เมียหลวงช้ำ ผัวถูกรางวัลที่ 1 ก่อนตายปิ๊งรักแม่ค้าสาว สุดท้าย เมียน้อยฮุบสมบัติเกลี้ยง !

เมียช้ำ ผัวข้าราชการ ถูกรางวัลที่ 1 ซื้อรถ ที่ดินเก็บไว้เพียบ กลับไปติดสาว กลายเป็นเมียน้อย จนย้ายออกไปอยู่ด้วย สุดท้ายผัวเสียชีวิต เมียน้อยมาเรียกร้องขอเงินบำนาญ ส่วนสมบัติก็ฮุบไปหมด ! 

 

 

            วันที่ 23 ม.ค. 66 จันทร์เพ็ญ เพ็ชรวงศ์ (ตุ๋ย) ภรรยาหลวง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า สามีของตนเป็นข้าราชการทหารอากาศ ได้จดทะเบียนสมสรกับสามีตั้งแต่ปี 2519 ต่อมาปี 2553 สามีและตน ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินมา 6,000,000 บาท เมื่อได้เงินมาแล้ว สามีนำเงินไปซื้อรถกระบะ ที่ดินจ.สุพรรณบุรี และซื้อบ้านที่ จ.ปทุมธานี โดยใส่ชื่อเป็นของสามีเอาไว้ หลังจากถูกลอตเตอรี่ประมาณ 2 เดือน สามีก็ไปติดพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง 

 

  

 

            เป็นแม่ค้าขายไก่ทอด เริ่มมีการไปซื้อของให้เขา โดยผู้หญิงคนดังกล่าวเข้าหาสามีของตนเพราะสามีตนมีเงิน อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ยังมีสามีอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ สามียังซื้อบ้านให้ภรรยาน้อยคนดังกล่าว ในละแวกใกล้ ๆ บ้านของตนด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ตน อยู่กับสามีมา 35 ปี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน หรือมีเรื่องผู้หญิงมาก่อนเลย 

 

            แต่ปี 2554 สามีตนเองได้ย้ายออกจากบ้าน และได้ไปอยู่กินกับหญิงสาวคนดังกล่าว พร้อมทั้งลาออกจาก ข้าราชการทหาร โดยย้ายไปอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านหลังนี้ ตนกับสามีไปปลูกไว้ด้วยกัน แต่เขาอยู่ได้ไม่นานเขาก็ย้ายออก โดยบอกว่า มีคนไปตามระรานเขา ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่เคยมีใครไประรานเขา แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งก็เป็นที่ดินที่สามีกับตนซื้อเอาไว้เช่นกัน 

 

  

 

            จากนั้นปี 2559 ภรรยาน้อยคนดังกล่าว มาบอกกับตนว่า สามีเสียชีวิตแล้ว จัดงานศพไปเรียบร้อยแล้วด้วย ซึ่งเขาได้นำเอกสารมาให้ตนเซ็น เพื่อเบิกเงินบำนาญของสามี เนื่องจากตนเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตนก็ไม่ยอม เขาเลยไปเดินเรื่องขอศาล เพื่อเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งศาลก็ได้มีคำพิพากษาว่า ให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน 

 

            แต่สุดท้ายฝั่งภรรยาน้อย เขาก็ไม่ทำอะไรสักอย่าง บอกศาลว่าจะขายทรัพย์สิน มาจัดการ แล้วจะแบ่งให้ ก็ไม่ทำ พอเวลาไปตามเรื่อง ก็ไม่ให้ตนเข้าบ้าน  แถมยังเคยด่าเหน็บแนมกลับมาด้วย ซึ่งบ้านที่ตนไปตามเรื่องก็คือที่ดิน จ.สุพรรณบุรี ที่ตนกับสามีซื้อเอาไว้ ทั้งนี้ รถคันคันที่สามีซื้อตอนถูกลอตเตอรี่ ตอนนี้ก็อยู่ที่ตัวภรรยาน้อย เขาเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนลำบากมาก อยากได้ทรัพย์สินคืน ฝั่งภรรยาน้อยเขาก็ไม่เคยเหลียวแลเลย เงินทองตนก็ไม่มี บ้านก็ไม่มีจะอยู่ ถูกเขาไล่ที่ ที่ไหนมีแจกข้าวสารอาหารแห้ง ตนก็ต้องไปอาศัยรับของบริจาค อีกทั้งยังเสียเงินค่าตามคดีไปแล้วกว่า 100,000 บาท  

 

 

            ด้าน วันเพ็ญ แซ่ตั้ง (อ้อย) หลานสาว กล่าวว่า ทั้งนี้ บ้านที่สามีของนางจันทร์เพ็ญซื้อให้ภรรยาน้อยคนดังกล่าว ภรรยาน้อยได้ขายทิ้ง แล้วไปอยู่ที่อื่นแล้ว เนื่องจาก ชาวบ้านละแวกนั้นเขาเห็นใจ นางจันทร์เพ็ญ เขาไม่ยอมรับภรรยาน้อยคนดังกล่าวกัน 

 

 

            ฟาก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความฯ เผยว่า การที่ศาลตั้งผู้จัดการมรดกร่วมกัน ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งยังไม่ได้หมายความว่าผู้จัดการมรดกเป็นทายาท โดยผู้จัดการมรดกมีหน้าที่จัดสรรทรัพย์สินให้ทายาท ต้องรอให้ศาลพิพากษาก่อนว่าใครเป็นทายาท ดังนั้ง ไม่ว่าครจะเป็นทายาท ก็ต้องมีการแบ่งทรัพย์มรดกไปตามที่กฎหมายกำหนด 

 

            ทั้งนี้ นางจันทร์เพ็ญ จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นทรัพย์สินหลังจดทะเบียน ถือเป็นสินสมรสทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ ต้องแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง แม้แต่ลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 6,000,000 ดังนั้นทรัพย์สินต้องเป็นของ นางจันทร์เพ็ญ ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งที่เป็นของสามี นางจันทร์เพ็ญ ก็มีสิทธิ์ จะจัดสรรแบ่งให้ใครก็ได้ 

 

            ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ ถือเป็นความผิดฐาน ยักยอกทรัพย์มรดก ดังนั้นตัวภรรยาน้อย ที่มีพฤติกรรมแอบไปโอนชื่อรถเป็นของตัวเอง นางจันทร์เพ็ญ สามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย