ผบ.ตร. สั่งเด้ง “พันตำรวจเอกหญิง” เมียตู้ห่าว - ตำรวจ 6 นาย ออกจากราชการ

เช้านี้ที่หมอชิต - ยืนยันไม่มีมวยล้ม ผบ.ตร. สั่งฟันตำรวจเอี่ยวคดีตู้ห่าว ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 6 นาย เผยความคืบหน้า สำนวนใกล้สมบูรณ์ พร้อมส่งอัยการสูงสุดภายใน 2 วัน

 

ที่ สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีผับจินหลิง หรือการทลายเครือข่ายยาเสพติดและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว

 

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงกับสื่อมวลชนว่า คดีนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน เพราะดำเนินการอย่างชัดเจน เพียงแต่ไม่ได้บอกทุกขั้นตอน เพราะเกรงว่าผู้ที่จะวางแผนต่อสู้คดีจะรู้ตัว แต่ตอนนี้ใกล้เวลาที่จะสรุปสำนวนคดีแล้ว จึงออกมาเปิดเผยความคืบหน้าให้ทราบกัน

 

โดยสำนวนคดีจะส่งต่อให้ นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด พิจารณาได้ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งอยู่ในกรอบระยะเวลาที่อัยการสูงสุดต้องส่งสำนวนต่อศาล ภายในวันที่ 20 มกราคม 2566 ที่จะเป็นวันครบกำหนดการฝากขัง นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การทำสำนวนคดีนี้ พนักงานสอบสวนตำรวจ ทำงานร่วมกับอัยการ ซึ่งจะมีการฟ้องทั้งในข้อหาฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

 

ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดในคดีนี้ ได้ดำเนินการทางวินัยแล้ว โดยแยกออกเป็นคดีหลักกับคดีที่เกี่ยวข้อง

 

คดีหลัก คือ คดีฟอกเงิน มี พันตำรวจเอกหญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยาของนายตู้ห่าว เป็นผู้ถูกกล่าวหา ส่วนคดีที่เกี่ยวข้อง คือ การกระทำผิดต่อหน้าที่ เรียกรับสินบน มีตำรวจ 5 นาย เป็นผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พร้อมพลขับ, รองผู้กำกับการจราจร สน.ลาดพร้าว และ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามคำสั่งให้ พันตำรวจเอกหญิง วัทนารีย์ หรือ ภรรยาตู้ห่าว ออกจากราชการไว้ก่อนด้วยตัวเอง ขณะที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อนเช่นกัน

 

ส่วนกรณีหลานของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีรายงานว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถเช่าของตู้ห่าว ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้น ได้ข้อมูลมาจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ว่ารถที่หลานของนายกรัฐมนตรีไปทำธุรกรรมเช่าซื้อเพื่อทำธุรกิจมี 33 คัน จากจำนวนรถหลายร้อยคันที่ นายตู้ห่าว ทำธุรกิจเรื่องรถ แต่คดีจินหลิง ซึ่งเป็นคดีสมคบยาเสพติด องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้ดูหลักฐานความเกี่ยวเนื่องทั้งหมดย้อนไปถึงปี 2563 ดังนั้น กรณีรถของทัวร์ที่เกิดก่อนการกระทำความผิดคดีนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรง แต่ก็จะประสานข้อมูลจาก ป.ป.ส. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพิ่มเติม เพื่อหาความเกี่ยวเนื่องทรัพย์สิน ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป