คนค้ำประกัน ทำอะไรกับลูกหนี้ได้บ้าง-เตือนภัยแก๊ง Call Center เครื่องหมาย +66 อาจเป็นมิจฉาชีพ

633 ครั้ง

12 ม.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

หนี้ค้ำประกัน เป็นหนี้ที่เจ็บปวดที่สุดในบรรดาหนี้ทั้งหมด เพราะเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ และไม่ได้ใช้เงิน จะทำอย่างไร หากถูกลูกหนี้หนี เงินทองของจริงมีคำตอบ

หลักของการค้ำประกัน ในบางครั้งผู้ที่เข้าไปขอสินเชื่อ หรือขอเงินกู้ ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะ รับภาระหนี้ ก็จะมีรูปแบบที่เห็นได้ง่าย ๆ กู้ร่วม : สินทรัพย์ใหญ่ ๆ เช่น บ้าน

การให้คนมาค้ำประกัน ประเมินความสามารถแล้ว ไม่น่าจะผ่อนไหว สุ่มเสี่ยง สถาบันการเงินก็จะเลือกคนที่จะมาค้ำประกันให้ ก็จะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การขอสินเชื่อของคน ๆ นึงง่ายขึ้น เช่น สินเชื่อรถยนต์ วางดาวน์ 30% หรือมีคนค้ำ

อีกตัวที่เห็นกันอย่างแพร่หลาย คือ หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ : กู้ได้เท่าวงเงินฝาก หรือ ถ้ากู้มากกว่าวงเงิน จำเป็นต้องมีคนค้ำประกัน

วิธีการป้องกันตัวเอง จากการเป็นผู้ค้ำประกัน

1. เห็นมูลค่าหนี้แล้ว ตัวเราเองรับไหวไหม

2. ดูความสัมพันธ์ของเรา กับคนที่จะไปค้ำ

3. ดูผลกระทบทางจิตใจที่จะเกิดขึ้น

สิ่งที่อยากจะบอกกับผู้ขอสินเชื่อ อยากให้แสดงความรับผิดชอบด้วย เวลาที่เดือดร้อน ต้องการคนช่วย การได้คนค้ำประกันก็จะทำให้เรามีโอกาสได้กู้สินเชื่อ และได้เงินไปตอบโจทย์ตามเป้าหมายชีวิต ก็พยายามให้คิดถึงผู้ค้ำประกันด้วย

กรณีที่มีการหนี เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเซ็นค้ำประกันใครไว้แล้ว ให้ติดตามการจ่ายการชำระหนี้ของเขา ว่ามีความเคลื่อไหวอย่างไรบ้าง ปัจจุบันจะมีเงื่อนไขว่า เวลาที่จะมาฟ้องกับตัวผู้ค้ำ ต้องแจ้งล่วงหน้า ให้แหล่งที่อยู่ลูกหนี้แก่เจ้าหนี้ เพื่อติดตามได้ง่ายขึ้น

วันนี้จะขอเตือนภัยพ่อแม่พี่น้องที่อาจจะโดน แก๊ง Call Center ที่โทรมาแล้วถามว่าใช่คุณ ชื่อนั้น ชื่อนี้ หรือไม่ แล้วอาจจะต่อด้วยมุกที่ว่าเราไปทำอะไรผิด หรือเรามียอดค้างชำระธนาคาร และรวมถึงรู้เลขบัตรประชาชนเราครบทุกหลัก

เงินทองของจริง : คนค้ำประกัน ทำอะไรกับลูกหนี้ได้

บอกเลยว่าจะทำให้เราสับสนไปเลย เพราะการที่เจอแบบนี้ เราอาจจะตกใจกลัว และลังเลว่า นี้คือของจริง หรือมิจฉาชีพกันแน่ ให้เราทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ดังนี้

หากเป็นเบอร์แปลก ๆ หรือไม่คุ้นเคย ควรมีสติอยู่เสมอ ไม่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ หากเบอร์ที่โทรมามีเครื่องหมาย +66 โทรเข้ามา อาจเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพที่โทรมาจากต่างประเทศ ถ้าฟังแล้วเนียนมาก ให้เราติดต่อหรือโทรกลับไปหาต้นสังกัดที่สายนั้นที่ถูกกล่าวอ้าง เช่น โทรเบอร์กลางของหน่วยงานที่มิจฉาชีพโทรมาอ้าง เพื่อเช็กซ้ำ

โหลดแอปเพื่อเราจะนำเบอร์นั้นไปตรวจสอบ แอปจะสามารถบอกเราได้เลยว่าเบอร์นั้นโทรมาจากที่ใด หรือเครือข่ายอะไร

จากการสังเกตแล้ว มิจฉาชีพแน่นอน ให้เรากดวางสายไม่ต้องคุยต่อ เพราะเราอาจจะโดนหลอกล่อให้บอกข้อมูลอะไรเพิ่มไป เมื่อรู้ว่าเครือข่ายใด สามารถโทรไปที่เครือข่ายนั้น คือแจ้งให้ตรวจสอบ และให้เครือข่ายระงับเบอร์นั้นได้ด้วย

และถึงแม้มิจฉาชีพจะรู้เลขบัตรประชาชนเราก็ไม่ต้องกังวล เพราะเลขบัตรประชาชนของเราไม่ได้เป็นความลับที่ลึก แต่เลขหลังบัตรประชาชนของเราต่างหากที่ไม่ควรมีใครรู้เลยเด็ดขาด

และนี้ก็เป็นการเตือนภัยเพราะมิจฉาชีพอัปเกรดตัวเองขึ้นไปจนเราอาจจะตามไม่ทันเลยทีเดียว

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35