เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้านักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกขบวนการมิจฉาชีพลวงให้ทำยอดวิว Youtube ก่อนสร้างกลโกงหลอกให้โอนเงินรวม14,000 บาท แม่ของผู้เสียชีวิตเข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อช่วยเร่งคลี่คลายคดี ล่าสุดได้ควบคุมตัวเจ้าของบัญชีม้า
เมื่อวานนี้ ผู้ปกครองของนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผูกคอตายเสียชีวิตได้เข้าพบ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมี พลตำรวจเอกวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.เข้าร่วมรับฟังด้วย โดยผู้ปกครองของเด็กได้เข้าพบเพื่อขอให้ตำรวจช่วยเร่งรัดคดี ทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้เรียกประชุมชุดสืบสวน บช.สอท. ทันทีเพื่อเร่งคลี่คลายคดี
ซึ่งภายหลังการประชุมทางพล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของ บช.สอท. เร่งรัดดำเนินการสืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมว่า คนร้ายได้หลอกให้เด็กนักเรียนคนดังกล่าวลงทุนทางโซเชียล โดยจะได้รับผลกำไรที่สูง
ตอบแทน ในลักษณะหลอกให้โอนเงิน ก่อนหลงเชื่อแอบเอาเงินจากบัญชีของแม่โอนเข้าบัญชีตัวเอง ซึ่งเริ่มจากการที่คนร้ายได้เปิด Instagram โฆษณาชักชวน จากนั้นเมื่อเด็กเห็นก็เกิดความสนใจ เหตุที่อยากจะช่วยหาเงินให้กับทางบ้าน จึงได้ทำการ Add Line เพื่อพูดคุยกัน จากนั้นก็จะให้ดูโฆษณาผ่านทาง Youtube เพื่อทำภารกิจ ก่อนที่จะอ้างว่าภารกิจดังกล่าวมีผู้สนใจเยอะ จากนั้นก็ออกอุบายให้เด็กซื้อสินค้าเพื่อร่วมลงทุน เมื่อเด็กหลงเชื่อก็จะโอนเงินเข้าสู่ Cryptocurrency เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม
โดย รองผบ.ตร. ย้ำว่า หากถูกชักชวนทำงานผ่านออนไลน์ เราต้องได้เงินจากการทำงาน ไม่ใช่ทำงานแล้วต้องเสียเงิน หากเป็นเช่นนี้ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นกลอุบายของมิจฉาชีพ ซึ่งกรณีนี้ตัวเด็กเองมีความตั้งใจที่จะช่วยครอบครัวหารายได้พิเศษ จึงไม่ได้เป็นความผิดของเด็กเลย ทั้งนี้ขบวนการนี้อาศัยการที่เด็กมีวุฒิภาวะน้อย เป็นกลุ่มเป้าหมายหลอกลวง
ซึ่งทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอเวลาในการดำเนินการสืบสวนหาผู้กระทำ แต่ขอให้ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลาน เพราะไม่อยากเกิดเหตุลักษณะนี้เป็นรายที่สอง
ตำรวจได้บูรณาการทำงานร่วมกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดวงจรซิม-สาย-เสา ของขบวนการมิจฉาชีพที่ใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารหลอกลวงคนไทย เพื่อตัดวงจรการก่อเหตุ ในกรณีนี้พิสูจน์ทราบว่าหลังจากคนร้ายได้หลอกเงินจากเด็กแล้วได้มีการถ่ายโอนไปยังบัญชีม้าที่ได้จัดเตรียมไว้ไปยังบัญชีแถวหนึ่งถึงแถวห้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวบุคคลและหาความเชื่อมโยง และจะ ดำเนินการให้เร็วที่สุด
สำหรับกรณีการหลอกลวงเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าทำงานเพิ่มยอดวิว Youtube จนนำไปสู่ความสูญเสียครั้งนี้ มีรายงานว่า กลโกงวิธีการของมิจฉาชีพคล้ายๆ กับหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ลงโฆษณาเชิญชวนหารายได้ เมื่อมีคนหลงเชื่อจะแอดบัญชีแอพลิเคชั่นไลน์ของคนร้ายเพื่อสอบถามรายละเอียด โดยมีแอดมินเป่าเปา ให้ข้อมูล
