logo เช้านี้ที่หมอชิต

อดีตรองนายกฯ ‘ย. ยักษ์’ ฟ้องกลับ ‘ครอบครัวฝ่ายหญิง’ ฐานฉ้อโกง-เรียกคืนสินสอด

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - อดีตรองนายกฯ แจ้งความร่วมกันฉ้อโกงสาวชู้พร้อมสามียันครอบครัว เรียกทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 20 ล้านคืน คดีถึงมือ ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital,อดีตรองนายกฯ,ฉ้อโกง,เรียกคืนสินสอด,ย. ยักษ์,นายษิทรา เบี้ยบังเกิด,ทนายตั้ม

240 ครั้ง
|
12 ม.ค. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต - อดีตรองนายกฯ แจ้งความร่วมกันฉ้อโกงสาวชู้พร้อมสามียันครอบครัว เรียกทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 20 ล้านคืน คดีถึงมืออัยการแล้ว ขณะที่ทนายตั้ม ตอกย้ำอดีตรองนายกฯ รู้เต็มอกว่าหญิงที่ตัวเองมาคบมีสามีแล้ว แย้มพรุ่งนี้มีเซอร์ไพรส์
 
หลังจากตกเป็นข่าวใหญ่ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อักษรย่อ ย. แอบเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน จนสามีของหญิงนั้นต้องให้ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนฯ ฟ้องหย่าภรรยาตัวเอง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากอดีตรองนายกรัฐมนตรี
 
ล่าสุด ปรากฏข่าวอดีตรองนายกรัฐมนตรี แจ้งความนางสาว ธ. หญิงชู้ของตัวเอง นาย ก. ผู้เป็นสามี และครอบครัว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยคดีดังกล่าว แจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 มีผู้ถูกกล่าวหา 4 คน คือ นางสาว ธ. หญิงที่เป็นชู้กับอดีตรองนายกฯ นาย ก. สามีของนางสาว ธ. รวมถึงพ่อและแม่ของนางสาว ธ.
 
ในรายงานแสดงผลการบันทึกคดีของ สน.บางยี่ขัน ระบุพฤติการณ์ที่อดีตรองนายกฯ แจ้งความไว้ดังนี้คือ
 
“เมื่อระหว่างเดือนธันวาคม 2564 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 นางสาว ธ. นาย ก. สามี และผู้เป็นแม่ ได้ร่วมกันหลอกลวงว่า นางสาว ธ. ยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีสามี ทั้งที่จริงได้จดทะเบียนสมรสกับนาย ก. ตั้งแต่ปี 2560 ทำให้อดีตรองนายกฯ หลงเชื่อและหลงรัก อยากให้นางสาว ธ. มาดูแลในฐานะคนรัก จึงนำเงินไปสู่ขอนางสาว ธ. กับผู้เป็นแม่และพ่อ ซึ่งได้ให้ทรัพย์สินต่างๆ ตามที่นางสาว ธ. ร้องขอดังนี้
 
1.เงินสด 1 ล้านบาท
2.แหวนเพชร 1 วง ประมาณ 5 แสนบาท
3.ทองคำหนัก 60 บาท ประมาณ 1.6 ล้านบาท
4.เงินสดซื้อรถ 3 ล้านบาท
5.เงินสดซื้อบ้าน 3 ล้านบาท
6.เงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร 319,000 บาท
7.เงินสดให้ใช้ 10 ล้านบาท
รวม 19,419,000 บาท
 
ในรายงานบันทึกคดีระบุอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน รู้อยู่แล้วว่า นางสาว ธ. แต่งงานอยู่กินกับนาย ก. แต่ได้ปิดบังอดีตรองนายกฯ ทั้งที่สามารถแจ้งความจริงได้ และเมื่อได้ทรัพย์สินไปแล้ว ประมาณเดือนพฤศจิกายน 65 นางสาว ธ. ตีตัวออกห่างและเลิกกับอดีตรองนายกฯ และไม่ติดต่ออีกเลย แสดงว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 ร่วมกันหลอกลวงเพื่อให้ได้ทรัพย์สินไป
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 มีหนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ส่งถึงผู้แจ้งความร้องทุกข์ คืออดีตรองนายกฯ ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน แต่ผู้ต้องหาที่เป็นพ่อไม่มาพบพนักงานสอบสวน จึงขอศาลอนุมัติหมายจับ ซึ่งตอนนี้ ได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 3 ต่ออัยการแล้ว ส่วนผู้เป็นพ่อที่หลบหนี จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
 
ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต สอบถามพนักงานสอบสวนคดีนี้ ลำดับเหตุการณ์ว่า อดีตรองนายกฯ แจ้งความ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รวบรวมหลักฐาน จนกระทั่ง วันที่ 15 ธันวาคม 2565 สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย มาแจ้งข้อหา แต่ผู้ต้องหาเดินทางมาแจ้งข้อหาเพียง 3 ราย ซึ่งมาพร้อมกับษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังจากแจ้งข้อหา จากนั้นได้ขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับผู้เป็นพ่อ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566
 
และล่าสุด วันที่ 10 มกราคม 2566 สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ก็ได้มีเอกสารแจ้งความคืบหน้าคดีการสอบสวน สรุปสำนวนส่งอัยการ ออกมา
 
ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ หลังปรากฏข่าวอดีตรองนายกฯ แจ้งความหญิงชู้พร้อมครอบครัว รวมถึงลูกความของตัวเองว่า กรณีนี้ ทั้งสามีที่เป็นลูกความตนเอง รวมถึงภรรยากับแม่ ได้ไปให้การกับตำรวจแล้ว แต่คนพ่อ ไม่ได้ไปให้การเพราะมีหมายจับคดีเช็กติดตัวอยู่ หากไปพบตำรวจ ก็โดนจับได้ทันที ซึ่งการแจ้งความดังกล่าวนั้นเป็นความต้องการที่อดีตรองนายกฯ อยากให้ภาพปรากฏบนสื่อตามนี้
 
ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ภายหลังคดีสั่งฟ้องในวัน 13 มกราคมนี้ ตนจะทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับสามีที่เป็นลูกความ โดยให้อดีตรองนายกฯ มาให้การด้วยว่า เคยรู้จักหรือพบกับลูกความตนหรือไม่ ส่วนกรณีที่อ้างว่าถูกหลอกเอาทรัพย์สินไป 7 รายการนั้น
 
ขณะเกิดเหตุมีใครอยู่บ้าง พ่อแม่และลูกความตนเกี่ยวข้องอย่างไร ต่อมาคือข้ออ้างเรื่องการสู่ขอฝ่ายหญิงนั้น อดีตรองนายกฯ ไปกับใคร มีสักขีพยานและหลักฐานขณะทำพิธีหรือไม่ ท้ายสุดคือทรัพย์สินมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทนั้น นำไปให้ฝ่ายหญิงเมื่อใด ลูกความตนอยู่ด้วยหรือไม่
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
รับชมผ่าน Youtube ได้ที่ https://youtu.be/nBMPjfG2Klg