ผบ.ทร.สั่งระดมเรือรบ-เฮลิคอปเตอร์ออกปฏิบัติการช่วยเหลือกำลังพล “เรือหลวงสุโขทัย” ถูกคลื่นแรงซัดน้ำทะลักท่วมเครื่องยนต์ดับ ปล่อยลอยกลางทะเลอ่าวไทย ก่อนอับปางลงใต้น้ำในระดับความลึก 40 เมตร ห่างฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังพากำลังพล 106 นาย ออกจากฐานทัพเรือสัตหีบไปร่วมพิธีเทิดพระเกียรติ “เสด็จเตี่ย”
ล่าสุดช่วยชีวิตลูกเรือได้แล้ว 75 นาย สูญหายอีก 31 นาย ยืนยันยังไม่พบผู้เสียชีวิต “ผบ.ทรภ.1” เดดไลน์ 2 วันต้องหาให้พบทั้งหมด เพราะชุดชูชีพช่วยพยุงตัวได้แค่นั้น เผยอุปสรรคสำคัญทั้งคลื่นสูง ลมแรง น้ำทะเลขุ่น หนึ่งในลูกเรือเล่านาทีระทึก เสื้อชูชีพมีไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนเรือ ต้องอาศัยลอยคอเกาะกันเป็นแพถึงรอดตายหวุดหวิด
กลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของราชนาวีไทย กรณีช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค. เรือหลวงสุโขทัย (442) เรือคอร์เวท สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 นำทหารเรือและเจ้าหน้าที่รวม 106 นาย ออกเดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงานเทิดพระเกียรติ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” องค์พระบิดาของทหารเรือไทย เนื่องในวันครบรอบ 142 ปี วันคล้ายวันประสูติ
จัดขึ้นบริเวณศาลเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร ขณะลอยลำอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ห่างฝั่ง 19 ไมล์ทะเล เขตพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคลื่นสูง 3-4 เมตรซัดเรือจนเอียง น้ำทะลักเข้าเรือ ทำให้เครื่องยนต์ดับ วิทยุสื่อสารใช้การไม่ได้ น.ท.พิชิตชัย เถื่อนดี ผู้บังคับการ ร.ล.สุโขทัย สั่งให้กำลังพลสละเรือลงเรือชูชีพกลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยได้อับปางลงกลางดึกวันเดียวกัน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. นายสุมิตร เผือกผ่อง หัวหน้าแผนกเรือ บริษัทท่าเรือประจวบฯ ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เผยไทม์ไลน์การเกิดเหตุกับ ร.ล.สุโขทัย ว่า เวลา 15.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. รับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.สุโขทัย จะไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.ชุมพร จากนั้นไม่นานได้รับการประสานจาก ร.ล.กระบุรี จะขอเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ เนื่องจากคลื่นลมทะเลรุนแรง คลื่นสูง 3-4 เมตร เวลา 18.00 น. รับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.สุโขทัยว่า เครื่องยนต์มีปัญหา 1 เครื่อง เหลือใช้งานได้ 1 เครื่อง เวลา 19.00 น. รับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.สุโขทัยว่า เครื่องยนต์ทั้งหมดมีปัญหา ควบคุมเรือไม่ได้และพบปัญหาการเอียงของตัวเรือประมาณ 60-70 องศา และ ร.ล.กระบุรีที่กำลังมุ่งหน้าเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ ได้หันหัวเรือกลับออกไปให้การช่วยเหลือ
เวลา 21.20 น. บริษัทท่าเรือประจวบฯจัดส่งเรือทัก (Tug) หรือเรือลากจุง จำนวน 2 ลำ คือ เรือประจวบฯ 4 และเรือประจวบฯ 5 ออกจากท่าเรือประจวบฯ มุ่งหน้าจุดเกิดเหตุ เวลา 22.00 น. ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาถึงท่าเรือประจวบฯ เรียกประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย กว่า 20 ทีม จากทุกอำเภอของ จ.ประจวบฯ เดินทางถึงท่าเรือประจวบฯ เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลืออยู่ที่ท่าเรือ เวลา 23.30 น. ได้รับแจ้งเรือหลวงสุโขทัย จมลงก้นทะเลทั้งลำ ที่ระดับความลึกราว 40 เมตร เขตพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 19 ไมล์ทะเล ส่วนกำลังพลและลูกเรือ 106 นาย ยังไม่ทราบชะตากรรม เวลา 24.00 น. เรือทัก (เรือลากจุง) 2 ลำ ที่ท่าเรือประจวบฯส่งไปช่วยเหลือเดินทางถึงจุดเกิดเหตุและร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือร่วมกับเรือหลวงกระบุรี เรือสินค้าศรีไชยา และเรือเดินทะเลระหว่างประเทศชื่อเรือ Energy ที่เดินทางผ่านบริเวณดังกล่าว
