เรื่องที่ทนายตั้มนำข้อมูลมาเปิดเผยสู่สาธารณชนว่า อดีตรองนายกฯ คบชู้กับเมียชาวบ้าน เรื่องนี้ดูไม่จบง่าย ๆ แล้ว
โดยเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ฝ่ายรองนายกฯ ออกมาโต้ว่า เมื่อกลางเดือนธันวาคมปี 65 ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าว ทางอดีตรองนายกท่านนี้ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี กับผู้หญิงที่เป็นข่าวพร้อมกับครอบครัวราม 4 คน ในข้อหาฉ้อโกง เป็นเหตุให้ต้องเสียค่าสินสอดเกือบ 20 ล้านบาท วันนี้ทนายตั้มก็พาสามีของสาวที่ตกเป็นข่าวมีความสัมพันธ์กับอดีตรองนายกมาแจ้งความกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ
เมื่อเช้านี้ (12 ม.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิกานมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พานายเอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี สามีของหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวฉาวกับอดีตรองนายกฯ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีกับอดีตรองนายกฯ ข้อหาแจ้งความเท็จ กรณีที่อ้างว่าสูญเงินค่าสินสอดสู่ขอฝ่ายหญิงเป็นจำนวนกว่า 20 ล้านบาท
ทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตรองนายกรัฐมนตรีในเรื่องแจ้งความเท็จ และในเรื่องให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน เรื่องการสู่ขอฝ่ายหญิง หรือมีการหมั้นกัน โดยไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เชื่อว่าเป็นการแต่งเติมข้อเท็จจริง เพื่อเรียกทรัพย์สินคืนจากฝ่ายหญิงได้ และเรื่องที่อดีตรองนายกฯ มีภรรยาที่จดทะเบียนอยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปี แต่ได้ไปหย่าร้างกับภรรยาในวันที่ 9 ที่ผ่านมาหลังจากตกเป็นข่าว
เรื่องนี้ตนเองก็นำหลักฐานมาให้ตำรวจ นอกจากนี้กรณีให้เงินไปซื้อคอนโดก็ไม่ใช่เรื่องจริง โดยตนมีหลักฐานกรรมสิทธิ์ ในการซื้อคอนโด ตั้งแต่ปี 2562 แต่ถ้าอดีตรองนายกฯ บอกว่าเพิ่งมารู้จักกับฝ่ายหญิงเมื่อตอนปี 2565 ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินส่วนนี้อย่างแน่นอน รวมถึงทรัพย์สินต่าง ๆ ที่บอกว่าให้ฝ่ายหญิงก็ไม่ใช่เรื่องจริง
ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า ส่วนเงินที่อ้างว่าให้ฝ่ายหญิงก็ไม่มีหลักฐานการเบิกถอน และเชื่อว่าอาจจะมีการให้จริง แต่ไม่ถึงหลัก 10 ล้าน แต่มีการให้บ้างเพราะคบกับชู้รัก ท่านอดีตรองนายกฯ ควรออกมายอมรับในความผิดพลาดก็จบแล้ว ไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่น ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เบื้องต้นตนเองได้ทำเรื่องขอความเป็นธรรมที่พนักงานอัยการไปแล้ว
ทนายตั้ม ยืนยันว่าไม่มีพิธีสู่ขอ และขอท้าว่าถ้าหากมีจริงมีญาติผู้ใหญ่หรือมีใครรับรู้บ้าง ส่วนกรณีของการตบทรัพย์ ซึ่งยังไม่มีการต่อรองใด ๆ หากมีจริงคงมีหลักฐานมายืนยัน ส่วนก่อนหน้านี้ที่สามีของฝ่ายหญิงมาปรึกษาตน เนื่องจากทางสามีขอหย่ากับฝ่ายหญิงแต่ทางฝ่ายหญิงไม่ยอมหย่าด้วย แต่ทางสามีเลยตอบว่าหากไม่ยอมหย่าก็จะฟ้องหย่าและฟ้องชู้ คืออดีตรองนายกฯ ด้วย ทำให้ทางฝ่ายหญิงได้ไปบอกกับทางอดีตรองนายกฯ ทางอดีตรองนายกฯ จึงเดินทางมาแจ้งความกลับทางฝ่ายหญิงด้วย ในข้อหาฉ้อโกง
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า มีแชทหลุด การสนทนาระหว่างอดีตรองนายกฯ กับหญิงสาวที่ตกเป็นข่าว ทำนองว่า “มีการนัดเจอกันระหว่างอดีตรองนายกฯ กับหญิงสาวที่ตกเป็นข่าว แต่ฝ่ายหญิงต้องผิดนัด เพราะว่าสามีของเธอไม่สบาย ขอดูแลสามีก่อน”
ถ้าหากแชทนี้เป็นของจริง อาจยืนยันได้ว่าอดีตรองนายกฯ รู้ว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว แต่แชทนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35