มิจฉาชีพ คิดวิธีการหลอกอันซับซ้อนหลายชั้น จนเหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณ อีกทั้งยังหลอกให้เหยื่อเซ็นชื่อรับสภาพหนี้อีก 4 ล้านบาท
ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจากทนายเจมส์ นิติธร แก้วโตว่า มีหญิงสาวชื่อคุณเอ ขอความช่วยเหลือกรณีคุณแม่เป็นข้าราชการครูเกษียณอายุราชการ อายุ 68 ปี ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดนหลอกเงินไปเกือบ 4 แสนบาท แถมมิจฉาชีพยัดเยียดให้เป็นหนี้อีก 4 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่ จะเป็นข้าราชการที่เกษียณอายุราชการแล้ว
สำหรับกรณีแม่ของคุณเอ จุดเริ่มต้น คือเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านี้ มีเพื่อนของคุณแม่ แนะนำให้รู้จักนายหมอง อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าด้วยโซล่าเซลขายให้รัฐบาล ที่มีการชักชวนคุณแม่ไปเป็นพนักงานบริษัท ตำแหน่งช่างสำรวจพื้นที่ เสนอเงินเดือนให้ 1 หมื่น 5 พันบาท แต่ 6 เดือนที่ผ่านมา คุณแม่ไม่ได้รับเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว แถมยังโดนหลอกให้เอาเงินเก็บที่มี ไปร่วมลงทุนซื้อที่ดิน โดยนายหมองอ้างว่า จะต้องใช้เงินก้อนกว้านซื้อที่ดิน สปก. 4-01 ของชาวบ้าน เพื่อรวมเป็นแปลงใหญ่ โดยจะซื้อจากชาวบ้านราคาถูก เพื่อไปขายให้รัฐบาลในราคาที่สูง และจะแบ่งกำไรส่วนต่างให้
จากนั้นจะเอาเงินบางส่วนไปเช่าที่ คือ ที่ดินแปลงเดิมที่ขายให้รัฐบาล เพื่อเอาพื้นที่นั้นมาผลิตไฟฟ้าด้วยโซล่าเซล และส่งไฟฟ้าขายให้รัฐบาล ซึ่งนายหมอง อ้างว่า แม่ของคุณเอ จะได้เงินส่วนแบ่งนี้ด้วย แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยมีการซื้อที่จริง และไม่เคยมีการผลิตไฟฟ้าใด ๆ ที่สำคัญที่ดิน สปก. 4-01 ไม่สามารถซื้อขายได้
ตลอดระยะเวลา นายหมองจะพาลงพื้นที่ เสมือนทุกอย่างมีอยู่จริง โดยอ้างว่าที่ดินที่จะซื้อ ห่างไกลทุรกันดาร ก่อนสั่งให้คุณแม่ซื้อรถกระบะ ด้วยการโอนมัดจำบวกกับค่าประกันภัยชั้น 1 คันละ 30,000 บาท โดยรถที่ซื้อ จะเป็นนามบริษัทนายหมอง และเมื่อครบ 5 ปี จะโอนเป็นชื่อคุณแม่
แต่เมื่อไปตรวจสอบบริษัท ปรากฏว่า บริษัทนี้ไม่มีการจดจัดตั้งบริษัทกับกรมพัฒนาธุกิจการค้า และเมื่อสอบถามเซลล์โชว์รูมรถ พื้นที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ปรากฏว่าเซลล์คนดังกล่าว ลาออกไปประกอบธุรกิจของตัวเองเกือบ 2 ปีแล้ว ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการจอง และใบดังกล่าวเป็นแค่ใบเสนอราคา ไม่ใช่ใบจองรถ ซึ่งเซลล์คนนี้บอกว่า มีคนตกเป็นเหยื่อหลายราย และได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ชัยบาดาล คุณเอ ยังให้เราดูหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินจากบัญชีคุณแม่ เข้าบัญชีนายหมอง หลักหมื่น จนถึงหลักแสนบาท
ซึ่งการหลอกลวงยังไม่จบ เพราะนายหมองอ้างว่า คุณแม่เป็นหนี้เบี้ยหัวแตก หนี้สหกรณ์ หนี้ธนาคาร หนี้รถ ฉะนั้นจะรวมหนี้ และจ่ายหนี้ให้ก่อน เป็นวงเงิน 4 ล้านบาท สุดท้ายคุณแม่ไปเซ็นยอมรับสภาพหนี้ว่า รับเงินสดจากนายหมอง 4 ล้านบาท ทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ได้รับเงินสักบาท
ตอนนี้คุณเอร้อนใจมาก เพราะแม่หลงเชื่อนายหมอง ลูกเตือนก็ไม่เชื่อ แถมตีตัวออกห่าง ไม่รับโทรศัพท์ ปกปิดความจริง จึงเป็นห่วงว่า แม่จะสูญเงินมากกว่านี้ เนื่องจากลูก 3 คน มาทำงานกรุงเทพ คุณแม่อยู่บ้านที่สิงบุรีเพียงลำพัง ส่วนนายหมองอยู่ที่ลพบุรี แต่ก็จะเรียกแม่ไปประชุมเดือนละ 3-4 ครั้ง เธอยังกังวลว่าจะมีคนอื่นตกเป็นเหยื่ออีก จึงเอาเรื่องนี้มาร้องสื่อ
ทนายเจมส์ยังยังฝากมาถึงประชาชนว่า ใครพบเจอพฤติกรรมแบบนี้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่ทนายเจมส์เพื่อรวบรวมผู้เสียหายดำเนินคดี ตอนนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ลพบุรี สระบุรี
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35