หญิงวัย 33 ปี แจ้งความฐานนักเรียน 8 คน หลังมาแอบกินกล้วยน้ำว้าในห้องครัวหมดไป 1 หวี ตำรวจรับลูกออกหมายเรียกเด็ก มารับทราบข้อกล่าวหา เรียกสินไหมรายละ 3,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 24,000 บาท
ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องรร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบถึง 12 ปี ถูกแจ้งความคดีอาญา โดยไม่เป็นธรรม เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก จากการตรวจสอบที่บ้านโคกสำโรง หมู่ 7 พบชาวบ้านกำลังนั่งจับกลุ่มพูดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ประโคนชัย ระบุชัดว่า ได้กล่าวหาเด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ ในข้อหาร่วมกันบุกรุก และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
นางสิริมา อายุ 53 ปี แม่ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไทร เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่ม น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนในหมู่บ้านได้เรียกเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบถึง 12 ปี รวม 8 คน ไปที่บ้าน แล้วถ่ายคลิปการสอบสวนเด็กทั้งหมด ที่เข้าไปในห้องครัว แล้วกินกล้วยน้ำว้าหมดไป 1 หวี และมีทรัพย์สินอื่นภายในบ้านเสียหาย
เมื่อมาสอบถาม ทราบว่าลูกชายตนกับเพื่อนรวม 8 คน ได้เข้าไปที่ห้องครัวของเจ้าของบ้านจริง เข้าไปกินกล้วยจริง แต่ไม่ได้ไปทำลายทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน สาเหตุที่เข้าไปเพราะห้องครัวเป็นห้องครัวแบบโล่งไม่มีฝากั้น ประกอบกับเคยไปบ้านหลังนี้เป็นประจำ เนื่องจากเจ้าของบ้านเคยเรียกให้ลูกชายกับเพื่อน ๆ ไปซื้อไก่ทอด ที่เหลือจากการขายในตัวอำเภอ อีกทั้งลูกชายเจ้าของบ้านเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน
ต่อมา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. เด็ก ๆ แต่ละคน ได้รับหมายเรียกลงนาม โดยตำรวจยศ พ.ต.ท. สภ.ประโคนชัย ท่านหนึ่ง ให้ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 4 ธ.ค. ตนกับผู้ปกครองคนอื่นรวม 8 คน ตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเด็กวัยขนาดนี้จะต้องได้รับหมายเรียก ก่อนที่สุดท้ายจะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้น ถูกเรียกเงินค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท แต่ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท โดยผู้ปกครองจำนวน 4 คนยอมจ่ายเพราะไม่อยากเรื่องมาก ส่วนอีก 4 คนที่เหลือเด็กปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วย
ซึ่งตนเองเป็นหนึ่งในคนที่ยอมจ่ายค่าสินไหม 2,000 บาท แต่ที่แปลกใจ คือมีเด็ก 5 ขวบ เรียนแค่ชั้นอนุบาลที่ไม่รู้เรื่องด้วย แต่ผู้กล่าวหายังไม่ยอมลดราวาศอก ประกาศจะดำเนินคดีทั้งหมดหากไม่จ่ายเงิน
ด้านนายธรีภัทร์ อายุ 48 ปี พ่อน้องไม้ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 บอกว่าตนจะไม่ยอมจ่ายเงิน 2,000 บาทเด็ดขาด เพราะลูกชายไม่ได้ไปด้วย ส่วนวันที่ น.ส.กุ้ง เรียกเด็กทั้งหมดไปสอบสวนที่บ้าน ตนก็ไปด้วยจนต้องมีปากเสียงกัน เพราะทำเกินกว่าเหตุ เค้นถามเด็กเหมือนคดีฆ่าคนตาย
สิ่งที่ตนติดใจมากที่สุดคือ ”หมายเรียก” ของตำรวจที่ส่งมาที่บ้าน ระบุชื่อเด็กชัดเจน เด็กอ่านหนังสือออกแล้ว ก็เกิดอาการหวาดผวากลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเริ่มเหม่อลอย ไม่ยอมไปเล่นเหมือนที่เคยไป
ขณะที่ น.ส.กุ้ง เจ้าของบ้านที่ไปแจ้งความ บอกว่าตนเองเพิ่งกลับมาอยู่บ้านที่ อ.ประโคนชัย ได้ประมาณ 6 เดือน ยึดอาชีพขายไก่ทอด จะออกบ้านตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านประมาณ 17.00-20.00 น. ทุกวัน
ที่ผ่านมา ตนได้รับความเดือดร้อนเหมือนถูกกลั่นแกล้งมาหลายครั้ง เคยถูกเอาไข่เน่ามาขว้างที่บ้าน เอกสารภายในบ้านถูกรื้อค้น เสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถูกเอามาเททิ้งทั่วบริเวณ แต่หาตัวคนทำไม่ได้ ล่าสุดกล้วยน้ำว้าที่ซื้อมาเก็บไว้ในห้องครัวหวังจะเอามากิน หายไปทั้งหวี จนกระทั่งจับเด็กมาสอบจึงรู้ความจริงทั้งหมด ยอมรับว่าได้เรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาทจริง แต่เห็นใจลดให้ 2,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4 รายหากไม่จ่ายจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35