หนุ่มวิน จยย. สุดช็อก ตร.ล็อกจับข้อหา ‘ค้ามนุษย์’ ยันถ้าเป็น ‘แพะ’ ขอตายดีกว่า !

หนุ่มร้องสื่อ หลังตกเป็นแพะ "คดีค้ามนุษย์" สำนวนระบุ เป็นคนขับรถตู้รับส่ง แก๊งค้ามนุษย์ จ .ตราด แต่ความจริง ขับรถตู้ก็ไม่เป็น วันเกิดเหตุก็อยู่อัมพวา ! 

 

 

            วันที่ 23 ธ.ค. 65 พยุง มงคล (บอล) ผู้ที่อ้างว่าเป็นแพะข้อหาค้ามนุษย์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา เล่าว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 ตนถูกตำรวจรวบตัว และอ่านหมายจับให้ตนดู ปรากฎว่าเป็นคดีค้ามนุษย์ เมื่อรู้แบบนั้นตนก็อึ้ง โดยในสำนวนระบุว่า ตนขับรถตู้ รับส่งแก๊งค้ามนุษย์ จาก จ.ตราด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64 ซึ่งในชีวิตที่เกิดมา ตนไม่เคยไป จ.ตราด เลย อีกทั้งตนยังขับรถตู้ไม่เป็นอีกด้วย นอกจากนี้ ในสำนวน ระบุอีกว่า ตนถูกซัดทอดมาจากผู้เสียหาย นั่นคือ น.ส.ปานตะวัน ซึ่งเป็นคนที่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขาให้การซัดทอด บอกว่าได้โทรศัพท์ไปหมายเลขหนึ่ง แล้วเบอร์ดังกล่าว เป็นชื่อของตนเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ ตนไม่เคยรู้จัก น.ส.ปานตะวัน มาก่อน ขณะที่เบอร์ดังกล่าว ตนก็จำไม่ได้ว่าเป็นเบอร์ของตนหรือไม่ แต่ในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 จนถึงปัจจุบัน ตนใช้เบอร์ปัจจุบันอยู่ 

 

            ขณะเดียวกัน ช่วงต้นปี 65 ตนเคยนำข้อมูลบัตรประชาชน ไปกู้เงิน ในแอปฯ เถื่อน แอปหนึ่ง จำนวน 50,000 บาท ซึ่งมีลักษณะคล้ายมิจฉาชีพ ให้ตนส่งรูปบัตรประชาชน และรูปถ่ายตัวเองไป แต่ให้ตนโอนเงินไป 5,000 บาท  ก่อนถึง จะได้เงิน 50,000 ซึ่งอาจจะเป็นช่องโหว่ในการที่ข้อมูลส่วนตัวหลุดออกไป 

 

 

            ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานว่าวันที่ 1 พ.ย. 64 วันเกิดเหตุลักลอบค้ามนุษย์ ตนไม่ได้ไปอย่างที่ในสำนวนบอก ตนมีภาพถ่าย ณ วันนั้น ซึ่งตนเดินทางพาภรรยาไปซื้อของที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

 

 

            ตอนตนถูกจับครั้งแรก ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เกิดอาการน้อยใจว่าเหตุการณ์ที่ตนไม่ได้ทำ ทำไมถึงโดนแบบนี้ วินาทีนั้น ตนคิดว่า ถ้าเหตุการณ์มันเลวร้ายขึ้น จะตัดสินใจ จบชีวิตตัวเองในคุกเลย แต่ทว่า ตนเพิ่งประกันตัวออกมาในวงเงินประกัน 30,000 บาท แต่ต้องติดกำไลอีเอ็ม ซึ่งทำให้ตนไม่สามารถใส่กางเกงขาสั้นได้ เพราะถ้าคนเห็นเขาก็จะตัดสิน มองตนเป็นคนไม่ดี

 

 

