เรื่องของพิษรักแรงหึงที่นำไปสู่การข่มขู่คุกคามและเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยคบหาดูใจกับหนุ่มใหญ่เจ้าของโรงงาน แต่พออยู่กันไปได้สักพัก ความหึงหวงก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้น และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต โดยหนุ่มใหญ่คนนี้ ได้ทำการข่มขู่คุกคามหญิงสาวสารพัดรูปแบบ จนเธอต้องออกมาขอให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ
นี่คือเรื่องราวที่สร้างความหวาดกลัวให้กับหญิงสาวอายุ 27 ปี ซึ่งเธอได้เล่าประสบการณ์ที่ถูกหนุ่มใหญ่อายุ 56 ปี ตามข่มขู่คุกคามในหลากหลายรูปแบบ จนเธอทนไม่ไหวต้องขอให้สื่อมวลชนเข้ามาช่วยเหลือและหาทางออกในเรื่องนี้
ทีมข่าวได้รับการติดต่อจาก นางสาวเปิ้ล เพื่อขอให้ทีมข่าวช่วยเหลือกรณีความเดือดร้อนของเธอ หลังจากถูกหนุ่มใหญ่อายุ 56 ปี ทำการข่มขู่คุกคามสารพัดรูปแบบ โดยมีสาเหตุมาจากความหึงหวง
นางสาวเปิ้ล เล่าว่า ตนเองเคยทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทธุรกิจผลิตพลาสติกอัดเม็ด ซึ่งมีโรงงานอยู่ทั้งใน จังหวัดปทุมธานี และ จังหวัดนนทบุรี หลังคบหาดูใจกันมาได้ประมาณ 1 ปี นายเอได้บอกให้ตนเองลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่และจะขอส่งเสียเลี้ยงดู พร้อมทั้งให้ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านหรูในหมู่บ้านชื่อดังย่านแจ้งวัฒนะ และส่งเสียเงินเดือนให้ใช้จ่ายทุกเดือน แต่ด้วยอายุที่แตกต่างกันกว่า 30 ปี ทำให้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนายเอ มักจะแสดงอาการหึงหวงตนเองประจำ
ต่อมาตนทราบว่า นายเอมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ด้วยเวลาที่คบหาและอยู่ด้วยกันหลายปี ตนเองก็เหมือนตกกระไดพลอยโจน ประกอบกับนายเอส่งเสียเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นเรื่องของความหึงหวงได้เกิดขึ้น จนทำให้นายเอขับไล่ตนออกจากบ้าน สาเหตุมาจากที่ตนและครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยมีกลุ่มเพื่อนที่สนิทไปด้วยกัน แต่ตอนนั้นตนไม่ได้พักอยู่กับครอบครัว เนื่องจากมีกลุ่มเพื่อนไปด้วย จึงได้พากันออกไปเที่ยว ทำให้นายเอเกิดความเข้าใจผิด
หลังจากนั้น นายเอได้กล่าวหาว่าตนแอบไปมีชายอื่น และเข้าใจว่าตนไปเที่ยวกับผู้ชาย ไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งตนเองก็พยายามชี้แจงทั้งหมดแล้ว แต่นายเอไม่ยอมฟังเหตุผลจนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน นายเอได้ขับไล่ตนเองให้ออกจากบ้าน พร้อมทั้งบอกเลิกกับตนเอง
นางสาวเปิ้ล ยังบอกอีกว่า หลังจากที่ตนเองออกมาจากบ้านของนายเอแล้ว กลับถูกราวีไม่เลิกรา ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวที่ตนเองจอดไว้ ก็มีรถลึกลับขับมาชนจำนวนหลายครั้ง ทุกวันนี้รู้สึกหวาดระแวงอย่างมาก เนื่องจากนายเอเป็นคนร่ำรวย และมักอ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ มีลูกน้องมากมาย สามารถจะใช้สะกดรอยตามและติดตามความเคลื่อนไหวของตนได้ตลอด
นางสาวเปิ้ล บอกอีกว่า ตนต้องออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพราะสุดที่จะทนแล้ว เพราะนายเอได้ให้ลูกน้อง 2 คน ขี่รถมอเตอร์ไซค์เอาเครื่องติดตามจีพีเอส มาติดที่ใต้ท้องรถยนต์ส่วนตัวที่ตนขับอยู่ และตนยังมีคลิปเสียงที่นายเอ ยอมรับว่าได้ส่งคนมาทำจริง ๆ และรับปากว่าจะสั่งลูกน้องให้เข้าไปทำอะไรอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เราไปเสียงกัน
นางสาวเปิ้ล ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้ากับ พันตำรวจเอก นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบจีพีเอสดังกล่าว เพราะมีการผูกติดกับซิมการ์ด หากทราบชื่อคนเปิดใช้บริการก็จะเรียกตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดในข้อหา ก่อความเดือดร้อนรำคาญกระทำการอันใดเป็นการข่มเหงผู้อื่นให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ มีระวางโทษตามกฎหมายอาญา และหากพิสูจน์ทราบได้ว่า พื้นที่ที่เข้าไปติดจีพีเอสนั้น เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ก็จะมีความผิดฐานบุกรุก ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปเบื้องต้นแล้ว ในส่วนต่อไปก็จะเชิญมาสอบปากคำในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะทางผู้เสียหายยังไม่มีการแจ้งความหรือร้องทุกข์ในเรื่องของถูกรถชน และหากพิสูจน์ทราบได้ว่ามีเจตนาที่จะขับรถชนก็จะเข้าข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ส่วนเสี่ยใหญ่ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะเร่งดำเนินการนำคนที่ติดจีพีเอสมาสวบสวนก่อน จึงสามารถดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายต่อไปได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35