จากนั้นแอดมินเป่าเปาจะหว่านล้อมด้วยโฆษณาชวนเชื่อว่า “ Youtube รายได้เสริมเข้ามาแบบง่ายสุดๆ ทุกๆ ครั้งที่ดูคลิปเพลงจบ ค่าจ้างจะเข้าบัญชีตัวเองโดยตรงไม่ต้องอบรม ไม่ต้องเดินทาง แค่ขยันก็ได้เงินทุกวัน” เพลงละ 40 บาท 10 เพลง 400 บาท
และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อ แอดมินเป่าเปา จะให้แอดบัญชีเพิ่มเพื่อนไลน์ครั้งที่ 2 ครั้งนี้จะได้ติดต่อกับแอดมินที่ชื่อ “ติวเตอร์เอวา” ที่จะคอยประสานการทำงาน ให้คำปรึกษา ดูแลยอดการเบิกจ่ายของเหยื่อ โดยในขั้นตอนนี้แอดมินเอวา จะส่ง Packge มาชักจูงใจอีกรอบ แต่มีการระบุว่าเหยื่อต้องจ่าย “ค่าการประกันทำงาน ให้โอนเงินเข้าบัญชี “นายโอภาส ผลาพรม” ซึ่งทางตำรวจพิสูจน์ทราบว่าเป็นหนึ่งในบัญชีม้าของมิจฉาชีพ
สำหรับ Packge ชักจูงใจ คืออัตราค่าตอบแทน ที่มิจฉาชีพใช้หลอกล่อเหยื่อคือ
10 คลิป ได้ค่าตอบแทน 400 บาท แต่ต้องเสียค่าประกัน 100 บาท
15 คลิป ได้ค่าตอบแทน 600 บาท ประกัน 150 บาท
20 คลิป ได้ค่าตอบแทน 800 บาท ประกัน 200 บาท
30 คลิป ได้ค่าตอบแทน 2000 บาท ประกัน 500 บาท
40 คลิป ได้ค่าตอบแทน 3500 บาท ประกัน 750 บาท
50 คลิป ได้ค่าตอบแทน 5000 + บาท ประกัน 1000 บาท
ยิ่งดูเยอะ ค่าตอบแทนก็ยิ่งมาก เหยื่อเห็นก็อยากจะทำเพราะคิดว่าได้ค่าตอบแทนง่าย
ซึ่งมีรายงานว่า ตำรวจพิสูจน์ทราบจนรู้ว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้ 2 บัญชีม้า บัญชีแรกชื่อบัญชี “นภาพร หอมจันทร์” ใช้บัญชีของธนาคาร CIMB อีกบัญชีชื่อบัญชี “โอภาส ผลาพรม” ธนาคารทหารไทยธนชาต หลังจากรวมรวบข้อมูล และ แกะรอยเส้นทางการเงิน จาก 2 บัญชี ที่ผู้เสียชีวิตโอนเงินไป ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนไปควบคุมตัวเจ้าของบัญชีม้า อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาที่ สอท. ซึ่งทาง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแถลงรายละเอียดต่อไป รวมถึงการเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของน้องนักเรียนที่เสียชีวิต
กรณีนี้ ตำรวจ เปิดเผยว่ารูปแบบกลโกงวิธีการของคนร้ายมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อย ซึ่งการติดตามจับกุมบัญชีม้า ติดตามเงินให้ผู้เสียหาย ตลอดจนการอายัดบัญชีที่ใช้ในการก่อเหตุ อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เนื่องจากปัจจุบันพบแผนประทุษกรรมว่า ทันทีที่คนร้ายสามารถที่จะหลอกเอาเงินของผู้เสียหายได้ก็จะถูกถ่ายโอนไปสู่บัญชีเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งติดตามทวงคืนได้ยาก แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการเปิดพื้นที่ให้แจ้งความออนไลน์เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุดคือการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนในการใช้เทคโนโลยี
ส่วนบรรยากาศงานศพเมื่อเย็นวานนี้ที่วัดบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ผู้อำนวยการโรงเรียนปากเกร็ด คณะครูอาจารย์ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม โดยมีเพื่อนๆ ร่วมห้องมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งเพื่อนก็นำคลิปเก่าๆ ของน้องตอนที่ยังมีชีวิตมาเปิดให้ชมในงาน เพื่อนบอกว่า น้องนักเรียนชายเป็นคนร่าเริง สดใส แต่พอมีปัญหาก็จะไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง พอเพื่อเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจมาก ซึ่งพิธีสวดอภิธรรมศพทั้งหมด3 คืนจะฌาปนกิจศพในวันพฤหัสเวลา 16.00 น.
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35