หนุ่มสุดจะทน ส่งรถเข้าอู่ทำสี ผ่านไป 7 ปี เหลือแต่ซาก อะไหล่หายเรียบ !

สุดจะทน หนุ่งร้อง "ถกไม่เถียง" ส่งรถซ่อมสี 7 ปียังไม่เสร็จ พอออกข่าว ช่างโผล่จะทำต่อให้ แต่ขอเรียกเงินเพิ่ม พร้อมสวน เอามาซ่อมไม่ถึง 7 ปี ! 

 

 

             วันที่ 9 ม.ค. 66 รุ่งทิวา ม่วงดี (เอส) เจ้าของรถ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อปี 58 ตนติดต่ออู่ ให้มารับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ปี 1995 ส่งซ่อมทำสีใหม่ และปะผุนิดหน่อย ทั้งนี้ก่อนเข้าอู่ รถแทบไม่ได้เป็นอะไรเลย สภาพรถ 90% มีแค่สีมันลอก และหลังคารถมันผุนิดหน่อย ไม่ได้เอาไปชนมา โดยตกลงกับช่างว่าจะเสร็จภายใน 1 เดือน ราคาอยู่ที่ 20,000 บาท ซึ่งช่างมีการเบิกเงินอยู่เรื่อย ๆ ทีละ 2,000-3,000 ทิ้งเวลาผ่านไป ช่างบอกแต่ว่าเดี๋ยวทำให้ จนเวลาผ่านไปกว่า 7 ปี ก็ยังไม่เสร็จ เบิกเงินไปแล้วกว่า 10,000 บาท 

 

 

             ที่ปล่อยรถอยู่ที่อู่มานานกว่า 7 ปี เพราะว่า ตนทำอาชีพแสดงลิเก มันไม่มีเวลาเข้าไปดูรถ บางทีต้องเดินสายแสดงลิเก ต่างจังหวัดหลายเดือน ขณะเดียวกันอู่ที่ทำเป็นคนรู้จักของ ระหว่างทาง 7 ปี พ่อของตนเข้าไปดูอยู่เรื่อย ๆ 2-3 เดือนเข้าไปทีหนึ่ง ซึ่งพ่อก็จะบอกแต่ว่า เดี๋ยวช่างเขาจะทำแล้ว พ่อของตนเขาจะเกรงใจช่าง พยายามปัดไม่ให้ตนเข้าไปดูรถเอง เพราะไม่อยากให้เอาเรื่อง ตนเคยเข้าไปแค่ครั้งเดียวประมาณ 2 ปีที่แล้ว(2564) ซึ่งสภาพรถก็เพิ่งจะแค่โป๊สีเอาไว้ นอกจากนี้ พ่อของตนเคยบอกช่างว่า ถ้ายังไม่ทำ ก็ให้เอาอะไหล่มาคืน เดี๋ยวจะเอาไปซ่อมอู่อื่น ช่างก็ยังยืนยันว่าจะว่าจะซ่อมเอง อ้างว่ายังหาช่างมาช่วยทำไม่ได้ ซึ่งพ่อตนก็ยังเกรงใจเขาอยู่ 

 

             นาย รุ่งทิวา กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 66 ตนเลยลองแวะเข้าไปดูรถที่อู่ ภาพที่เห็นทำให้ตนตกใจมาก เนื่องจาก สภาพรถตอนนี้มันยับเยินมาก เหลือแต่ซาก สีกร่อนหมด อะไหล่ถูกถอดหายไป ตนก็ไม่เข้าใจว่าตอนแรกแค่หลังคาผุ ทำไมถึงถอดอะไหล่ออกหมด ขณะที่วันนั้นตนไม่ได้เจอตัวช่าง เจอแต่แม่ของช่าง เลยถามเขาว่า รถตนเมื่อไหร่จะทำ แม่ช่างเขาตอบกลับมาว่า "ไม่รู้สิ ไม่ใช่ช่าง" หลังจากนั้นเลยนำเรื่องราวไปเล่าให้เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 5.2 เพราะตนคิดว่า ถ้าไม่ออกสื่อ รถของตน 10 ปี ก็ยังไม่เสร็จ ซึ่งพอหลังจากเป็นข่าว ทางช่างก็มาโวยวาย ขู่จะแจ้งจับตน อีกทั้งยังบอกว่าจะทำรถต่อให้ แต่ขอเงินเพิ่ม 15,000 บาท และยังขอมัดจำอีก 5,000 บาท แต่ประเด็นที่ตนเป็นห่วง คือพวกอะไหล่ช่วงล่าง หลาย ๆ อย่าง มันเสื่อมสภาพหมดแล้ว แม้ช่างจะทำสีมาใหม่หมด แต่ใครจะรับผิดชอบตรงส่วนนี้ 

 

"ตอนแรกที่เอาเข้าไป เครื่องดี แอร์เย็น เพลงเพราะ แต่ตอนนี้ แม้กระทั่งวิทยุยังไม่มีให้เห็น" นาย รุ่งทิวา กล่าว  

 

 

             นอกจากนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะต่อภาษีรถได้หรือเปล่า และเล่มทะเบียนก็อยู่ที่ช่างด้วย เขาเคยมาขอจากพ่อตนไป อ้างจะเอาไปต่อให้ ไม่รู้ว่าได้ต่อหรือไม่ สิ่งที่อยากได้ที่สุด คือ อยากได้รถคืน เนื่องจากรถคันดังกล่าว เป็นรถที่มีความผูกพันธ์กับพ่อมาตั้งแต่ตนยังเป็นเด็ก 

 

 

             ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า แนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกข้อหาคือ ข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากเขาขอเงินไปซื้อของมาทำรถ แต่ก็ไม่ได้ทำ ทั้งนี้ ตนอยากให้ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รีบเข้าไปตรวจสอบ อู่ดังกล่าว เผื่อมีการเอาเล่มไปขาย แล้วนำสวมกับซากรถ 

 

 

             ฟาก ภูมินทร์ เล็กมณี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเฝ้าระวังและพิสูจน์สินค้าและบริการ สคบ. กล่าวว่า เคสนี้ เข้าข่ายคดีแพ่งด้วย แนะนำให้มาร้องเรียนกับทาง สคบ. เนื่องจากผิดสัญญาจ้างทำของ  ซึ่งทาง สคบ. จะช่วยเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ย ถ้าเจรจาแล้ว ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะส่งเรื่องเพื่อดำเนินคดี อีกหนึ่งประเด็นคือ ในกรณีที่ไม่สามารถนำรถให้กลับมาสู่สภาพเดิมได้ ดังนั้นต้องเรียกค่าเสีย ทาง สคบ. จะเป็นคนฟ้องร้องคดี เรียกร้องค่าเสียหายแทนให้ด้วย 

 

             ขณะเดียวกัน สคบ. มีประกาศการคุมธุรกิจการซ่อมรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่ง ผู้ประกอบธุรกิจซ่อมรถยนต์ จะต้องมีหลักฐานการรับเงิน ระบุในรายละเอียดทั้งหมด ชื่อรุ่นรถ ยี่ห้อ ซ่อมอะไรบ้าง กำหนดส่งวันไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ถ้าไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษปรับด้วย 

 

 

             ด้าน ต่าย เจ้าของอู่ซ่อมรถ เผยว่า รถคันดังกล่าวเอามาซ่อมที่อู่ตนไม่เกิน 7 ปี แต่ตนจำไม่ได้ว่ากี่ปี เพราะมันนานแล้ว ที่ทิ้งไว้นาน เพราะงานตนเยอะ ส่วนเงินที่เขาจ่ายมา ก็ยังไม่ถึงหมื่น แต่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้จดไว้ ซึ่งตนรู้จักกับพ่อของนายรุ่งทิวา ได้คุยกับพ่อเขาแล้ว อยู่กันแบบพากันเลยไม่ได้จดไว้ ส่วนที่เห็นว่าตนถอดอะไหล่ออกมาเผื่อเก็บปะผุตามซอกตามมุมต่าง ๆ นอกจากหลังคาที่คุยกันไว้ตอนแรก ตนไม่ได้เอารถเขาไปชำแหละ ต่อจากนั้นก็จะขัดสนิมเพื่อพ่นสีพื้น ซึ่งทิ้งไว้นานจนรถมันเป็นสนิม ขณะเดียวกัน ตนยินดีจะซ่อมรถให้เสร็จภายใน 2 เดือน นอกจากนี้ เล่มทะเบียนก็อยู่ที่พ่อของ นายรุ่งทิวา