จับโป๊ะ ‘น้องวีน’ สอบติดหมอฐานะยากจน เปิดรับบริจาคแต่ใช้ไอโฟน-แอปเปิลวอช

เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนักเรียนสอบติดแพทย์ที่จังหวัดพัทลุง แล้วขอรับบริจาคเพราะอ้างว่าที่บ้านยากจน จนประชาชนแห่บริจาคกันจำนวนมาก แต่มีการขุดคุ้ยจนพบว่า ครอบครัวนี้ไม่ได้จนจริงอย่างที่อ้าง ล่าสุดญาติก็ออกมาเปิดเผยว่าได้ยอดบริจาคกว่า 8 แสนบาท เหตุที่ใช้โทรศัพท์แพง เพราะแม่ผ่อนให้ลูกใช้ค้นคว้าหาความรู้

 

ข่าวนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา เมื่อมีรายงานว่า นักเรียนรายหนึ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง สามารถสอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่น่าจะมีปัญหาและอุปสรรคในการศึกษาต่อเนื่องจากทางครอบครัวมีฐานะยากจน แม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

 

คุณแม่ของนักเรียนคนดังกล่าว ชื่อ นางอำภา ขอสงวนนามสกุล อายุ 42 ปี มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง และรับซื้อเศษยางตามสวนยาง มีรายได้วันละไม่เกิน 400 บาท เลิกรากับสามีมานานแล้วเพราะปัญหาความยากจน มีลูกต้องดูแล 2 คน ซึ่งคนโตชื่อ น้องวีน อายุ 18 ปี สอบรอบพิเศษของนักเรียนภายในจังหวัดพัทลุง จำนวน 11 คน มีผู้สอบได้ 8 คน โดย น้องวีน สอบได้อันดับ 1 และเป็นคนแรกของโรงเรียน โดยเล่าว่าที่มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเรียนแพทย์นั้น เกิดจากเมื่อตอนเป็นเด็กตนมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่ก็ได้รับการดูแลจากแพทย์ในจังหวัดพัทลุงด้วยดี จึงตั้งใจว่าหากเป็นแพทย์ตนจะพูดจาให้ดีเหมือนกับแพทย์ผู้ที่เป็นไอดอลของตนให้จงได้ แต่เมื่อความฝันเป็นจริง กลับต้องเผชิญกับความยากจน จึงรู้สึกท้อใจบ้าง แต่อยากจะเรียนให้จบแพทย์ จึงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตเมตตาด้วย

 

ซึ่งภายหลังจากที่เป็นข่าวตามเว็บไซต์และทีวี มีการแชร์ข้อมูลเป็นจำนวนมาก ประชาชนก็ช่วยกันโอนเงินเข้าบัญชีของน้องวินจำนวนมาก จนมีการประกาศผ่านสื่อว่า ขอปิดรับบริจาค เพราะจำนวนเงินเพียงพอจะนำไปใช้เป็นทุนการศึกษาต่อแล้ว แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่ามีจำนวนเท่าไหร่ โดยยืนยันว่าจะนำทุนการศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

แต่เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) ภายหลังจากเป็นข่าวดัง ก็มีการตั้งข้อสังเกตจากชาวเน็ตว่า เหตุใดจึงไม่มีการพูดถึงกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา และยอดรับบริจาคได้ไปเท่าไหร่ ทำให้ในโลกโซเชียลมีการขุดคุ้ยเรื่องนี้ จนพบรูปภาพหลายภาพที่บ่งชี้ว่า น้องวีนและแม่ ไม่ได้มีลักษณะใกล้เคียงกับคำว่าคนยากจน เช่น ใช้มือถือยี่ห้อดังราคาแพง นาฬิกาข้อมือยี่ห้อเดียวกับมือถือซึ่งคนยากจนทั่วไปเข้าไม่ถึงของใช้ราคาแพงขนาดนี้ ส่วนคุณแม่ของเด็กก็มีการถ่ายภาพขณะซื้อทองคำ ตอนขับรถยนต์ ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นของตนเองหรือไม่ แต่หากมีสิ่งของเหล่านี้ตามที่ตั้งข้อสังเกต สิ่งที่ครอบครัวนี้กำลังเปิดรับบริจาคเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่

 

ชาวเน็ตจึงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า ทำไมไม่กู้ กยศ. หรือบางรายบอกว่าการเรียนแพทย์ปัจจุบันมีทุนการศึกษาหลายประเภท หรือเพราะไม่อยากเรียนจบมาทำงานใช้ทุนจึงมาเปิดรับบริจาค

 

ซึ่งสิ่งที่โลกโซเชียลตั้งคำถาม เพราะเคยเกิดกรณีศึกษาหลายครั้งแล้วที่มีการเปิดรับบริจาค แล้วคนไทยมีนิสัยโอนไว ใจดี สุดท้ายผู้ได้รับบริจาคไม่ได้ลำบากยากจนจริงเหมือนที่เป็นข่าว หรือ กลายเป็นพฤติกรรมลอกเลียนแบบสำหรับมิจฉาชีพ จึงอยากให้แต่ละกรณีที่จะเปิดรับบริจาค ควรผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจะนำเสนอ

 

แต่ล่าสุด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนที่น้องเคยเรียนกับญาติที่เป็นตัวแทนของน้อง ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ครอบครัวของน้องได้ยอดบริจาคราว ๆ 8 แสนบาท ส่วนที่ใช้โทรศัพท์กับโน้ตบุ๊กราคาแพงนั้น เพราะแม่อยากให้ลูกใช้ค้นคว้าหาความรู้ ซื้ออนาคตของลูก รองรับการสื่อสารด้านการศึกษายุคใหม่ ที่ผ่านมา ต้องหายืมเงินแล้วผ่อนใช้เป็นงวด ๆ และทางครอบครัวก็ต้องขอบคุณผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคทุกท่าน