             ด้าน จันทร์เพ็ญ ใสดี (เพ็ญ) ภรรยาของผู้เสียหาย เล่าว่า คร่าว ๆ เราเห็นแค่ข้อมูลในสำนวน ยังไม่เห็นหลักฐานอื่น ๆ เลย ซึ่งในเหตุการณ์จับกุม ตำรวจเขายังบอกอีกว่า อาจจะมีการชี้ตัวผิด แต่เขาต้องทำไปตามขั้นตอน ที่ตนต้องถ่ายคลิป เพื่อปกป้องตัวเอง เพราะอาจจะเป็นมิจฉาชีพมาสวมรอย และในเมื่อสามีตนโดนจับไปแล้ว ตนก็ต้องร้องเรียนให้สื่อช่วย เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพราะตนไม่มีเงิน ไม่มีช่องทางไหนที่จะช่วยได้ เลยโพสต์คลิป หาคนช่วยเหลือ

 

"เราอยู่สองคนผัวเมีย แล้วผัวโดนจับ ถ้าเราไม่ช่วย แล้วใครจะช่วย" จันทร์เพ็ญ กล่าว 

 

             ตนอัดอั้นตันใจ ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับครอบครัวตน เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้ทำ เราไม่เคยไป ณ จุดนั้น สามีตนขับวินตั้งแต่ตี 4-5 บ่ายโมงก็พากันไปเช่าแผงขายของ กว่าจะกลับบ้านก็ 2 ทุ่ม เราใช้ชีวิตกันแต่แบบนี้ 

 

             ฟาก พ.ต.อ.พิสิษฐ์  ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. กล่าวว่า ตนเป็นผู้จับตามหมายจับ ขณะที่พยานหลักฐานต่าง ๆ พนักงานสอบสวน สภ.หนองบอน จ.ตราด เป็นคนรวบรวม ซึ่งตามหมายจับ ผู้เสียหายที่ถูกพาไปค้ามนุษย์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขาเป็นคนซัดทอดมา ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนของกฎหมาย 

 

              อย่างไรก็ตาม นาย พยุง มงคล อาจจะผู้บริสุทธิ์ก็ได้ หรือผู้ไม่บริสุทธิ์ก็ได้ ก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนก่อน ถ้าเราเป็นผู้บริสุทธิ์เราก็ไปให้การปฏิเสธ กับพนักงานสอบสวน ขึ้นศาลก็เอาหลักฐานต่าง ๆ ไปหักล้าง ถ้าเดินตามแนวทางแบบนี้ มันจะดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ถ้ามาออกสื่อแบบนี้ ประชาชนหลายคนก็จะมองว่าตำรวจรังแกประชาชน 

 

 

            ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คดีนี้ เราต้องไปดูที่สำนวนตำรวจ ว่า นาย พยุง มงคล เขาไปเกี่ยวข้องในประเด็นไหน ของการค้ามนุษย์ เพราะมันมีส่วนที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ดังนั้นต้องเข้ากระบวนการตามกฎหมายถูกต้องแล้ว ส่วนตัวตนเชื่อว่า ศาลจะพิจารณาว่าผู้เสียหาย เป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ ตนแนะนำให้ไปพบยุติธรรมประจำจังหวัด เขาจะช่วยดูแลในเรื่องคดีให้ และถ้าคิดว่าตนเองเป็นแพะ ให้ยื่นเรื่องไปขอใช้กองทุนยุติธรรม เขาจะช่วยเรื่องของการค้ำประกัน แทนการประกันตัว ทั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้วถ้าเราไม่ได้เป็นผู้ผิดจริง แต่เราติดคุกติดตารางไปแล้ว ให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืน 

 

"หากเป็นคดีความ คิดอะไรไม่ออก นึกถึงกระทรวงยุติธรรม" ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าว

 

            ส่วน การมาร้องสื่อ ตนมองว่า ไม่ได้ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย ต้องถือว่าเป็นการถ่วงดุลกับกระบวนการตรวจสอบ จริง ๆ แล้วภาครัฐก็ควรจะตื่นตัว เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย