หนุ่มผวา วัยรุ่นนับ 10 รุมกระทืบ-ปืนตบหัว คดีไม่คืบ คู่กรณีโว รู้จัก ตร.ทั้ง สน. !

หนุ่มร้อง ถูก ชายฉกรรจ์นับ 10 รุมทำร้าย เอาปืนทุบหัวเลือดอาบ อ้าง ไปว่าเมียเขา พร้อมขู่ให้แจ้งความ คุยว่ารู้จักตร. สุดท้ายหนุ่มไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่ดำเนินการ !

 

 

            วันที่ 6 ธ.ค. 65 พนิดา สีลาลาย แฟนของผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนกำลังเดินทางกลับถึงแฟลตกับแฟน เวลาประมาณ 18.40 น. ซึ่งทางแฟนเจอคนรู้จักกำลังนั่งดื่มสุราอยู่ แฟนตนเลยเข้าไปทักทาย แล้วนั่งคุยกับเขาอยู่พักหนึ่ง ส่วนตนก็ขอตัวขึ้นไปบนบ้าน จากนั้นตนโทรศัพท์ไปตามให้แฟนขึ้นมากินข้าว แฟนก็ตอบกลับมาเสียงดัง ว่าเดี๋ยวจะขึ้นแล้ว ด้วยความที่เขาคุยโทรศัพท์อยู่ เลยไม่รู้ว่าฝั่งคู่กรณีเข้าใจผิดคิดว่าพูดถึงฝั่งเขาหรือเปล่า แต่เขาก็เดินปรี่เข้ามาหาแฟนตนที่ที่โต๊ะเลย แล้วก็มาถามว่า "มึงมีปัญหาอะไรกับกู อยากมีเรื่องกับกูหรอ" แฟนตนก็ตกใจ ด้วยสัญชาตญาณของเขา ก็เลยป้องกันตนเอง คิดว่าเขาจะเข้ามาหาเรื่อง เลยต่อยเขาไปก่อน 1 ที จนถูกเข้ามารุมทำร้าย ตนจึงโทรแจ้ง 191 พอตำรวจมา เขาก็ไม่ทำอะไรเลย บอกเพียงว่าให้ไปแจ้งความ ขณะเดียวกัน แม้ตำรวจจะมาแล้ว แต่กลุ่มคู่กรณีก็ยังจะวิ่งเข้ามาทำร้ายอีก พร้อมทั้งขู่ให้ไปแจ้งความได้เลย เขารู้จักตำรวจหมด 

 

            สุดท้ายกู้ภัยได้พาไปส่งโรงพยาบาล ตอนแรกเขาก็รักษาเย็บแผลให้ตามปกติ แต่พอกลับบ้าน แฟนกลับปวดเนื้อปวดตัว ปวดหัว ระบมทั้งหมด ถึงขั้นนอนไม่ได้ เลยต้องกลับไปหาหมออีกครั้ง ให้เขาฉีดยา และนำไปเอ็กซ์เรย์เพิ่ม ขณะเดียวกัน อาการของแฟนทุกวันนี้ คุยช้าลง เวลาจะคุยอะไรก็จะนึกก่อน หรือมีบางครั้งจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากินข้าวหรือยัง 

 

            ส่วนเรื่องการแจ้งความ ตนไปที่ สน.ดอนเมือง แต่เขาแค่เอาลงบันทึกประจำวัน แล้วเขาก็ไม่ได้ถามสาเหตุว่าที่มาเป็นยังไง ตอนเขาเขียนบันทึก เขาไม่เขียนคำว่าใช้ปืนทุบ แต่เขียนว่าใช้ของแข็งทุบหัว สำหรับตอนนี้กระทบหลายอย่างเลย เพราะแฟนเป็นเสาหลักของครอบครัว หยุดงานไปหลายวันทำให้ขาดรายได้ และถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไปพวกตนจะทำยังไง ทั้งลูกเล็ก และแม่ที่แก่ ทำไมคู่กรณีถึงไม่คิดแบบนี้บ้าง 

 

 

            ฟาก สันติ สาลีงาม ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนกินเบียร์อยู่ แต่กินไปไม่เยอะ กำลังดื่มแก้วที่ 2 ก็ถูกกลุ่มคู่กรณีเดินปรี่เข้ามาหาเรื่อง ระหว่างที่ตนกำลังคุยโทรศัพท์กับแฟน ตนก็ตกใจ เลยป้องกันตัวเองชกเขา 1 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าโดนหรือเปล่า จากนั้นก็ถูกเขายกพวกเขามารุมกระทืบเลย อีกทั้งยังมีคนเอาปืนเข้ามาทุบที่หัวตนประมาณ 2-3 ครั้ง โดยอาการบาดเจ็บของตนนั้นคือ ศีรษะแตกเย็บ 5 เข็ม ปวดศีรษะมาก หัวไหล่เคลื่อน มีอาการมึน เบลอ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ปวดขาขวา เจ็บกรามซ้าย 

