logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ร้อนทั้งวงการ ! ปมสาวจีนรีวิว จ้างตำรวจไทย บริการให้แบบ VIP | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : กลายเป็นไฟลามทุ่ง ขึ้นมาทันทีกับคลิปที่กำลังเป็นไวรัลในประเทศจีน หลังนักท่องเที่ยวสาวจีนคนหนึ่ง ได้ทดสอบใช้บริการตำรวจไทย ก ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

223 ครั้ง
|
23 ม.ค. 2566
กลายเป็นไฟลามทุ่ง ขึ้นมาทันทีกับคลิปที่กำลังเป็นไวรัลในประเทศจีน หลังนักท่องเที่ยวสาวจีนคนหนึ่ง ได้ทดสอบใช้บริการตำรวจไทย ก่อนจะมีภาพตำรวจเดินไปรับถึงประตูเครื่องบิน บริการอย่างดีเดินนำทาง ยกกระเป๋า เปิดประตูรถให้ และขับรถนำทางพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน แถมระบุอีกว่า ถ้าใช้บริการรถมอเตอร์ไซต์ตำรวจนำทาง จะเสียค่าบริการ 6,000 บาท แต่ถ้าใช้รถยนต์จะเสียค่าบริการ 7,000 บาท ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ร้อนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
 
คลิปวิดีโอนี้มีการเผยแพร่เมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นวันหยุด แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้หยุดไปด้วย เพราะเรื่องนี้ร้อนไปทั้งวงการสีกากี
 
เริ่มจาก พลลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาแถลงข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างมาก โดย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการด่วนให้จเรตำรวจแห่งชาติไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการขออนุญาตใช้รถตำรวจนำขบวน จะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ให้ใครก็ได้ใช้สิทธิพิเศษ
 
จากการตรวจสอบพบว่า มีตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ถึง 3 นาย คือ ตำรวจที่สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งทั้งสองหน่วยงานได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
 
สำหรับ รถจักรยานยนต์บิกไบก์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น เอ็มที-09 เทรเซอร์ สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอ โดยรถคันนี้ไม่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกองบังคับการตำรวจจราจร รวมทั้งป้ายทะเบียนที่เป็นป้ายของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล แต่มีการตกแต่งโดยติดสัญญาณไซเรน และไฟวับวาบไว้ที่รถ นอกจากนั้นยังมีถุงมือ และผ้าคลุมศีรษะสีดำ วางอยู่ด้านหน้าคอนโซลรถอีกด้วย เรียกว่าเหมือนกับรถที่ใช้ในราชการทุกอย่างเลย
 
ส่วนความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งมีรายงานว่า พันตำรวจเอก สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เรียกประชุมกรณีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในสังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ปรากฏอยู่ในคลิปนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน โดยมีกระแสข่าวว่า นายตำรวจทั้งสองคนจะเดินทางเข้าให้ข้อมูล แต่สุดท้ายก็ไม่พบตัวนายตำรวจทั้งสองแต่อย่างใด พอสื่อมวลชนติดต่อขอสัมภาษณ์สอบถามความคืบหน้าทางคณะกรรมการก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ ได้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างประชุม
 
มีรายงานว่า ในส่วนของตำรวจคนหนึ่ง มีเอกสารขอตัวช่วยราชการ เพื่อให้ไปขับรถนำขบวนให้กับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับรถจักรยานยนต์นำขบวน ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 อ้างอิงถึงหนังสือขอยืมตัวช่วยราชการ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 และขอต่ออายุอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม 2565 ซึ่งจะครบกำหนดการขอช่วยราชการในวันที่ 26 มีนาคม 2566
 
ทั้งนี้ พบว่าอาจจะใช้เวลานอกราชการรวมกลุ่มกับกลุ่มเพื่อนที่นำขบวนรัฐมนตรีมารับงานประเภทนี้ โดยใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ส่วนตัว เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้น ในส่วนของรถยนต์ที่ติดสัญญาณไฟไซเรน และโลโก้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ใช่รถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นเดียวกันกับรถจักรยานยนต์บิกไบก์ที่พบจอดอยู่ในกองบังคับการตำรวจจราจร การกระทำดังกล่าวยังไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง ส่วนจะมีโทษทางวินัยอย่างไรต้องรอผลการตัดสินของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของทั้งสองนาย
 
ด้าน นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้รับทราบกรณีพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทรวงการต่างประเทศขอมาช่วยราชการนำขบวนให้กับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่กลับใช้เวลานอกการปฏิบัติงานไปรวมกลุ่มรับงานขับรถนำขบวนให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว ยืนยันว่า โดยปกติ นายดอน ปรมัตถ์วินัย ไม่ประสงค์ใช้รถนำขบวนในการปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน แต่จะมีการนำขบวนเฉพาะภารกิจที่จำเป็นเท่านั้น และจะแจ้งขอเฉพาะภารกิจ ซึ่งในช่วงที่ไม่มีภารกิจนำขบวน นายตำรวจคนดังกล่าวจะประจำอยู่กับหน่วยต้นสังกัด ไม่ได้มาประจำอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ
 
