สาวช็อก โดนร้านทองแจ้งจับ เหตุตึ๊งทองเก๊ ลั่นจำนำ 2 รอบไม่ท้วง ผ่าน 16 วันดันบอกปลอม !

สาวสุดงง ถูก ร้านทองแจ้งความ หาว่าเอาทองเก๊ไปขาย ทั้งที่ผ่านไปแล้วกว่า 16 วัน อีกทั้งยังเคยเอาทองไปจำนำมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย !?

 

 

            วันที่ 12 ธ.ค. 65 พรรณกาญจน์ พรหมชาติ (เมย์) เจ้าของสร้อยทอง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 64 ตนซื้อสร้อยทองจากร้านทองที่ จ.ชุมพร มา 2 สลึง มีใบรับรองว่าเป็นทองจริง จากนั้น 31 พ.ค. 65 ตนจะคลอดลูกเดือน มิ.ย. เลยนำทองไปจำนำไว้ ที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเอาเงินมาใช้คลอดลูก ได้เงินมาจำนวน 13,400 บาท ซึ่งร้านทองได้มีการตรวจสอบ ทั้งชั่งน้ำหนัก และเผาเรียบร้อย หลังจากนั้นตนคลอดลูกเสร็จ และไปไปทำเรื่องเบิกประกันสังคม ได้รับเงินวันที่ 20 ก.ค. 65 จึงไปไถ่สร้อยทองคืนมา ด้วยเงิน 13,800 บาท 

 

  

 

            ต่อมา ตนมีปัญหาเรื่องเงิน วันที่ 13 ก.ย. 65 เลยนำสร้อยทอง 2 สลึงเส้นเดิม ไปลดขนาด เป็น 1 สลึง แล้วได้เงินส่วนต่างมาประมาณ 5,000 บาท ที่ร้านทอง จ.นครศรีธรรมราช (ร้านเดิม) ซึ่งเขาก็ทำการตรวจสอบเหมือนเดิม ทั้งชั่งน้ำหนัก และเผา ใช้เวลาตรวจสอบอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งวันที่ 29 ก.ย. 65 ทางร้านทองได้ติดต่อมาหาตน แจ้งว่า ทองที่นำไปเปลี่ยนขนาดเป็น "ของปลอม" อีกทั้งยังแจ้งว่าให้ตนไปติดต่อหน้าร้าน และชดใช้ค่าเสียหาย ตนจึงโทรไปปรึกษากับทนายที่รู้จักกัน เล่าให้เขาฟัง ทนายเลยแนะนำว่า หากเราบริสุทธิ์ใจ ให้เราไปลงบันทึกประจำไว้ ว่าซื้อทองมาจริง เคยนำไปจำนำมาจริง ตนเลยจัดการตามที่ทนายแนะนำ ซึ่งพอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเสร็จ ตำรวจก็บอกเราว่า เราไม่ต้องไปที่ร้านทองแล้ว เพราะเราได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ยืนยันความบริสุทธิ์ รอฝั่งเขาดำเนินการแจ้งความเอา

 

            จากนั้น วันที่ 1 ต.ค. 65 แจ้งเตือนจากร้านทอง ส่งมาที่บ้าน บอกว่า สร้อยทองของตน เขาได้นำไปตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ทองบริสุทธิ์ 96.5 % ให้ตนกลับไปที่ร้าน และไปจ่ายค่าเสียหายให้เขา เป็นเงินค่าทอง 1 สลึง 7,849 บาท และให้ตนคืนเงินสดที่ตนได้วันที่นำทองไปลดขนาดด้วย แต่ตนไม่ได้ไป เพราะตนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนผิด ให้เขาดำเนินการต่อได้เลย ต่อมา วันที่ 11 พ.ย. 65 มีหมายเรียกให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหา วันที่ 12 พ.ย. 65 ตนจึงเดินทางไปโรงพัก แสดงหลักฐานการซื้อทองให้เขาดู แต่เขาก็ไม่ดู จากนั้นเขาก็พาหัวหน้าร้านทอง และพนักงาน มาคุยกับตน ทางเขาก็ยืนยันว่าเป็นทองปลอม ส่วนตนก็ไม่แน่ใจแล้วว่าทอง 2 สลึงดังกล่าวเป็นของตนหรือไม่ เพราะของแบบนี้มันปลอมแปลงกันได้ จากนั้น ทางร้านทองได้บังคับออกใบเสร็จ ทำเหมือนว่าทางร้านจะซื้อทอง 1 สลึงคืน ทางร้านก็ได้เอาทองดังกล่าวไปแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้รับเงิน และเขาก็จะให้ตนรอทนายทำเอกสารให้ตนชดใช้เพิ่มอีกประมาณ 6,000 บาท สำหรับทอง 1 สลึงที่ขายให้ร้านไป แต่ตนก็ไม่ยอม 