 

            ด้านปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตนก็คิดว่าเป็นปืนจริง จากน้ำหนักของปืนที่เขาเอาทุบหัวตน ซึ่งมันค่อนข้างหนัก เหมือนเป็นเหล็กทั้งอัน ขณะที่ตอนมันตกกับพื้น มันก็ยังนิ่ง ไม่ได้กลิ้งไปไหน แสดงว่ามันหนัก ขณะที่ กลุ่มคู่กรณีตนไม่รู้จักเลย เคยเห็นหน้าทักทายแค่คนเดียว เป็นคนในแฟลตเดียวกัน  ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน หรือไปด่าทออะไรเขาเลย 

 

            อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ได้สายไหมต้องรอดช่วยไว้ ตนคงไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนพยายามแจ้งความหลายครั้งแล้ว แต่เขาไม่รับแจ้งความ พยายามบ่ายเบี่ยง ทั้งที่หลักฐานทั้งหลายก็มี ตนหามาให้หมด 

 

 

            ด้าน กุหลาบ สาลีงาม พี่สาวของผู้บาดเจ็บ เผยว่า  ตนเห็นคลิปเหตุการณ์แล้วรับไม่ได้เลย ทำเหมือนน้องตนเป็นผักเป็นปลา และอาการน้องตนก็ไม่เหมือนเดิม มีการทำอะไรก็ช้าลง บางทีก็สมาธิสั้น และมีอาการผวา ก่อาหน้านี้ไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่ไหน เขาก็ดำเนินการช้า โยนกันไปโยนกันมา ให้แต่ลงบันทึกประจำวัน ขนาดกุญแจหายในที่เกิดเหตุ เขาก็ไม่รับแจ้งความอะไรเลย ไล่พวกตนกลับ 

 

 

            ขณะที่ หมู (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนบีบีกัน ซึ่งถ้าเป็นปืนจริงตอนตกมันคงปืนลั่นไปแล้ว  ตอนนี้ปืนดังกล่าวส่งให้ตำรวจไปตรวจแล้ว ส่วนตอนเกิดเหตุ คือ ตนกำลังยิงหนูด้วยปืนบีบี กันดังกล่าวอยู่ ก็ได้ยินเสีนงนาย สันติ เขาตะโกน มาถามภรรยาตนว่า "น้องมีปัญหาอะไรกับเมียพี่หรอ" จากนั้นตนได้ยินเสียงภรรยาตนตะโกนเถียงกันอยู่ ตนเลยออกมา ก็เห็นว่าเขาชกน้องในกลุ่มของตน คนอื่นเลยกรูเข้าไป ตนก็เลยเข้าไปด้วย ซึ่งก็ชุลมุน แล้วปืนบีบีกันก็ติดมือตนมาด้วย

 

            ส่วนประเด็นเรื่องที่ มีคนท้าให้ไปแจ้งความ อ้างรู้จักตำรวจ ตนยืนยันว่าตนไม่ใช่คนพูด และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักผู้ใหญ่ใน สน.ดอนเมือง นอกจากนี้นาย สันติ ยังเคยพูดจาแทะโลมภรรยาของตน ประมาณว่า "น้องมีผัวแล้วหรือยัง" แล้วก็เคยไปถามลูกสาวของร้านค้าแบบนี้เช่นเดียวกัน 

 

            นาย สันติ เล่าต่อว่า ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดตามที่เขากล่าวอ้าง อีกทั้งยังไม่รู้จักพวกเขาด้วย ไม่เคยนั่งดื่มนั่งกินด้วยกันแน่นอน 

 

 

            ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จากคลิปเหตุการณ์ที่ตนเห็น ฝ่ายคู่กรณีเดินเข้ามาหา ฝั่งของนาย สันติ ซึ่งก็เห็นเจตนาแล้ว ว่าจะเดินไปทำอะไร ทั้งนี้ บ้านเมืองเรามีกฎหมาย จะมีปากเสียงอะไรกันก็ได้ ใช้สิทธิ์ไปตามกฎหมาย แต่ไม่ควรไปลงไม้ลงมือ อย่างไรก็ตามอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน ควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่า 

 

            ฝั่ง พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เล่าว่า คดีนี้ได้มีการเรียกต้องฝั่งที่ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้ง 6 คน แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ จะมีฐานความผิดอื่นอีกหรือไม่ ต้องการสอบสวน ส่วนเรื่องของปืน ตอนนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าควรจัดการอย่างไร แต่ขอไม่เปิดเผย แต่ว่ามีกระบวนการตรวจสอบแน่นอน เรื่องนี้ภายใน 2 วันน่าจะได้ความชัดเจนขึ้น ขณะที่ความปลอดภัยของผู้เสียหาย ตนได้สั่งการให้มีการตรวจตราให้ความมั่นใจ สำหรับในขั้นตอนการสืบสวน จะมีการแจ้งความคืบหน้าให้ผู้เสียหายเป็นระยะ