แม่ร้อง แท็กซี่ตีนผีขยี้ลูกชายดับ คู่กรณีชิ่งหนี ตร.ไม่รับแจ้งความ ไล่หาหลักฐานเอง !

863 ครั้ง

11 ม.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

แม่ร้องสื่อ ลูกชายมอเตอร์ไซค์ล้ม ถูกแท็กซี่ทับเสียชีวิต คู่กรณีหลบหนี ไม่รับผิดชอบ สุดท้ายคดีไม่คืบ ตำรวจบอกให้ไปหาหลักฐานเอง

วันที่ 11 ม.ค. 66 คุณปรเมศร์ ยวนะปุณฑ์ (เบสท์) น้องชายผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า พี่ชายของตนประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม แล้วถูกรถแท็กซี่วิ่งมาเหยียบซ้ำจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อทราบเรื่องตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ดอนเมือง แต่ตำรวจให้ไปหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเอง ให้แน่ใจว่าล้มเองหรือถูกชน

ถกไม่เถียง : แม่ร้อง แท็กซี่ตีนผีขยี้ลูกชายดับ ค

ตนจึงต้องไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ จึงได้ทราบว่าพี่ชายถูกรถแท็กซี่ทับซ้ำหลังจากรถล้ม ส่วนแท็กซี่คู่กรณีไม่ได้มาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด แม้แต่ตำรวจก็ไม่เคยโทรมาให้ความช่วยเหลือ จนเมื่อมาออกข่าวจึงได้ติดต่อมา

ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนของพี่ชาย ต้องตามสืบว่าแท็กซี่คู่กรณีคือใคร ตามหาหลักฐานกันเอง โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจ สุดท้ายจึงได้เจอตัวคนขับแท็กซี่คู่กรณี เมื่อได้พบกันแล้วตนเห็นว่าคนขับแท็กซี่คู่กรณีไม่มีความรู้สึกสำนึกในความผิดที่ทำลงไป อ้างว่ามองไม่เห็น ไม่ขอโทษ ไม่รับผิดชอบ แถมยังยั่วยวนโมโหอีก พูดแค่คำว่า “ขอโทษแล้วกัน” “คิดว่าทับรถมอเตอร์ไซค์”

ด้านคุณประชา ยวนะปุณฑ์ (แคท) พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่าหลังจากลูกชายเสียชีวิต ตนถูกไล่ออกจากงาน เนื่องจากนายจ้างไม่อนุญาตให้คุณพ่อลาหยุดเพื่อไปจัดงานศพให้ลูกชายที่เสียชีวิต นายจ้างตอบกลับมาว่า “หยุดทำอะไร ไม่ควรหยุดนะ” “ทำอะไรอีก ไม่รับสาย ไม่โทรกลับ ฉันต้องหักเบี้ยขยัน 1,000 บาทนะ สำหรับการขาดงานวันพรุ่งนี้”

เมื่อเป็นข่าวแล้วตำรวจจึงโทรมาบอกว่าให้ใจเย็น ๆ เดี๋ยวคู่กรณีจะมอบเงินรับผิดชอบ ล่าสุดมีการโอนเงินจากคู่กรณีมา 15,000 บาท และพยายามขอนัดไกล่เกลี่ยให้ยอมความ

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้แนะนำด้านกฎหมายว่า คดีนี้ไม่ต้องไปเจรจา เพราะยอมความกันไม่ได้ นอกจากนี้แท็กซี่คู่กรณีมีความผิดหลังจากขับรถทับผู้เสียชีวิตแล้วไม่ลงมาให้ความช่วยเหลือ แถมยังขับหนีไปจากที่เกิดเหตุ และเป็นการประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

พฤติกรรมของคู่กรณีชัดเจนว่าไม่มีสามัญสำนึกในการช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต ครอบครัวสามารถนำไปเป็นหลักฐานฟ้องให้ศาลเอาผิดคู่กรณี และเรียกเงินเยียวยาได้มากกว่านี้ โดยไม่ต้องไปเจรจายอมความรับเงินโดยตรงจากคู่กรณี นอกจากนี้ยังสามารถไปรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมได้ ในฐานะเป็นทายาทของผู้เสียชีวิต

ด้านแท็กซี่คู่กรณีได้อธิบายกับทีมงานว่าวันที่เกิดเหตุ คู่กรณีมากับเพื่อน 3 คน พอเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนก็ได้จอดรถลงมาดู เพื่อให้ความช่วยเหลือ และโทรติดต่อประกัน ยืนยันว่าไม่ได้หนีไปไหน กลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตจึงบอกให้เอารถกลับบ้านไปก่อน ไว้ไปคุยกันที่โรงพัก

อย่างไรก็ตาม ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียใจมาก ตนขับรถมากว่า 30 ปี ไม่เคยขับรถชนใคร เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนคิดมากจนเหนื่อย 3-4 วันมานี้ไม่มีเรี่ยวแรงเลย สำหรับเงินเยียวยา ญาติผู้เสียชีวิต เรียกเงินเยียวยามา 20,000 บาท แต่ตอนนี้ตนหาได้ 15,000 บาท จึงช่วยเท่านี้ไปก่อน ตนประกอบอาชีพขับแท็กซี่ หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนเรื่องเงินเยียวยาหลังจากนี้ คงต้องให้ประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ

ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยืนยันว่า สิ่งที่แท็กซี่คู่กรณีกล่าวมานั้นไม่เป็นความจริงเลย ทั้งจำนวนคนที่เป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต การนัดไปเจรจาที่โรงพัก เพราะคู่กรณีไม่มาตามนัด และจำนวนเงินเยียวยา 20,000 บาท ที่ครอบครัวไม่เคยเรียกร้องจากคู่กรณีรายนี้เลย

ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35