logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

พี่สาวร้อง ! น้องชายย่องขโมยต้นกัญชาเพื่อนบ้าน ถูกทำร้ายดับ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ญาติออกมาร้องของความเป็นธรรมกับผู้บังคับการจังหวัดอุดรธานี เหตุนายคำดี เข้าไปขโมยต้นกัญชาเพื่อนบ้าน โดนเจ้าของบ้านกระทืบจนบ ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ

508 ครั้ง
|
07 ธ.ค. 2565
ญาติออกมาร้องของความเป็นธรรมกับผู้บังคับการจังหวัดอุดรธานี เหตุนายคำดี เข้าไปขโมยต้นกัญชาเพื่อนบ้าน โดนเจ้าของบ้านกระทืบจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา พอไปแจ้งความตำรวจไม่รับแจ้ง
 
เมื่อเย็นวานนี้ (6 พ.ย.) นางวรรณา อรัญสร อายุ 55 ปี ชาวบ้านพรเจริญ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เข้าพบ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีนายคำดี อรัญสร อายุ 49 ปี น้องชายเข้าไปขโมยกัญชาของเพื่อนบ้าน ถูกเจ้าของบ้านจับได้และทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 สัปดาห์ กระทั่งเสียชีวิต พอไปแจ้งตำรวจ สภ.วังสามหมอ กลับไม่ทำคดี อ้างว่าผู้ตายเข้าไปขโมยของบ้านคนอื่น เจ้าของบ้านสามารถป้องกันทรัพย์สินได้
 
นางวรรณา เล่าว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ของคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565  นายคำดี ได้เข้าไปขโมยต้นกัญชาของเพื่อนบ้านจริง แต่ถูกเจ้าของบ้านจับได้ และถูกรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งนายคำดีพยายามที่จะคลานออกมาด้านนอกบ้าน แต่เจ้าของบ้านก็ตามมากระทืบซ้ำหลายครั้งจนนายคำดีแน่นิ่งไต้นกัญชาป ซึ่งหลังจากนั้นมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาระงับเหตุและควบคุมตัวนายคำดีไปที่สถานีตำรวจภูธรวังสามหมอ โดนแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาทและจับนายคำดีติดคุกเป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะเปรียบเทียบปรับ 500 บาท และปล่อยตัวในวันที่ 16 พฤศจิกายน
 
หลังจากถูกปล่อยตัว นายคำดีได้กลับมาที่บ้าน หลังจากนั้นมาก็นอนซมอยู่ที่บ้านมาตลอด ไม่ออกจากบ้านเพราะร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก และกินข้าวปลาอาหารไม่ได้ อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด แต่ญาติไม่รู้เพราะนายคำดีไม่ได้ออกบ้าน จนกระทั่งวันที่ 23 พฤศจิกายน มีเพื่อนบ้านมาบอกว่านายคำดีอาการไม่ดี ญาติจึงพากันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังสามหมอ นอนพักรักษาตัวอยู่ประมาณ 3-4 วัน จากนั้นก็กลับบ้านวันที่ 27 พฤศจิกายน เพราะนายคำดีปฎิเสธการรักษา ไม่ต้องการให้แพทย์สอดสายยางให้อาหารทางจมูก ซึ่งตอนนั้นหมอไม่ได้รับข้อมูลว่านายคำดีถูกทำร้ายร่างกายมา จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และทำการฌาปนกิจวันที่ 2 ธันวาคม
 
หลังจากนายคำดีเสียชีวิต ตนเองได้ไปแจ้งความกับตำรวจถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่ตำรวจกลับไม่ทำคดีให้ โดยอ้างว่านายคำดี เข้าไปขโมยของที่บ้านของคนอื่นยามวิกาล เจ้าของบ้านสามารถป้องกันทรัพย์สินของตัวเองได้ และมีหลักฐานจากภาพวงจรปิดขณะที่นายคำดีไปขโมยกัญชาก่อนหน้านี้ 
 
ซึ่งพวกตนคิดว่าไม่ถูกต้องเพราะนายคำดีไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยมาก่อน อีกทั้งหลังจากที่ถูกซ้อมมาก็เกิดอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิต ที่ผ่านมาพวกตนเคยไปพบคู่กรณีแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงไปพบตำรวจเพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับคนทำร้ายร่างกายนายคำดี ตำรวจก็พูดข่มขู่ฝ่ายของตนจนทำให้เกิดความกลัวและไม่กล้าที่จะแจ้งความ
 
นางวรรณา ยังเล่าอีกว่าตั้งแต่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมหรือไม่เคยมาช่วยเหลืออะไรเลย ตำรวจติดต่อไปเพื่อที่จะมาไกล่เกลี่ย ก็ไม่ยอมมาจนกระทั่งนายคำดีเสียชีวิตไป คู่กรณียังมีหน้ามาบอกว่าถ้าเกิดอยากได้เงินก็ไปฟ้องร้องเอา เพราะจะฟ้องร้องที่มาขโมยต้นกัญชาราคาเป็นแสนด้วย คนตายทั้งคนซึ่งตำรวจก็ยังยืนยันว่าฝ่ายตนผิดซึ่ง ตนคิดว่าทำไมฆ่าคนตายทั้งคนกลับไม่มีความผิดทำไมตำรวจไม่ช่วยเหลือ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี 
 
ด้าน พล.ต.ต.พิษณู อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อดรธานี เปิดเผยว่า พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พึ่งได้รับฟังฝ่ายเดียว แต่จากข้อมูลที่ได้รับฟังเชื่อว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาคู่กรณีได้ คือฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หรือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะสั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.วังสามหมอ เร่งดำเนินการสอบปากคำประจักษ์พยาน ทั้งสองฝ่าย และหากญาติผู้ตายเชื่อว่ามีประจักษ์พยานอื่น หรือหลักฐานอื่นก็นำมาให้ตำรวจ นอกจากนี้ผลวินิจฉัยการเสียชีวิตของแพทย์ ก็เป็นหลักฐาน ซึ่งจะต้องไปสอบสวนปากคำจากแพทย์ที่ทำการรักษา ขอรับรองว่าตำรวจจะต้องรับแจ้งความแน่นอน และให้ทั้งสองฝ่ายไปพิสูจน์ความจริงกันบนศาล
 
ด้านเจ้าของบ้านออกมาโต้ว่า แค่ผลักอกหัวขโมยกัญชาไม่ได้ตีจนตาย นายอ๊อฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าของต้นกัญชา เปิดเผยว่านายเกล็ดเข้ามาขโมยต้นกัญชาที่บ้านถึง 4 ครั้งแล้วก่อนหน้านี้เขาเข้ามาขโมย จับได้ก็เตือนเขาว่าอย่าบุกเข้ามาบ้านยามวิกาล ไม่ได้ไปแจ้งความ แค่เตือนไปอย่าเข้ามาอีก
 
“ผมทำงานต่างจังหวัดนาน ๆ จะกลับบ้าน มีเพียงภรรยาและลูกสาววัย 2 ขวบอยู่บ้านตามลำพัง แต่วันเกิดเหตุ ผมกลับบ้านพอดี จึงเดินออกไปดูข้างๆ บ้านเห็นผู้ก่อเหตุกำลังเด็ดทั้งก้านใบกัญชาไปหลายก้าน ยืนยันไม่ได้ใช้ไม้หรือด้ามเสียมทำร้าย ผมแค่ผลักอกเขาจริง ๆ แต่เขาล้มใส่หินลับมีดและกองฟืนที่อยู่หลังบ้าน อยากให้เข้าใจครอบครัวผมบ้าง ต่อไปถ้าเขาบุกเข้าบ้าน ลูกเมียผมจะเป็นอย่างไร”
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/fasXX1ZON4w

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง