อย่าท้า ! “อิคคิว” ยื่นหลักฐานเอาผิด “ครูบาไก่” เจ้าคณะจังหวัดขีดเส้นตาย 7 วัน

เช้านี้ที่หมอชิต - อิคคิว คนแฉครูบาไก่ เข้ายื่นหลักฐานให้ทางคณะสงฆ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามระเบียบ ยืนยันทุกคำพูดมีหลักฐาน พร้อมสู้ทางกฏหมาย เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นฝ่ายธรรมยุติขีดเส้นให้ครูบาไก่เข้าชี้แจงภายใน 7 วัน

 

ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 11 มกราคม 2566 ที่กุฏิถิรเสวีวัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นางสาววาสนา  หรืออิคคิว เคลือบสูงเนิน อายุ 33 ปี นางสาวคมคาย หรือบุ๋ม เวกนวล อายุ 43 ปี นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับภาพลับของ พระครูสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่  ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมบูรพาเทวาราม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เข้ายื่นต่อ พระเทพพุทธิมุณี เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ฝ่ายธรรมยุติ และเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี นายพันเทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และนายติราช นาถปุญโญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วมตรวจสอบที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แต่งตั้งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ควบคู่กับทางคณะสงฆ์ ภายหลังจากรับเอกสารหลักฐานจากทางผู้ร้องแล้ว เจ้าคณะจังหวัดและคณะกรรมการ ที่ร่วมตรวจสอบได้มีการซักถามและพูดคุยกับทางผู้ร้องประมาณ 1 ชั่วโมง

 

ภายหลังการพูดคุยกับทางฝ่ายผู้ร้อง พระเทพพุทธิมุณี เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ฝ่ายธรรมยุติกล่าวว่า ตอนนี้รับเรื่องจากทางฝ่ายผู้ร้องแล้ว จากนี้ไปก็จะเรียกประชุมคณะสงฆ์ตามลำดับชั้นปกครอง เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ตามคำร้องของผู้ร้อง ในขณะเดียวกันก็จะมีการเรียกครูบาไก่มาชี้แจงข้อเท็จจริง ตามที่มีผู้ร้องเรียน ซึ่งในเบื้องตันทราบว่า ครูบาไก่ติดกิจนิมนต์ ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จึงได้กำชับว่า ให้รีบมาชี้แจงโดยเร็วที่สุดภายใน 7 วัน

 

ในขณะที่ นายติราช นาถปุญโญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าในเบื้องต้น ยังไม่สามารถให้ข้อมูลในรายละเอียดต่าง ๆ ได้ โดยเป็นกระบวนการขั้นตอนของคณะสงฆ์ตามลำดับชั้น ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นไม่มีอำนาจในการลงโทษ เนื่องจากไม่มีข้อกฎหมายรองรับ กรณีครูบาไก่ ได้ทำหน้าที่นำข้อมูลถวายให้กับเจ้าคณะจังหวัดเพื่อดำเนินการตามระเบียบของทางคณะสงฆ์ตามลำดับชั้นขั้นตอน และคอยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการตรวจสอบที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางคณะสงฆ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ด้าน นางสาววาสนา หรืออิคคิว เคลือบสูงเนิน อายุ 33 ปี กล่าวภายหลังการเข้ายื่นเอกสารต่อเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นและคณะกรรมการว่า เอกสารที่นำมายื่นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทั้งเรื่องภาพลับ และเอกสารการพูดคุยกับครูบาไก่ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องเงิน และการสร้างวัตถุมงคล ทุกเรื่องมีหลักฐานทั้งหมด ซึ่งได้ยื่นให้กับคณะสงฆ์ไปหมดแล้ว ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่กุขึ้นมาทำร้ายใคร แต่สังคมต้องรับรู้ว่าคนที่ผู้คนนับถือศรัทธานั้น มีพฤติกรรมเช่นไร ไม่ได้มีจิตที่สงบตามที่ปรากฏออกมา นี่ไม่ใช่การกล่าวหาลอย ๆ แค่ทุกเรื่องมีหลักฐาน ในส่วนเรื่องเงินทองที่ใช้จ่ายในวัด ตนเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง กลับถูกกล่าวหาว่าโกง ว่าทำไม่ดี จนสุดท้ายก็มาพบเรื่องภาพลับที่ส่งให้กับหนุ่มวัยรุ่นชาวจังหวัดเชียงใหม่ จึงเลิกศรัทธา และถอยออกมา ซึ่งหากฝ่ายครูบาไก่ และพี่ชาย หรือสายบุญ มีหลักฐานตามที่กล่าวหาตน ก็ให้นำไปแจ้งความ ให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายได้เลย และถ้าจะพิสูจน์ความจริง กล้าสาบานต่อพระแก้วมรกตหรือไม่ ส่วนตนพร้อมทุกเรื่อง เพราะมีหลักฐานชัดเจน ส่วนเรื่องเงินที่สำรองจ่ายนั้น ครูบาจะจ่ายคืน เมื่อมีงานบุญได้รับเงินจากการทำบุญก็มาจ่ายคืนให้ รวมถึงเงินเจ็ดแสนกว่าบาทที่ครูบาให้มา ก็เป็นเงินใช้หนี้ที่มาการสำรองจ่ายให้วัด และยังยืนยันว่า ทุกอย่างที่พูดคือความจริงที่มีหลักฐานยืนยัน

 

ทางด้านนางสาวคมคาย หรือบุ๋ม เวกนวล อายุ 43 ปี โยมสายบุญคู่หูกับคุณอิคคิว เปิดเผยว่า วัดเป็นหนี้ตนกับอิคคิวรวมทั้งหมด 1,300,000 ล้านบาท โดยล่าสุดหลังเสร็จสิ้นการทอดกฐิน ทางวัดได้เงินมาเจ็ดแสนกว่าบาท ครูบาไก่ก็มอบเงินให้ โดยครูบาบอกว่าเป็นเงินใช้หนี้ ส่วนที่เหลืออีก 277,000 บาท ครูบาไก่รับปากว่าจะโอนจ่ายเข้าบัญชีธนาคารให้ จึงได้ให้เลขบัญชีธนาคารกับครูบาไก่ไปเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้คืน