ปม หลานประยุทธ์ อาจเอี่ยวทุนจีน ตู้ห่าว แต่ไม่มีใครมาตอบ จึงเปิดห้องในสภาแถลงเสมือนอุ่นเครื่องก่อนการอภิปรายตามมาตรา 152 เดือนหน้า ชี้ ตู้ห่าว โดนข้อหาฟอกเงิน ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวพันบริษัทก่อสร้างของ ปฐมพล จันทร์โอชา แต่ทำไมไม่มีหน่วยงานใดกล้าเรียกสอบ ชี้ ยิ่งเงียบ ประชาชนยิ่งสงสัย จี้ อย่าให้ตระกูลจันทร์โอชา อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม

 

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดด้วยวาจาต่อนายกรัฐมนตรี กรณีทุนจีนตู้ห่าวที่อาจเกี่ยวพันกับหลานนายกฯ แต่ พลเอกประยุทธ์ ไม่มาตอบ และไม่ส่งรัฐมนตรีคนใดมาตอบแทน

 

ทำให้ต่อมา นายรังสิมันต์ เชิญนักข่าวไปที่ห้องประชุมพรรคก้าวไกลที่ทางสภาจัดให้ แล้วเปิดแถลงใหญ่ บรรยากาศเหมือนเป็นการอุ่นเครื่องการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่มาตอบ เพราะมีหลักฐานและพยานเอกสารต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงว่าของหลาน พลเอกประยุทธ์ อาจเข้าไปเกี่ยวข้อง พยายามใช้กลไกของสภา เพราะหวังว่าท่านจะได้รับโอกาสชี้แจงต่อสังคม ไม่ใช่บ่นโวยวายอยู่ข้างนอกแล้วหาว่าดิสเครดิต เมื่อท่านตัดสินใจไม่มาตอบ เลือกนิ่งเงียบ จึงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และอาจทำให้ประชาชนยิ่งสงสัย ขอเรียกร้องว่าอย่าให้วงศ์ตระกูลจันทร์โอชา เป็นเครื่องมืออยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม

 

สำหรับข้อสังเกตของ นายรังสิมันต์ ที่แถลงต่อสื่อมวลชนคือ เพียงแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลบุกค้นผับจินหลิงแล้วพบว่าเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาขนาดใหญ่ ก็ควรตั้งข้อสงสัยได้ว่า มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินแล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของ พลเอกประยุทธ์ กลับเพิ่งแจ้งข้อหานี้หลังผ่านไปเกือบ 2 เดือน ภายหลังจากถูก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ไปร้องเรียนกดดันตามข่าวที่ทราบกัน

 

สำหรับความเชื่อมโยงระหว่างหลานพลเอกประยุทธ์ เครือของตู้ห่าว คือมีการเช่ารถทัวร์จำนวนอย่างน้อย 33 คันจาก บริษัทของ นายปฐมพล จันทร์โอชา ทั้งที่เป็นบริษัทก่อสร้าง ไม่ได้มีความชำนาญอะไรเรื่องเช่ารถเลย และเมื่อดูประวัติของตู้ห่าว จึงน่าเชื่อว่าจะเอาไปใช้ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ หรือใช้พาคนจีนเข้ามาในไทยเพื่อทำกิจกรรมผิดกฎหมาย คำถามก็คือเมื่อพบความเชื่อมโยง ทำไมจึงไม่มีหน่วยงานใดเรียกหลานของพลเอกประยุทธ์มาสอบ