logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

คืบหน้า ! ตำรวจเตรียมเรียก มาเฟียอินเดีย สอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหา จ.กระบี่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ความคืบหน้าเหตุชายเจ้าของร้านอาหารชาวอินเดีย ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ยกพวกไปทำร้าย ลูกชายเจ้าของร้านอาหารอินเดียอีกร้านจนบาดเจ็ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

189 ครั้ง
|
05 ม.ค. 2566
ความคืบหน้าเหตุชายเจ้าของร้านอาหารชาวอินเดีย ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ยกพวกไปทำร้าย ลูกชายเจ้าของร้านอาหารอินเดียอีกร้านจนบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาทางแม่ของผู้บาดเจ็บได้ร้องว่า ตำรวจไม่ยอมดำเนินคดี
 
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณเที่ยงวัน ที่หน้าร้านอาหารอินเดียชื่อ “Royal Rasoi” ตั้งอยู่เลขที่ 273 หมู่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เป็นคลิปเหตุการณ์ที่นายวิเรนท์ ติวารี อายุ 25 ปี ลูกชายของเจ้าของร้าน ถูกชายชาวอินเดีย ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่อยู่ใกล้กัน พาพวกมารุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ 
 
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวพบกับนางสนธยา ติวารี อายุ 49 ปี แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขณะที่ลูกชายของตนกำลังยืนรับลูกค้าอยู่หน้าร้าน แล้วเห็นชายชาวอินเดีย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารใกล้กัน เดินเข้ามาหาเรื่อง แล้วชี้หน้าบอกลูกชายตนว่า “มึงอย่ายุ่งกับลูกน้องกูนะ กูอยู่นี่มา 24 ปี เดี๋ยวกูฝังมึงตรงนี้เลย” แล้วก็เข้ามาชกต่อยเข้าที่หน้าลูกชาย จนเกิดกรชุลมุนก่อนจะแยกกันรอบแรก ลูกชายก็ตะโกนถามไปว่ามาทุบตีผมเพื่ออะไร สักพักก็มีผู้หญิงชาวไทยคนหนึ่งเดินลงมา ตะโกนบอกลูกชายตนว่า “ถ้ามึงไม่อยากตาย มึงออกจากที่นี่ไปซะ” พอลูกตนถามว่าเขาทำอะไรผิด ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ตะโกนบอกกลุ่มผู้ชายที่คาดว่าเป็นลูกน้อง ให้เข้ามารุมทำร้ายลูกชายตนทันที โดยรุมตีกันจนลูกชายตนหัวแตกแล้ว โชคดีบรรดาวินรถจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็มาช่วยกันแยก ตนจึงพาลูกไปแจ้งความ และพาไปทำแผลที่ รพ.กระบี่ เย็บไปกว่า 10 เข็ม ที่ปากถูกเย็บไป 3-4 เข็ม
 
นางสนธยา เล่าต่อว่า หลังจากแจ้งความไปตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ทางตำรวจยังไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด และพยายามติดต่อมาที่ฝ่ายตนให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายที่มารุมทำร้ายลูกชายตน   ซึ่งตนเองกับลูกไม่ต้องการไกล่เกลี่ย แต่อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงเกรงว่าตำรวจจะให้การช่วยเหลือฝ่ายผู้ก่อเหตุ โดยไม่ดำเนินคดีให้ เพราะชายคนที่ก่อเหตุก็ยังมาพูดขู่ว่า “มึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก” เขาอ้างว่ารู้จักตำรวจใหญ่ ๆ โต ๆ
 
ส่วนปมเหตุนั้น เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาการแย่งลูกค้ากัน ร้านที่ตนอยู่ตอนนี้ เพิ่งมาเช่าช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเปิดร้าน โดยก่อนหน้านี้ทราบว่าชายคนดังกล่าว เคยเช่าตรงนี้ทำมาก่อน แต่เจ้าของที่ไม่ให้ต่อสัญญาเช่า พอเห็นตนกับครอบครัวมาเช่าเปิดร้าน อาจจะเป็นชนวนทำให้ไม่พอใจก็เป็นได้
 
ล่าสุด เมื่อเช้านี้ (5 ม.ค.) พ.ต.ท. สมพร ทิพย์อาภากุล รองผู้กำกับสืบสวน สภ.อ่าวนาง เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวนั้นทางตำรวจไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่เนื่องจากเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งเป็นคดีอาญา ที่สามารถยอมความกันได้ จึงได้ให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากันก่อน แต่ในเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยอมก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เบื้องต้นนั้นทางพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำฝ่ายผู้บาดเจ็บเสร็จไปแล้ว ขณะนี้รอใบรับรองจากแพทย์ถึงอาการบาดเจ็บ และหลังจากนี้ ก็จะเรียกผู้ต้องหาที่ถูกระบุชื่อมาสอบปากคำ รวมทั้งไปเอาหลักฐานเพิ่มเติมคือภาพกล้องวงจรปิดว่าในวันเกิดเหตุ มีใครที่ร่วมในเหตุการณ์บ้าง ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ส่วนข้อกล่าวหาในเบื้องต้นคือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และหากพบว่าบาดเจ็บสาหัส ก็จะแจ้งเพิ่มได้อีก
 
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อพบกับนายอเจย์ คูมา (Ajay Kumar) อายุ 52 ปี ชาวอินเดียผู้ที่ก่อเหตุอยู่ในคลิป  เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ก่อนวันเกิดเหตุ ลูกชายของร้านข้าง ๆ คือคนเจ็บ มาหาเรื่องลูกน้องที่ร้านตนก่อน เพราะไม่พอใจที่เรียกลูกค้าไม่ได้ มาตบลูกน้องตน ตนก็ไปบอกกับพ่อของคนเจ็บ ให้ช่วยอบรมสั่งสอน เพราะชอบมาพูดจาไม่ดีกับลูกน้องตน กระทั่งวันที่เกิดเหตุ ตนเข้าไปคุยด้วยเรื่องไปหาเรื่องลูกน้องตน แต่คนเจ็บกลับพูดว่าจะทำอะไรเขาได้ เขาบอกเขาโตที่นี่จะทำอะไรเขาได้ ตนบอกให้พูดใหม่อีกครั้ง เขาก็พูดอีก ด้วยความโมโหตนจึงเข้าไปทำร้ายทันที
 
นายอเจย์ กล่าวอีกว่า ก่อนนี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน มีบ้างที่กระทบกระทั่งกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องแย่งลูกค้ากัน กระทั่งมาเกิดเหตุตามภาพ แต่ตนเองอยู่ที่นี่มา 24 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร เพราะทำแต่ธุรกิจอย่างเดียว เปิดร้านไว้หลายร้าน ที่มีการกล่าวหาว่าตนเป็นมาเฟีย ตนก็ยืนยันว่าไม่จริง เพราะไม่เคยไปรีดไถเงินอะไรจากใคร ตนมีแต่ช่วยสังคม ช่วยคนในพื้นที่มาโดยตลอด วันเกิดเหตุตัวตนเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ต้องเย็บที่ศีรษะ 3 เข็ม ส่วนเรื่องคดีตอนนี้รอทางตำรวจติดต่อมา ก็พร้อมไปพบตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/gdWN4O79Lks

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง