ซื้อของออนไลน์อย่างไง ไม่โดนโกง ป้องกันถูกหลอก สูญเงินเปล่า

441 ครั้ง

14 ธ.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

การซื้อของออนไลน์ มักจะมีการโกงกันอยู่เป็นประจำ เช่น โอนเงินแล้วหาย โอนเงินแล้วไม่ยอมส่งของมา หรือบางทีของที่ส่งมาก็ไม่ตรงกับที่สั่งไป คำถามคือเราจะซื้อของออนไลน์ยังไง ไม่ให้โดนโกง แบไต๋จะมาให้ข้อสังเกต ก่อนตัดสินใจซื้อกัน

การซื้อของออนไลน์มีอยู่สองแบบหลัก ๆ คือ การซื้อผ่านตัวกลางที่เป็นแอปพลิเคชันชอปปิง อาทิ ลาซาด้า ชอปปี้ หรือเจดีเซนทรัล และอีกแบบคือการซื้อกับผู้ขายโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อกันผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

แบบแรกที่ผ่านตัวกลางจะค่อนข้างโดนโกงได้น้อยกว่า เพราะเราสามารถเช็กความน่าเชื่อถือได้หลายจุด เช่น คะแนนร้านค้า จำนวนยอดขาย รวมถึงคอมเมนต์รีวิวต่าง ๆ ถ้าเขาโกงหรือส่งของไม่ตรงเราก็สามารถแจ้งกับแอปเพื่อให้เขาจัดการ หรือเรียกเงินคืนได้

หากเราซื้อผ่านผู้ขายโดยตรง อันนี้มีโอกาสโดนโกงค่อนข้างสูง เพราะมีโอกาสที่มิจฉาชีพจะปลอมตัวมาเป็นพ่อค้า การเช็กความน่าเชื่อถือทำได้ลำบาก และถ้าเกิดโดนโกง หากอยากได้เงินคืนก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แนะนำว่าถ้าซื้อผ่านแอปตัวกลางจะดีกว่า

สำหรับการสังเกตจุดแรกผ่านตัวกลางที่เป็นแอปชอปปิงออนไบลน์ก็คือ จำนวนยอดขาย จำนวนดาว จำนวนผู้ติดตาม อันนี้เลือกที่เยอะๆ ไว้จะดีที่สุด

หรือสังเกตรูปโปรไฟล์ของร้านว่ามีโลโก้การันตีหรือไม่ เช่นถ้าเราซื้อผ่านชอปปี้ก็จะมีคำว่า Shopee Mall (ชอปปี้มอลล์), หรือถ้าซื้อผ่านลาซาด้าก็จะมีคำว่า LazMall (ลาซมอลล์) และถ้าเป็น JD Central ก็จะเป็นคำว่า By JD Central (บาย เจดีเซนทรัล) อันนี้ก็จะเป็นการันตีว่าเป็นร้านที่ได้รับการรับรอง

จุดถัดมาที่ต้องสังเกตทุกครั้งเวลาจะซื้อสินค้าออนไลน์ คือต้องดูคอมเมนต์จากคนที่เคยซื้อไปแล้ว หรือที่เรียกว่ารีวิวจากผู้ซื้อ จุดนี้จะช่วยป้องกันการโดนโกงได้ เพราะส่วนใหญ่ความคิดเห็นจะมาจากคนที่เคยซื้อไปจริง เราสามารถไล่เช็กได้เลย ถ้าคนซื้อพอใจ ส่งของเร็ว ได้ของตรงกับที่สั่ง เขาก็จะมาคอมเมนต์ชมและให้ดาวเยอะ แต่ถ้าร้านไหนบริการไม่ดี ส่งของไม่ตรงก็จะมีคนมาคอมเมนต์ตำหนิและให้ดาวน้อย อันนี้ก็ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไร ที่สำคัญให้อ่านคอมเมนต์ดี ๆ ด้วย ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่คนไทยเขียน ใช้ภาษาไทยแปลก ๆ มีรีวิวเขียนคล้าย ๆ กัน อันนี้ก็มีแนวโน้มว่าปั่นรีวิวให้ดูดีได้เหมือนกัน

สุดท้ายหากเราไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าร้านหรือของที่เราจะซื้อ เชื่อถือได้หรือไม่ ก็สามารถปรึกษาคนใกล้ตัวที่ซื้อของออนไลน์บ่อย ๆ ได้

ส่วนวิธีสังเกตหากเราซื้อของออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ Line กับผู้ขายโดยตรง แนะนำว่าก่อนจะโอนเงินให้เขา เราลองเอาชื่อ นามสกุล เลขบัญชี เบอร์โทรศัพท์ ไปค้นหาใน Google ก่อนว่าเป็นบุคคลที่ประวัติควรระวังหรือไม่ ถ้ามีเราก็จะเห็นได้ทันทีเลย หรือเช็กผ่าน Blacklistseller.com

ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35