แม่ร้อง จยย. ลูกชายหาย ภาพชัด หน้ามี แต่คดีเงียบ สุดอึ้ง ตร. บอก “พาโจรมาหาผม”

สาวช็อก ลูกชายทำ จยย. หาย เลยไปแจ้งความ สุดงง ตร. บอกให้ไปพาคนร้ายมา ถึงจะรับแจ้งความ สุดท้าย ต้องพึ่งตัวเอง ซุ่มแอบถ่ายคนร้าย นำภาพไปหา ตร. อีกครั้ง ช้ำหนัก ตร.บอก จะแจ้งความรู้ชื่อเขาหรอ !?

 

 

             วันที่ 28 ธ.ค. 65 จิตปะพัทธ์  สิริภากุลธาดา (ปาน) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 ลูกชายเอารถไปจอดที่หน้าหอพัก แล้วลืมเอากุญแจออกจากรถ พอกลับมาดูรถก็หายไปแล้ว จากนั้นตนเลยไปแจ้งความที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่คดีก็ไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ต่อมาวันที่ 15 ธ.ค. 65 ลูกชายมาเล่าให้ฟัง ว่าเจอตัวผู้ก่อเหตุที่ปั๊มน้ำมัน ตนเลยเข้าไปเอาคลิป กล้องวงจรปิดที่ปั๊ม จากนั้นก็ส่งให้ตำรวจต้นเรื่อง ที่ สภ.อุทัย แต่เขาให้ตนส่งเรื่องไปต่อที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากมันเป็นเขตพื้นที่ของที่นี่ 

 

             พอตนโทรติดต่อไป ตำรวจ เขาก็ไม่ออกหมายจับให้ แจ้งว่า "ไปตามคนร้ายมาแจ้งความกับผมที่โรงพัก พร้อมกับใบแจ้งความของ สภ.อุทัย แล้วผมจะเขียนบันทึกการจับกุมให้" พอได้ยินแบบนั้น ตนก็ตัดสายเลย เพราะคิดว่าคงพึ่งตำรวจไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่คำตอบที่ตนอยากได้ 

 

 

             หลังจากนั้น ตนเลยโทรไปขอความช่วยจากตำรวจ สภ.อุทัย ทางนี้เขาก็ส่งสายสืบมาซุ่มอยู่ที่ปั๊ม แต่ว่าตำรวจมาซุ่มด้วยชุดเต็มยศ เลยเป็นข้อสงสัยของตนว่าทำไมมาชุดเต็มยศ เพราะถ้าคนร้ายเขารู้ว่าเป็นตำรวจเขาก็คงไม่เข้ามา ทั้งนี้เด็กปั๊มให้ข้อมูลมาว่า คนร้ายจะมาที่ปั๊มเป็นประจำทุกวัน ประมาณ 16.00 น. - 17.00 น. ทว่าระหว่างตำรวจซุ่มดูอยู่นั้น เขาก็ขอถอนกำลัง เนื่องจากติดภารกิจอื่น ตนลยต้องไปซุ่มดูเอง 3 วันติด พร้อมทั้งพกเคเบิ้ลไทร์ติดไปด้วย หวังว่าจะเอาไว้จับรวบคนร้ายด้วยตัวเอง แต่คนร้ายก็เงียบหายไป ไม่มาเติมน้ำมัน 

 

             กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค. 65 ตนมาเจอคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ มาเติมลมยางที่ปั๊ม โดยมากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ตนเลยทำทีเข้าไปแอบถ่ายภาพเขาไว้ ไม่ให้เขารู้ตัว แต่เหมือนผู้หญิงจะสะกิดตัวผู้ก่อเหตุ ว่าถูกแอบถ่าย เขาเลยขับรถออกไป ตนเองก็ไม่มีรถ ไม่รู้จะทำยังไง เลยขอให้ไรเดอร์แถวนั้นช่วย ตนก็นั่งซ้อนท้ายไปกับไรเดอร์ตามคนร้ายเอง ตามอยู่สักพักหนึ่ง คนร้ายก็ฉีกหนีไป ซึ่งในระหว่างนี้ ตนได้โทรหา 191 ให้มาช่วยติดตามคนร้าย แต่ทางตำรวจเขาก็ซักไซ้ เอาแต่ถามนู้นถามนี่ ตนเลยปล่อย เพราะตามผู้ก่อเหตุไม่ทันแล้ว หลังจากนั้นตนเลยนำรูปที่ถ่ายมา ไปแจ้งความที่ สภ.อุทัยอีกครั้ง ซึ่งเขาตอบกลับว่า ไม่สามารถออกหมายจับได้ เพราะไม่รู้ชื่อที่อยู่ของคนร้าย 

 

  

 

             อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในกระบวนการของสื่อ เพราะหลังจากเป็นข่าวไป เพราะหลังจากเป็นข่าวไป ก็มีสายติดต่อเข้ามา ว่ากำลังตามเรื่องให้ เรื่องของตนถึงได้คืบหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขามองไม่เห็นเรา อีกทั้งยังมีสายจากบุคคลปริศนา อ้างว่าเป็นผู้การ บอกตนว่า อย่าไปออกสื่อเยอะ เพราะมันจะส่งผล ทำให้การจับกุมยุ่งยาก

 

 

             ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า จริง ๆ แล้วแม้จะไม่รู้ชื่อ ที่อยู่ของคนร้าย ก็สามารถออกหมายจับได้ แค่รูปพรรณสัณฐาน รูปร่างหน้าตา ลักษณะ ส่วนสูง หน้าตาเป็นยังไง ก็ออกหมายจับได้แล้ว ถ้าตำรวจคนไหนบอกออกหมายจับไม่ได้ แนะนำว่าให้ย้ายโรงพักดีกว่า ตนได้ยินแบบนี้แล้วตนอายแทน เพราะต้องถึงขนาดให้ชาวบ้านไปจับตัวคนร้ายเอง ทำไมถึงผลักภาระให้ชาวบ้านเดือดร้อน 

 

             ฟาก พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.อุทัย เผยว่า คดีนี้ ตนได้รับรายงานว่า วันที่ 14 ธ.ค. 65 เวลา 01.00 น. เกิดเหตุรถหาย ผู้เสียหายมาแจ้งความตอน 12.00 น. ทางพนักงานสอบสวน ก็สืบทราบจนตอนนี้รู้ตัวคนร้ายแล้ว ตอนนี้กำลังยื่นคำร้องต่อศาล ขอออกหมายจับ ขอยืนยันว่าคดีนี้น่าจะได้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ นี้