เจ้าของบ้านสุดจะทน เจอผู้เช่าแสบ ค้างค่าเช่าบ้านบานตะไท อ้างหมุนเงินไม่ทัน จึงขอให้ย้ายออก แต่กลับไม่ยอมออก ขู่จะฟ้องก็ไม่สน บอก "ออกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น !”
วันที่ 6 ม.ค. 66 เอ (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน ออกมาเล่าว่า เมื่อเดือน ก.พ. 62 ตนโพสต์ประกาศหาคนมาเช่าบ้าน แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาติดต่อ จึงตกลงทำสัญญาเช่าบ้านกัน ช่วงปีแรก เขาค้างค่าเช่าประมาณ 4 เดือน มีการจ่ายช้าบ้าง แต่ตนเห็นใจ เลยหยวน ๆ ให้ ต่อมาปี 63 ต่อสัญญาอีกครั้ง ปีนี้แม้จะจ่ายช้า แต่เขาก็จ่ายเงินครบทุกเดือน ในส่วนหนี้ที่ค้างปี 62 ก็ยังไม่ได้จ่าย ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร ยังรอได้ เพราะเขาจ่ายเดือนปัจจุบันครบ
มาปี 64 ได้ต่อสัญญาเช่ากันอีกครั้ง แต่ปีนี้เขาเริ่มค้างค่าเช่าเยอะขึ้น ตลอดทั้งปี อ้างว่าหมุนเงินไม่ทัน ซึ่งเมื่อถึงวันครบสัญญา ตอนเดือน ก.พ. 65 ตนจึงเข้าไปบอกว่า ให้ลองหาบ้านเช่าที่ใหม่ ที่ราคาถูกกว่านี้ไหม เนื่องจากตนเห็นว่าเขาดูมีปัญหาด้านการเงิน ซึ่งฝั่งผู้เช่าขอโอกาสอยู่ต่อ โดยอ้างว่ากำลังหาบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้ที่ถูกใจ ตนจึงให้เขาอยู่ระหว่างหาบ้านใหม่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ไป อยู่ต่อโดยที่สัญญาก็หมดไปแล้ว ตนเคยโทรศัพท์ไปถามคู่กรณีว่าเมื่อไรจะย้ายออก แต่ตัวพ่อเขาตะโกนกลับมาว่า "เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ" ทั้งนี้ ยืนยันได้ว่าตนไม่เคยไปข่มขู่คุกคามอะไรคู่กรณีเลย
เดือน ก.ค. 65 ตนให้ทนายทำหนังสือแจ้งเตือนคู่กรณี ให้ย้ายออก เนื่องจากหมดสัญญาแล้ว แต่เมื่อคู่กรณีเห็นหนังสือแจ้งเตือน กลับคิดว่า ตนกำลังจะดำเนินการฟ้องร้อง เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็จะไม่รีบหาบ้านใหม่แล้ว เพราะถ้าถูกฟ้องก็ไม่มีอะไรจะเสีย ทำให้เขาไม่ย้ายออก ขณะเดียวกัน เดือน ก.ย. 65 ตนไปแจ้งความ ตำรวจจึงได้ช่วยเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย แต่เขาก็ปฏิเสธ อีกทั้งยังขู่อีกว่า ถ้าตนเข้าไปในบ้านหลังนั้น เขาจะฟ้องข้อหาบุกรุก สำหรับเงินค่าเช่าที่ค้างจ่ายนั้น ทั้งหมดประมาณ 1 ปี โดยบางเดือนก็ไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ รวมแล้วอยู่ที่ 104,500 บาท
ด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความฯ ให้ความเห็นว่า เมื่อมีการทำสัญญาเช่ากัน เมื่อผู้เช่าผิดนัด ผู้ให้เช่า มีสิทธิ์ไปปิดกั้นล็อกกุญแจได้ แต่การที่จะเข้าไปล็อกประตู ต้องไม่มีคนอยู่ในบ้าน เพราะมันจะเป็นการกักขังเสรีภาพ ถึงจะไม่ถือเป็นการบุกรุก แต่ต้องมีเงื่อนไขไว้ในสัญญาเช่า ถ้าไม่มีเงื่อนไขในสัญญา อันนั้นก็ผิด
และการที่ตัวผู้เสียหายได้ดำเนินการฟ้องร้องนั้นถูกต้องแล้ว แต่การดำเนินการฟ้องร้องใช้เวลานาน แนะนำให้ร้องขอต่อศาล ให้ "คุ้มครองชั่วคราว" โดยจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่ถ้าศาลสั่งพิพากษาแล้ว เขายังไม่ออกอีก ให้ไปร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ให้เขามายึดทรัพย์สินออกไปได้
สุดท้าย ตนอยากฝากบอกประชาชนว่า เรื่องทะเบียนบ้าน ตนคิดว่า ผู้ให้เช่าไม่ควรเอาชื่อผู้เช่ามาใส่ในทะเบียนบ้าน และที่สำคัญ ไม่ควรจะใจดีกับผู้เช่ามาก ถ้าผิดสัญญาสัก 3 เดือน ควรจะยกเลิกสัญญาได้แล้ว
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35