เวลา 04.00 น. ที่บริเวณท่าเรือประจวบฯ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 นายเลิศยศ แย้มพราย นอภ.บางสะพาน นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.รพ.บางสะพาน ทีมแพทย์-พยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย จากทุกหน่วยใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ร.ล.สุโขทัย อับปางกลางทะเล กำลังพลและลูกเรือบนเรือ 106 นายสละเรือในเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนเรือจะอับปางลงเมื่อเวลา 23.30 น. โดยมี ร.ล.กระบุรีและเรือทัก (เรือลากจูง) ประจวบฯ 4, ประจวบฯ 5 และเรือสินค้าศรีไชยา และเรือบรรทุกน้ำมัน Energy เข้าให้การช่วยเหลือลูกเรือที่ลอยคอกลางทะเล ต่อมาเวลา 04.20 น. ร.ล.กระบุรีเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ พร้อมผู้ประสบภัย 48 นาย จำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บหนัก 5 นาย เจ้าหน้าที่เร่งคัดแยกผู้บาดเจ็บส่ง รพ.บางสะพาน ให้การรักษาเร่งด่วน ส่วนผู้ไม่บาดเจ็บ ส่งไปพักผ่อนที่ศูนย์พักคอย
เวลา 06.30 น. ที่ท่าเรือประจวบฯ กองทัพเรือได้ส่ง ร.ล.กระบุรีออกปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลางทะเลอ่าวไทย ร่วมกับ ร.ล.อ่างทอง ภายหลัง ร.ล.กระบุรีลำเลียงผู้ประสบภัยและผู้บาดเจ็บขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีผู้ประสบภัยลอยคออยู่กลางทะเล และต้องค้นหาต่ออีกจำนวนมาก เนื่องจากจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ประสบปัญหาเรื่องสภาพอากาศ คลื่นลมทะเลในจุดที่ ร.ล.สุโขทัย อับปางมีความสูงถึง 4-5 เมตร รวมทั้งความมืดในท้องทะเลที่เป็นอุปสรรคในการค้นหาอย่างมาก ต่อมาเวลา 06.40 น. เรือสินค้าศรีไชยาเข้าเทียบท่าเรือประจวบฯ ลำเลียงผู้ประสบภัยอีกชุด จำนวน 22 นาย ขึ้นฝั่งเพื่อส่งต่อไปตรวจร่างกายและรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.บางสะพาน
เวลา 13.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือถึงท่าเรือประจวบฯ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและผู้ประสบภัยที่ช่วยขึ้นฝั่งใน จ.ประจวบฯ ทั้งสิ้น 73 นาย 1 ในจำนวนนี้มี น.ท.พิชิตชัย เถื่อนดี ผู้บังคับการ ร.ล.สุโขทัย รวมอยู่ด้วย มีผู้บาดเจ็บรักษาตัว รพ.บางสะพาน 15 นาย สาหัส 4 นาย เจ็บเล็กน้อย 11 นาย ส่วนที่เหลืออีก 58 นาย พักดูอาการที่ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จากนั้นจะลำเลียงขึ้นรถบัสกองทัพเรือที่จอดรออยู่จำนวน 3 คัน กลับไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ภายในเย็นวันนี้ คาดว่าน่าจะเดินทางถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ช่วงเที่ยงคืนคืนเดียวกัน
พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. เปิดเผยว่า จากที่ได้รับรายงานขณะเกิดเหตุมีกำลังพลใน ร.ล.สุโขทัย ทั้งสิ้น 106 นาย เป็นลูกเรือ ร.ล.สุโขทัย ร่วมกับกำลังพลของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานชายฝั่ง ล่าสุดช่วงสายวันนี้พบผู้ประสบภัยเพิ่มเติมอีก 1 นาย ร.ล.กระบุรี พบและช่วยเหลือได้สำเร็จ ผู้ประสบภัยสวมเสื้อชูชีพลอยคออยู่ในสภาพหมดสติ อาการปลอดภัยแล้ว รวมช่วยเหลือได้ทั้งสิ้นในขณะนี้ 75 นาย ยังมีผู้สูญหายในทะเลอีก 31 นาย ส่วนกระแสข่าวลือว่าพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่จากเหตุการณ์ ร.ล.สุโขทัยอับปางกลางทะเลนั้น ไม่เป็นความจริง ยืนยันทั้ง 31 นายยังอยู่ในสถานภาพเป็นผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่จะพยายามเร่งค้นหา โดยใช้สรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
“สาเหตุที่เรือสุโขทัยอับปางพบว่า ในช่วงดังกล่าวคลื่นลมมีกำลังแรง น้ำทะลักเข้าเรือในปริมาณมาก ทำให้เรือลอยตัวไม่ได้ เสียการทรงตัวจนเรือเอียง 70-80 องศา น้ำที่เข้าเรือจำนวนมากทำให้เครื่องเรือที่เป็นระบบไฟฟ้าดับ และสุดท้ายส่งผลให้เรือจมในที่สุด ส่วนการกู้ซาก ร.ล.สุโขทัย พบว่าจมน้ำอยู่ในระดับความลึก 40 เมตร การกู้เรือต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์ลอยตัว จะต้องประชุมร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อประเมินสถานการณ์ ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหายเป็นการเร่งด่วนก่อน” ผบ.ทร.กล่าว
พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้บริเวณจุดเกิดเหตุมี ร.ล.อ่างทอง เป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าในการค้นหาผู้ที่ยังลอยคออยู่ในทะเล ปฏิบัติการร่วมกับ ร.ล.กระบุรี และเฮลิคอปเตอร์ “ซีฮอว์ก” กองทัพเรืออีก 3 ลำ และมีเฮลิคอปเตอร์
กองทัพอากาศ เข้ามาช่วยสมทบในการค้นหาด้วย ขณะนี้ยอดผู้ประสบภัยที่ช่วยเหลือมาทั้งหมด 75 นาย มาขึ้นที่ท่าเรือประจวบฯ 73 นาย อาการปลอดภัยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนอีก 2 นายได้รับการช่วยเหลือและเดินทางไปกับเรือบรรทุกน้ำมัน Straist Energy เทียบท่าที่ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เรียบร้อยแล้ว
“การช่วยเหลือในขณะนี้ กองทัพเรือเน้นไปที่คนที่ยังลอยคออยู่กลางทะเล เพื่อนำขึ้นฝั่งมาทั้งหมดให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก จากข้อมูลล่าสุดช่วยเหลือผู้ที่ลอยคออยู่กลางทะเลได้เมื่อช่วงเช้า พบอยู่ห่างจากจุดที่เรืออับปางไปทางทิศใต้ประมาณ 4 ไมล์ทะเล เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ลอยคออยู่ในน้ำแสดงว่ายังห่างไม่มาก อุปสรรคที่สำคัญในการค้นหากำลังพลคือ กระแสลม และคลื่นที่ยังคงมีความรุนแรง และน้ำทะเลมีลักษณะขุ่น ทำให้ยากในการค้นหาช่วยเหลือ จากการประเมินจากเสื้อชูชีพที่สวมใส่ คาดว่าผู้ประสบภัยสามารถลอยคอรอการช่วยเหลืออยู่ในน้ำได้ไม่เกิน 2 วัน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งค้นหาและนำผู้ประสบภัยขึ้นฝั่งให้ได้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด” พล.ร.ท.พิชัยกล่าว
ผู้ประสบภัยรายหนึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอ้างว่า หลังจากมีคำสั่งสละเรือ ตนได้ว่ายอ้อมเรือเข้าหาแพยางขนาดใหญ่ เพื่อลอยคอรอความช่วยเหลือ คนที่ขึ้นบนแพได้มีโอกาสรอดมากกว่า เพราะบนแพมีไฟส่องสัญญาณขอความช่วยเหลือ ที่ชุดชูชีพก็มีระบบไฟส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเช่นกัน แต่มองเห็นยากในทะเลที่คลื่นแรง ตนพยายามจะยื้ออยู่บนเรือจนเกือบเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนเรือจมลง ต้องลอยคออยู่ในน้ำนานกว่า 3 ชั่วโมง ถึงได้รับการช่วยเหลือ ในส่วนที่ยังหาไม่เจอเท่าที่ทราบบางคนไม่มีชูชีพสวมใส่ เนื่องจากกำลังพลบนเรือ 106 นายนั้น ไม่ใช่เฉพาะลูกเรือ ร.ล.สุโขทัย เท่านั้น แต่ยังมีหน่วยงานสังกัดอื่นของกองทัพเรือเข้าร่วมด้วย เป็นเหตุให้ชูชีพไม่พอกับจำนวนคนบนเรือ ขณะเกิดเหตุตนก็ไม่ได้สวมชูชีพ เนื่องจากหยิบไม่ทัน อาศัยเกาะลอยตัวไปกับคนที่มีชูชีพด้วยจนได้รับการช่วยเหลือ เพราะชูชีพตัวหนึ่งสามารถเกาะด้วยกันได้ 4-5 คน