 

 

            ทั้งนี้ ตนพยายามโทรไปหาผู้ดูแลคดีนี้ บอกเขาว่า ตนจะหาหลักฐานมาเพิ่ม เขาตอบกลับมาว่า "น้อง พี่ไม่อยากให้น้องเจ็บตัว คดีแบบนี้มันแพ้มานักต่อนักแล้ว น้องยอมชดใช้ให้เขาไปเถอะ" อย่างไรก็ตาม ตนเป็นนักกีฬา เป็นครู เหตุการณ์นี้ทำให้ตนเสียชื่อเสียงมาก และตนเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่หลายวัน ขณะเดียวกัน ตนมีความสงสัยว่า ทอง 1 สลึง ที่ทางร้านทองเอาไป ตนจะได้คืนไหม เพราะก่อนหน้านี้ตนโทรหาทางร้าน ขอทองคืน แต่ทางร้านบอกว่าไม่ได้ เขาส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่แล้ว ตนจะดำเนินการอะไรก็ทำเลย 

 

 

            ด้าน กฤษณุพงศ์ คนหาญ (ตง) ทนายความ เผยว่า ตั้งแต่คุณเมย์ติดต่อตนมา เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ตนได้แนะนำคุณเมย์ตลอดว่า กรณีแบบนี้ บุคคลจะกระทำความผิดอาญาได้ก็ต่อเมื่อกระทำโดยเจตนา แต่ตัวน้อง ซื้อทองจากร้านทองตามปกติ แล้วเชื่อว่าเป็นทองจริง มีใบรับรองชัดเจน คนทั่วไปตรวจสอบเองไม่ได้อยู่แล้ว แค่นี้ก็ขาดเจตนาแล้ว ต่อมาตัวคุณเมย์ยังเอาทองเส้นดังกล่าวไปขายฝากที่ร้านทองคู่กรณี ได้เงินมา คุณเมย์ก็ไปไถ่ถอนออก ข้อนี้ก็ขาดเจตนาเช่นกัน ถ้าคุณเมย์มีเจตนาจะทุจริตตั้งแต่ต้น คงไม่ไปเอาทองออก 

 

            ฟาก สมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์  กรรมการสมาคมค้าทองคำ และอนุกรรมการแก้ไขปัญหาทองปลอม กล่าวว่า ส่วนมาก เวลาไปขายฝากทองที่ร้าน เขาจะทำการตรวจสอบกัน และเคลียร์จบ ณ วันนั้นเลย หากปล่อยเวลามาเนิ่นนานจะทำให้ผู้บริโภคเขาเสียความรู้สึก อย่างกรณีนี้มีการปล่อยเวลาไว้ 16 วันถึงมาแจ้งว่าเป็นทองปลอม ตนยังไม่เคยเจอ จะมีแต่กรณีที่สามีขโมยทองของภรรยาไปขาย และไปซื้อทองตลาดนัดมาสับเปลี่ยนไว้ ซึ่งเคสนี้ไม่น่าใช่ลักษณะนี้ เพราะน้ำหนักทองมันตรง ถ้าเป็นทองตลาดนัดน้ำหนักมันจะไม่ตรงเลย อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบว่ามันผิดพลาดตรงส่วนไหน 

 

 

            ฝั่ง พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า เคสนี้ แค่ออกหมายเรียกคุณเมย์ ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ ที่ออกหมายเรียก เพราะ ทางร้านทองได้มาแจ้งความร้องทุกข์ในคดีความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งตำรวจต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนในเรื่องการสอบปากคำ เราได้หลักฐานอย่างไร เราก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย 

 

            ทั้งนี้ ทางทีมงานรายการถกไม่เถียงได้มีการติดต่อร้านทองคู่กรณีไป ได้ความว่า ทางร้านทองได้ส่งข้อมูลทุกอย่างไปให้สำนักงานใหญ่หมดแล้ว ให้สำนักงานใหญ่เป็นคนดูแลเรื่องนี้ และเป็นคนชี้แจงแทน 

 

            ขณะเดียวกัน ระหว่างรายการ มีคอมเมนต์จากชาวเน็ตส่งเข้ามาหลายข้อความ ว่า มีความสงสัยในตัวพนักงานของร้าน อยากให้ทางร้านทำการตรวจสอบ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่