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ที่โดยปกติจะไม่ใช้รถนำขบวนในการปฏิบัติหน้าที่ประจำวัน มีนายดอน และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยทั้ง 2 คน นิยมใช้รถคันเดียวในการเดินทาง ไม่มีรถผู้ติดตาม โดยจะเรียกใช้รถตำรวจนำเฉพาะกรณีมีภารกิจสำคัญเท่านั้น
 
และไม่ใช่แค่เรื่องรถนำขบวนเท่านั้นที่กลายเป็นเผือกร้อน เนื่องจากโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลจากโซเชียลของจีนที่มีการแปลภาษาไทยว่า มีการให้บริการพิเศษ 7 เรื่องสำหรับคนจีนมาไทย ประกอบด้วย บริการทำเด็กหลอดแก้ว บริการตำรวจรับจากสนามบินแบบ VIP บริการทำวีซ่าแบบ Elite บริการเปิดบัญชีธนาคารในไทย บริการทำใบขับขี่ในไทย บริการเช่ารถ บริการเช่าเรือยอชต์ บอดีการ์ด และตำรวจนำขบวน
 
นอกจากนี้ ทางเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ยังได้นำข้อมูลที่อ้างว่า มาจากโซเชียลจีน ระบุว่า ภาพข้างล่างเป็นข้อความจากโซเชี่ยลของจีน ผู้ให้บริการเดินทางเข้าไทยแบบ VIP แจ้งแก่คนที่สนใจว่า เนื่องจากช่วงนี้มีบริการของเราเป็นข่าวดังที่ไทยแล้ว ดังนั้นจึงขอปรับเรตราคาให้สูงขึ้น (คงเพราะหาคนมารับงานยากขึ้น) จึงเรียนมาเพื่อทราบ
 
ด้านความเคลื่อนไหวของคนดังที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ก็มีหลากหลายคน เช่น พลตำรวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม บอกว่า ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่นำรถส่วนตัวไปดัดแปลง เพื่อหารายได้พิเศษในลักษณะนี้มานานแล้ว ตัวอย่างเช่น รถบัสที่มีตำรวจนำ บางส่วนเป็นรถส่วนตัวตำรวจ โดยนำเครื่องหมายและไฟฉุกเฉินมาติดบนรถ
 
ทั้งที่จริงการขอรถนำขบวนและการใช้ไฟฉุกเฉิน มีระเบียบบังคับ เพราะต้องแจ้งไปยังหน่วยงานท้องที่ ซึ่งตามกฎจะใช้รถนำขบวนได้ ต้องเป็นรถวีไอพี แต่ถ้าเป็นกรณีรถนำขบวนที่ต้องเดินทางไปไกล ต้องประสานตั้งแต่หน่วยงานภายใน เช่น พื้นที่นครบาลต้องประสานกับตำรวจ 191 และตำรวจจราจร แต่ถ้าไปต่างจังหวัด จะให้เจ้าหน้าที่ทางหลวงรับหน้าที่นำขบวนต่อ
 
โดยลักษณะนี้เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการหาประโยชน์ ความผิดอาจไม่ถึงกับไล่ออกจากราชการ แต่ต้องทำการสอบทางวินัย โดยต้องพยายามสืบสวนว่า มีการทำเป็นขบวนการตั้งแต่ขั้นตอนไหน ลักษณะนี้น่าจะมีการเปิดเป็นเว็บไซต์ รับงานอำนวยความสะดวก เพราะปกตินักท่องเที่ยวจีนชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง
 
ส่วนการอำนวยความสะดวก มีส่วนรับเงินหรือถูกหลอก โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหา ระบบการรักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยาน ต้องมีความเข้มงวดกว่านี้ เพราะเป็นพื้นที่รับผิดชอบโดยตรง
 
โดยข้อมูลนี้ไปสอดคล้องกับข้อมูลของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่บอว่า ก่อนหน้านี้ที่มีคนจีนเข้ามาเที่ยวในไทยจำนวนมาก เคยมีการจ่ายเงินคนละ 500 บาท เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในการทำ Visa On arrival หรือ วีซ่าที่ผู้ถือหนังสือเดินทางสามารถขอได้ ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองในประเทศ เพื่อการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน โดยที่ไม่ต้องทำวีซาล่วงหน้า
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ : https://youtu.be/7fdL4I3QfmY

ข่าวที่เกี่ยวข้อง