ดาวติ๊กต็อกฝรั่งร้อง โชว์รูมขายรถหรูไม่ตรงปก ออกรถ 1 ชม. ดับกลางทางด่วน !

ดาว TikTok ชาวอเมริกัน ร้องทนายเดชา เหตุถูกโชว์รูมตุ๋นขายรถหรูไม่ตรงรุ่น แถมขับวันแรกรถดับกลางทางด่วน จะขายคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง

 

 

วันที่ 18 ม.ค. 66 คุณคลาย มิทเชล แอนเดอร์สัน และคุณนวพร เนตรนาถ (หญิง) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่าตนทำธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 12 ปีแล้ว สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อซูเปอร์คาร์เพราะอยากได้รถคันนี้มานานแล้ว โดยไปเจอโฆษณาทางออนไลน์ หลังจากที่นัดดูรถแล้วรู้สึกชอบมาก จึงตัดสินใจซื้อกับโชว์รูมนี้ ตกลงราคาที่ 13,250,000 บาท 

 

เมื่อได้รับรถแล้วจึงได้ลองขับในโชว์รูมก็ไม่พบปัญหาอะไร แต่เมื่อขับขึ้นทางด่วนเพื่อกลับบ้านที่พัทยา ปรากฏว่าเครื่องยนต์ดับกลางทางด่วน หลังจากนั้นได้แจ้งทางโชว์รูมไป โชว์รูมแนะนำให้พักเครื่องสักครู่และสตาร์ตใหม่ รถจึงกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม จากนั้นทางโชว์รูมได้มารับรถไปซ่อมให้ถึงบ้านที่พัทยา ผลการซ่อมพบว่ามีปัญหาที่ซอฟต์แวร์ และได้จัดการซ่อมเรียบร้อยแล้ว

 

 

หลังจากซ่อมรถได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ขณะขับอยู่ที่ถนนสุขุมวิทศรีราชา รถเกิดดับกลางถนนอีกเป็นครั้งที่ 2 ทั้งที่ขับไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นจึงโทรไปหาเซลคนเดิม ก็ได้รับคำแนะนำเหมือนเดิมคือให้พักเครื่องสักครู่และสตาร์ตใหม่ แล้วได้นำรถเข้าไปซ่อมอีกครั้งพบว่ารอบนี้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเบรก ทางโชว์รูมก็จัดการซ่อมให้เรียบร้อย

 

หลังจากที่ซ่อมครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน รถเกิดดับอยู่กลางทางด่วนอีกครั้ง จึงได้คิดต่อเซลอยากจะขอเปลี่ยนรถ เพราะเห็นว่ารถมีปัญหาบ่อยเกรงว่าจะเกิดอันตราย จากนั้นทางโชว์รูมก็นำกลับไปซ่อมเหมือนเดิม เมื่อซ่อมเสร็จตนก็ไม่กล้านำมาใช้อีก ทำได้เพียงจอดทิ้งไว้

 

 

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้คิดว่าอยากจะขอเงินคืนคือ ไปพบเอกสารว่ารถที่ซื้อมามีรุ่นไม่ตรงกับที่ประกาศไว้ โดยทางร้านได้ประกาศขายว่าเป็นรถรุ่นปี 2021 แต่เมื่อไปดูเอกสารพบว่าเป็นรถรุ่นปี 2020 เพียงแค่จดทะเบียนในปี 2021 จึงได้เจรจาขายรถคืนโชว์รูม ตกลงราคากันที่ 12,500,000 บาท หลังผ่านมา 5 วัน ทางโชว์รูมบอกว่าสามารถซื้อคืนได้ที่ราคา 11,800,000 บาท และสามารถคืนเงินให้ได้ประมาณ 1,500,000 บาท เนื่องจากมีค้างค่างวดอยู่ประมาณ 10,000,000 บาท แต่เมื่อไปเช็กดูพบว่ายอดค้างค่างวดจริง ๆ คือ ประมาณ 9,000,000 บาท ซึ่งไม่ตรงกับที่ทางโชว์รูมแจ้งมา 

 

ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายของผู้เสียหาย กล่าวว่ามีหลักฐานเอาผิดชัดเจน ตั้งแต่การไม่ระบุรุ่นปีของรถให้ชัดเจน ผิดทั้งข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ, หลอกลวงประชาชน, หลอกขายสินค้า ซึ่งผู้ที่ขายรถให้จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด โดยตนได้ร่างคำฟ้องมาเรียบร้อยแล้ว เตรียมเอาผิดได้เลยถ้าหากไม่สามารถตกลงกันได้ในรายการ

 

 

คุณเอ็ม กรรมการผู้จัดการของโชว์รูม ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์มือถือว่าหลังจากที่รถเกิดปัญหา ทางโชว์รูมได้นำรถไปซ่อมแล้วไม่คิดค่าใช้จ่าย แล้วเมื่อนำรถมาเช็กอีกครั้ง พบว่าเลขไมล์อยู่ที่ประมาณ 21,000 กิโลเมตร ซึ่งไม่ตรงกับที่ลูกค้าแจ้งไว้ จากนั้นวันที่ 22 ต.ค. 65 ลูกค้าติดต่อเพื่อที่จะขายรถคืน จึงได้ตีราคาไปคร่าว ๆ ที่ 12,500,000 บาท วันที่ 7 ธ.ค. 65 จึงได้นัดขอดูสภาพรถเพื่อประเมินราคาขายคืน เมื่อประเมินพบว่าราคาในตลาดลดลง จึงตกลงราคาซื้อคืนที่ 11,800,000 บาท 

 

เรื่องการหักค่างวดที่ไม่ตรงกับที่ติดอยู่ คุณเอ็มชี้แจงว่าทางโชว์รูมขอผ่อนชำระต่อแทนลูกค้าหลังจากที่รับซื้อรถคืน โดยเปลี่ยนสัญญาผู้ผ่อนชำระเป็นชื่อโชว์รูม แต่จำเป็นต้องดูสภาพรถก่อนจึงจะสามารถตกลงราคาอย่างละเอียดได้ ดังนั้นเรื่องตัวเลขราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกหากได้เห็นสภาพรถ ส่วนเรื่องการประกาศขายรถไม่ตรงกับปีที่ผลิต ทางร้านจะลงเป็นเลขปีวันจดทะเบียน จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้

 

 

คุณอนุพงษ์ เจริญเวช นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สคบ. กล่าวว่าการสื่อสารของร้านอาจเป็นการทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิด ในทางกฎหมายผู้ขายรถมือสอง จะต้องระบุรายละเอียดของรถให้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปี รุ่น และวันที่จดทะเบียนของรถ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ส่วนปัญหาเรื่องราคาขายรถคืน เห็นว่ามีเจตนาที่จะเจรจากัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้งสองฝ่าย 

 

ด้านคุณคลายและคุณหญิง ผู้เสียหาย ต้องการขายรถคืนให้เรื่องจบ เพราะตนต้องเสียเงินกว่า 4,000,000 บาท ทั้งที่ได้ใช้รถไปเพียง 3-4 เดือน ถ้าหากสามารถขายคืนได้ในราคาที่ต้องการ ก็จะสามารถนำเงินที่เหลือไปทบคืนได้บ้างจะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะเกินไป ส่วนคุณเอ็มต้องการเช็กสภาพรถ จากนั้นจึงสามารถเจรจาขายคืนได้ โดยพร้อมจะดูแลให้เต็มที่