เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์มาให้อัปเดตข้อมูล เพื่อใหสะดวกในการทำธุรกรรมกับธนาคาร สุดท้ายถูกดูดเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเครดิต ได้รับความเสียหาย 4 ล้าน 5 แสนบาท เหลือ 131 บาทให้ดูต่างหน้าในบัญชี
ผู้เสียหายซึ่งขอไม่เปิดชื่อ เล่าว่าเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 มีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์โทรศัพท์ติดต่อมาให้อัพเดทข้อมูล เพื่อให้สะดวกต่อการทำธุรกรรมออนไลน์กับธนาคาร แต่ตอนแรกผู้เสียหายไม่เชื่อ เพราะรับรู้ข่าวสารว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพกำลังออกอาละวาด หลอกเอาเงินจากผู้เสียหายจากบัญชีอยู่จำนวนมาก จึงสอบถามกับบุคคลดังกล่าวไป ว่ามีข้อมูลส่วนตัวของตนเองมากน้อยเพียงใด
จากนั้นมิจฉาชีพดังกล่าว ก็ได้ส่งข้อมูลส่วนตัวของตนเอง และของบริษัท ซึ่งเป็นข้อมูลละเอียดเชิงลึก ที่เป็นข้อมูลเดียวกันกับในสารบบของกระทรวงพาณิชย์ จนทำให้เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง จึงตัดสินใจทำตาม โดยมิจฉาชีพดังกล่าวจึงแนะนำให้ติดต่อกันในแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นได้ส่งลิงก์มาให้เปิดแอปพลิเคชันของมิจฉาชีพ
ต่อมาก็มีข้อความส่งมาจากธนาคาร ว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร 3.9 ล้านบาท และบัตรเครดิตอีก 650,000 บาท ของตนเองไปหลายครั้ง ภายในเวลา 15 นาที
จากนั้นผู้เสียหายได้พยายามติดต่อธนาคาร เพื่อระงับธุรกรรมดังกล่าว แต่ก็ไม่เป็นผล ทางธนาคารอ้างว่าทำไม่ได้ ต้องไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจก่อน จนมิจฉาชีพดูดเงินออกไป จนเหลือเพียง 131 บาท เท่ากับเสียเงินไป แถมยังต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย
หนุ่มคนนี้จึงมาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือประสานเจ้าหน้าที่ติดตามเงินให้หน่อย ซึ่งนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลของผู้เสียหายที่มิจฉาชีพมีนั้น เป็นข้อมูลเชิงลึกที่แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ จึงจะประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ ว่าทำไมข้อมูลของประชาชน จึงหลุดรอดออกไปได้
ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไปกำหนดมาตรการให้ธนาคารต่าง ๆ ปฎิบัติ เพื่อให้ประชาชนที่เป็นเหยื่อ สามารถระงับธุรกรรมของมิจฉาชีพให้รวดเร็ว ทันเวลา ถือเป็นการช่วยเหลือและป้องกันภัยให้กับประชาชนอีกทาง
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่
+ อ่านเพิ่มเติม