ประเด็นร้อนรับต้นสัปดาห์กับกรณีที่ “ทนายตั้ม” ออกมาโพส์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมระบุข้อความว่า ผู้ชายคนหนึ่งมาปรึกษากับตนเองว่า เมียที่อยู่กินกันมานานช่วงหลัง ๆ มีท่าทีเปลี่ยนไป จึงแอบเอาโทรศัพท์มาเช็กดู ปรากฏว่า ไปเจอภาพสุดสยิวของเมียกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักดี
นอกจากที่ “ทนายตั้ม” จะโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวแล้ว “ทนายตั้ม” ยังเดินหน้าแฉต่อ พร้อมกับนำแชตลับที่เป็นการสนทนากันระหว่างเมียของผู้ชายคนนี้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเปิดเผย ซึ่งข้อความภายในแชทเป็นการพูดคุยกันในเชิงชู้สาว มีการใช้ถ้อยคำที่บ่งบอกในเชิงชู้สาวอย่างชัดเจน เช่น “จ๊ะเมีย” “จ๊ะผัว” “ตั้งแต่เมียเป็นโควิดมา ก็ป่วย ๆ หาย ๆ ตลอดเลยจ๊ะ” “งั้นเราไปทานข้าวกันเฉย ๆ ก่อนก็ได้นะจ๊ะ” และยังมีบางประโยคที่ไม่สามารถอ่านออกอากาศได้
และทนายตั้มยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ชายคนนี้มาปรึกษาตนตั้งแต่ปีที่แล้ว และตนก็ทำเรื่องฟ้องหย่าอดีตเมีย และฟ้องชู้ที่เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ได้มีการข่มขู่ คุกคาม “คุณ ก.” มาตลอด โดย คุณ ก. อยากจะให้เรื่องนี้เผยแพร่สู่สาธารณะ เพื่อป้องกันตัวหากเกิดอะไรขึ้นมา และอยากให้ประชาชนได้รู้พฤติกรรมของนักการเมืองใหญ่คนนี้ จึงขอให้ตนช่วยดำเนินการ
“ทนายตั้ม” เปิด 3 คำใบ้ “อดีตรองนายกรัฐมนตรี”
ทนายตั้ม ยังตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องนี้ พร้อมบอกกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่สามารถบอกชื่อตรง ๆ ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทางสำนักทนายของตนอาจจะถูกฟ้องได้ แต่ตนขอให้คำใบ้เพิ่ม คือ 1.เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี 2.เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย และ 3.ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบ “สนามกอล์ฟอัลไพน์”
นอกจากนี้ อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ ไม่มียศทางตำรวจและอายุมากแล้ว ซึ่งคำใบ้เป็นตัวอักษร คือ ย.ยักษ์ และที่ตนได้โพสต์มันสามารถแปลได้หลายอย่าง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนขอเซฟตัวเอง ซึ่งวันที่ 21 มี.ค. 66 จะต้องขึ้นศาลเรื่องฟ้องหย่า หากติดตามก็จะรู้แล้วว่า ตนไปกับใคร
ทนายตั้ม บอกอีกว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ตนไปหาข้อมูลมาแล้ว โดยคนนี้เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยปี 2551 และออกจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี 2561 แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ตอนนี้ คนนี้ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแล้ว และไม่เกี่ยวข้องไรกับพรรคการเมือง
พอทนายตั้มเปิดประเด็นมาแบบนี้ แน่นอนว่าไปสะกิดต่อมความอยากรู้ของใครหลายคน หลายคนถึงกับไปค้นหาข้อมูลตามโลกออนไลน์ และวิกิพีเดีย เพื่อตรวจสอบหารายชื่อของรองนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งประเทศไทยมีรองนายกรัฐมนตรีมากถึง 125 คน และหากไม่นับรวมกับปัจจุบันเท่ากับว่า ประเทศไทยมีอดีตรองนายกรัฐมนตรี ทั้งหมด 118 คน และมีจำนวน 61 คน ที่ยังมีชีวิตอยู่ และในจำนวนนี้ ยังมีอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 คน
“ยงยุทธ” จี้ “เพื่อไทย” ขับ “'ทนายตั้ม” พ้นสมาชิกพรรค
พอฟังข้อมูลต่าง ๆ ที่ “ทนายตั้ม” ออกมาแฉและเปิดคำใบ้ต่าง ๆ ทั้งบอกว่า เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย และ ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบ “สนามกอล์ฟอัลไพน์” รวมถึงที่ทนายตั้มบอกว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่มียศทางตำรวจ และมีตัวอักษรย่อ คือ ย.ยักษ์
ทำให้มีผู้สื่อข่าวไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเปิดเผยสั้น ๆ ว่า ไม่เป็นไร ทราบเรื่องทั้งหมดทุกอย่างแล้ว กำลังจัดการอยู่ โดยอยากให้พรรคเพื่อไทย ขับทนายตั้มออกมาจากพรรคการเมืองด้วย เพราะทนายตั้มเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ และเหตุการณ์ทั้งหมดยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวเองแน่นอน เพราะอดีตรองนายกรัฐมนตรีมีตั้งหลายคน
“ชลน่าน” ชี้ ปมชู้สาวไม่เกี่ยว “เพื่อไทย”
และล่าสุดเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา “ทนายตั้ม” ก็โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมระบุข้อความว่า “อ้าว คุณยงยุทธ ผมยังไม่ได้พูดชื่อคุณเลย ร้อนตัวอะไรหรือเปล่าครับ จะมาขับผมออกจากพรรคเพื่อไทยทำไม ในเมื่อผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีความนิยมชมชอบในพรรคเหมือนประชาชนทั่วไปมาหลายปีแล้ว ผมทำผิดอะไรในการให้คำแนะนำกับลูกความ และช่วยปัดเป่าทำความสะอาดพรรค ไม่ให้พรรคมัวหมอง”
กลายเป็นว่าประเด็นนี้ลุกลามไปถึงพรรคเพื่อไทยจนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาตอบคำถามเรื่องที่เกิดขึ้น
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เป็นเพียงการคาดเดาของสื่อและคนที่เกี่ยวข้องว่าบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้ก็ยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อมีการคาดเดาระบุว่า อดีตเคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากอดีตเคยเป็นสมาชิกพรรค จะกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ต้องดูข้อเท็จจริง
นพ.ชลน่าน บอกอีกว่า ถ้าบุคคลนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และปัจจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในมุมของข้อกฎหมาย ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น ในมุมของพรรค จึงไม่มีความเป็นห่วงหรือกังวลอะไร
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35