จ.ท.ภัทราวุฒิ มาราม ลูกเรือ ร.ล.สุโขทัย กล่าวว่า ได้รับบาดเจ็บฟกซ้ำที่ใบหน้าและมีบาดแผลที่แขนทั้งสองข้างจากเหตุชุลมุน ช่วงที่น้ำเข้าเรือจนเรือเอียง คลื่นซัดเรือจนเรือโยนไปมา ร.ล.กระบุรี พยายามเข้าให้การช่วยเหลือแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะคลื่นสูง 4-5 เมตร คลื่นแรงจนเรือกระแทกกัน ต้องรอจน ร.ล.สุโขทัย จมลงก่อนถึงจะช่วยเหลือลูกเรือได้สำเร็จ ตนรับราชการมาเกือบ 2 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่คลื่นลมแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
พ.จ.อ.ธวัชชัย เตระวัตร ลูกเรือ ร.ล.สุโขทัย กล่าวด้วยว่า บาดเจ็บนิ้วมือข้างขวาหัก มีอาการชาที่แขน เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว ช่วงเกิดเหตุพยายามลงไปปิดประตูผนึกไม่ให้น้ำเข้าเรือ ขณะนั้นน้ำท่วมถึงอก เรือใกล้จมแล้ว ตนพยายามช่วยเพื่อนได้ 4 คน ขณะเกิดเหตุคลื่นแรงทำให้ต้องกระแทกกับเรือจนบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน นพ.วรา เศลวัตนะกุล นพ.สสจ.ประจวบ คีรีขันธ์ กล่าวว่า ลูกเรือที่บาดเจ็บทั้งหมด มีเคสที่บาดเจ็บสาหัส 3 ราย มีหนึ่งราย กระดูกต้นแขนหัก ยังไม่ได้ผ่าตัด ส่วนอีก 2 ราย ผ่าตัดแล้ว มีปัญหาที่กระดูกขาและนิ้วมือ ส่วนลูกเรือที่เหลือรอดูอาการคาดว่าจะสามารถเดินทางกลับได้ หากไม่มีอาการแทรกซ้อน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือติดตามกำลังพลและลูกเรือที่สูญหายจากเหตุการณ์ ร.ล.สุโขทัยอับปาง ว่า“ก็ติดตามอยู่ โดยสรุปแล้วมีบาดเจ็บหนักอยู่ประมาณ 5 คน เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุอยู่ ก็เห็นใจไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้วแหละ แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องการทำงานปฏิบัติหน้าที่ของเขา และไปเจอกับมรสุมพายุอะไรต่างๆ” เมื่อถามว่า กำลังเร่งค้นหากำลังพลที่สูญหายใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ก็กำลังดำเนินการอยู่ในทุกๆเรื่อง”
เวลา 16.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษก ทร. เผยถึงความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย ว่า ขณะนี้ตรวจพบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยได้แล้ว 75 นาย คงเหลือ กำลังพลที่ยังต้องค้นหาและช่วยเหลืออีก 31 นาย โดยเรือและอากาศยานได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20×15 ตารางไมล์ อยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่ ร.ล.สุโขทัย จมลงประมาณ 18 ไมล์ทะเล คำนวณจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบล่าสุด จะนำมาพิจารณาพื้นที่ความเป็นไปได้ว่า กำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว ญาติพี่น้องของกำลังพล สอบถามได้ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย โทร.0-3818-2435, 08-4002-3554
เวลา 18.00 น. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองเรือยุทธการ เดินทางไปรับกำลังพล ร.ล.สุโขทัย ที่ได้รับบาดเจ็บ หลังสั่งการให้เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล แบบที่ 1 บ.ลว.1 Dornier หมายเลข 1115 เดินทางไปรับผู้บาดเจ็บ 6 นาย จาก รพ.บางสะพาน กลับมายังสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนนำส่งรักษาต่อ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี