หนุ่มร้อง ถูกกลุ่มชาย รุมยำ 10 ต่อ 1 แถมเอาปืนตบหัว อาการสาหัส ขู่ไล่ให้ไปแจ้งความ ลั่น รู้จักตร. ทั้งสน. สุดท้ายคดีไม่คืบ เดือดร้อน ต้องให้สายไหมต้องรอดช่วย
วันที่ 6 ธ.ค. 65 พนิดา สีลาลาย แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุแฟนของตนนั่งกินดื่มอยู่กับเพื่อนที่ข้างล่างแฟลต ซึ่งตนได้โทรตามให้มากินข้าว แฟนก็ตอบกลับมาเสียงดัง ว่าเดี๋ยวจะขึ้นแล้ว ด้วยความที่เขาคุยโทรศัพท์อยู่ เลยไม่รู้ว่าฝั่งคู่กรณีเข้าใจผิดคิดว่าพูดถึงฝั่งเขาหรือเปล่า แต่เขาก็เดินปรี่เข้ามาหาแฟนตนที่โต๊ะหลายคน แล้วก็มาถามว่า "มึงมีปัญหาอะไรกับกู อยากมีเรื่องกับกูหรอ" แฟนตนตกใจ เลยป้องกันตัวชกเขาไป 1 หมัด จนถูกเข้ามารุมทำร้ายพร้อมทั้งเอาปืนตบหัว ตนจึงได้โทรเรียกตำรวจมา แต่แม้ตำรวจมาคู่กรณีก็ยังจะเข้าทำร้ายอีก พร้อมทั้งขู่ให้ไปแจ้งความได้เลย เขารู้จักตำรวจหมด
ทั้งนี้ ตนได้ไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง แต่ตำรวจไม่ได้ถามสาเหตุว่าที่มาเป็นยังไง และแค่เอาลงบันทึกประจำวัน อีกทั้งไม่เขียนคำว่าใช้ปืนทุบ แต่เขียนว่าใช้ของแข็งทุบหัว ขณะที่อาการบาดเจ็บของแฟนตนจะ คุยช้าลง เวลาจะคุยอะไรก็จะนึกก่อน หรือมีบางครั้งจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากินข้าวหรือยัง
ฟาก สันติ สาลีงาม ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า อาการบาดเจ็บของตนนั้นมี ศีรษะแตกเย็บ 5 เข็ม ปวดศีรษะมาก หัวไหล่เคลื่อน มีอาการมึน เบลอ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ปวดขาขวา เจ็บกรามซ้าย ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตนก็คิดว่าเป็นปืนจริง จากน้ำหนักของปืนที่เขาเอาทุบหัวตน ซึ่งมันค่อนข้างหนัก เหมือนเป็นเหล็กทั้งอัน
ขณะที่กลุ่มคู่กรณี ตนก็ไม่เคยมีเรื่องหรือเคยรู้จักเขามาก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้พยายามแจ้งความหลายครั้ง แต่ตำรวจบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งทั้งที่หลักฐานก็มีหมด จนมาได้สายไหมต้องรอดเข้ามาช่วย
ด้าน หมู (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนบีบีกัน ตอนนี้ปืนดังกล่าวส่งให้ตำรวจไปตรวจแล้ว ส่วนมูลเหตุ มาจากที่วันนั้น นายสันติ พูดกับเมียตนว่า "น้องมีปัญหาอะไรกับเมียพี่หรอ" ตนมาเห็นเหตุการณ์ตอนที่เขาชกรุ่นน้องในกลุ่ม หลังจากที่ตนเอาปืนบีบีกันไปยิงหนู ปืนเลยติดตัวมาด้วย
อีกทั้งเขาเคยมาพูดจาแทะโลมภรรยาตน และลูกสาวร้านค้าแถวนั้นด้วย ส่วนประเด็นที่ว่าตนรู้จักกับตำรวจ แล้วพูดท้าให้ไปแจ้งความนั้น ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักตำรวจ
นาย สันติ เล่าต่อว่า ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดตามที่เขากล่าวอ้าง อีกทั้งยังไม่รู้จักพวกเขาด้วย ไม่เคยนั่งดื่มนั่งกินด้วยกันแน่นอน
ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จากคลิปเหตุการณ์ที่ตนเห็น ฝ่ายคู่กรณีเดินเข้ามาหา ฝั่งของนาย สันติ ซึ่งก็เห็นเจตนาแล้ว ว่าจะเดินไปทำอะไร ทั้งนี้ บ้านเมืองเรามีกฎหมาย จะมีปากเสียงอะไรกันก็ได้ ใช้สิทธิ์ไปตามกฎหมาย แต่ไม่ควรไปลงไม้ลงมือ อย่างไรก็ตามอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน ควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่า
ฝั่ง พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เล่าว่า คดีนี้ได้มีการเรียกต้องฝั่งที่ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้ง 6 คน แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ คาดว่า 2 วันจะได้ความชัดเชนมากขึ้น ส่วนเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องเป็นห่วงได้สั่งการให้มีการตรวจตราแล้ว และแจ้งความคืบหน้าของคดีแก่ผู้เสียหายเป็นระยะ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35