คุณแม่สุดเศร้า บ้านสุดรัก ถูกลูก-สะใภ้ หลอกเอาโฉนดไปจำนอง สุดท้ายไม่ผ่อนต่อ จ่อจะถูกยึด เสนอทางจะไถ่โฉนดให้ แต่ต้องเปลี่ยนชื่อบ้านเป็นของสะใภ้ !
วันที่ 2 ธ.ค. 65 สุณี ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนเชื่อว่า ลูกของตน กับลูกสะใภ้ หลอกเอาโฉนดบ้านไปจำนอง เพราะว่า ตอนแรกลูก และลูกสะใภ้ บอกว่าขอเอาโฉนดบ้านไปจำนอง ได้เงิน 2 แสน จะเอาเงินมาทำห้องน้ำ ซ่อมบ้านให้แม่ เพราะแม่เริ่มป่วย จะได้เข้าห้องน้ำได้สบาย แล้วก็จะมาอยู่กับแม่ด้วย ครบปี แล้วจะไปไถ่โฉนดออกให้ หลังจากเอาโฉนดไปจำนองที่กรมที่ดินแล้ว ได้เงินมา 2 แสนบาท แบ่งให้ตน 2 หมื่นบาท ที่เหลือลูก กับลูกสะใภ้เอาไปทั้งหมด แต่ลูกได้มีการขอตนอยู่เรื่อย ๆ ครั้งละ 2-3 ร้อย ตนได้ใช้เต็มที่ 1.2 หมื่น
จากนั้น ลูก และลูกสะใภ้ ใช้เงินจนหมด ก็ย้ายมาอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ปี 63 บอกว่าจะเข้ามาดูแลแม่ แม่แก่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ทำอย่างที่เคยพูดไว้ว่าจะทำบ้านให้ ตนก็ทำใจว่าคงไม่ได้ทำบ้าน ซึ่งตัวลูกเองก็เงียบไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตนยังคิดว่าแค่ลูกมาอยู่ด้วยก็ดีใจแล้ว แต่แล้วปี 64 ก็มีหนังสือส่งมา ว่าจะยึดบ้าน ไปถามลูกสะใภ้เขาก็บอกว่า ไม่ส่งแล้ว จากนั้นลูกชาย ก็ได้ไปคุยกับพ่อตาแม่ยาย เขาก็จะให้เงินมา 2 แสน เลยมาเสนอกับตนว่า จะเอาเงินมาให้ แต่ว่าต้องเปลี่ยนชื่อบ้านเป็นชื่อของลูกสะใภ้ อีกทั้งลูกสะใภ้ยังบอกว่าบ้านนี้เป็นของลูกชายเขา แต่ตนก็ไม่ยอม เพราะตนก็หาเงินส่งบ้านตอนลูกเด็ก ๆ มาเหมือนกัน ตนเลิกกับสามี ต้องทำงานรับจ้างทุกอย่าง จนลูกโตก็ช่วยกันส่ง สุดท้าย เขาก็ย้ายออกไป พ.ย. 65 ทิ้งหนี้ไว้ให้ตน พร้อมกับบอกว่า "ถ้ามึงไม่เอาชื่อเมียใส่ ก็ให้เขายึดไปเลย มึงก็ไม่ได้กูก็ไม่ได้"
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ลูกได้เงินก้อนนี้ เขาก็ไม่เคยให้เงินรายเดือนตนเลย จากที่ก่อนให้เดือนละ 5 ร้อยบาท ตนก็ไม่คิดอะไร คิดว่าลูกคงไม่มี ตนก็ทำอาชีพเก็บขยะหาเลี้ยงตัวเองได้ รายได้ประมาณ 2 สัปดาห์ 5-7 ร้อยบาท บางทีลูกตกงานมาก็ซื้อข้าวซื้อน้ำให้ลูกกินด้วยกัน แต่บางทีเขามีเขาก็ไม่ให้แม่ เขาก็ไปกินกัน 2 คน ส่วนตัวลูกสะใภ้ เวลาทำอะไรให้กิน เขาจะชอบพูดแดกดัน บอกว่า แก่แล้ว ทำอะไรให้กินก็กินไปเถอะ อย่าเรื่องมาก กิน ๆ เข้าไปเดี๋ยวก็ตายแล้ว ตนก็ได้ยินก็ช้ำใจ เลยไม่กินของเขาดีกว่า นอกจากนี้ตัวสะใภ้เป็นคนปากร้าย เลยไม่ค่อยอยากจะคุยกับเขา
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบเลยว่าเอาที่ดินไปจำนอง แล้วจะต้องจ่ายเงินต้น และดอกเบี้ย เพราะลูกสะใภ้เป็นคนจัดการคุยกับเจ้าของเงิน ตอนนี้เขาจะยึดบ้านหรือยังก็ไม่รู้ ถามลูกชายก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ทุกใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะว่าเครียด อย่างไรก็ตาม ตนรักบ้านหลังนี้มาก
ด้าน มณี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนเห็นลูกชายของสุณี มาตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อก่อนเขาก็เป็นเด็กดี ไม่ค่อยเกเร แต่พอแต่งงานก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนี้ เขาจะเก็บตัวกันอยู่ 2 คนผัวเมีย ไม่ค่อยยุ่ง ไม่ค่อยคุยกับใคร
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ป้าสุณี ไม่ต้องกังวลเลย เพราะ ตนดูจากภาพแล้ว บ้านทาวน์เฮาส์ของป้าสุณีมีมูลค่าเกินกว่า 7 แสนแน่นอน ส่วนในสัญญาจำนอง แค่ 2 แสน ดังนั้นเมื่อผู้รับจำนองเขาฟ้องบังคับคดี เพื่อนำทรัพย์ของป้าสุณี ขายทอดตลาด ขายได้เท่าไหร่ แล้วหักส่วนต่าง ที่เหลือก็ยังเป็นเงินของเรา ยังไงป้าสุณีก็ต้องใช้หนี้เขา เพราะเป็นผู้จำนอง อย่างไรก็ตาม หนังสือที่ส่งมาเป็น หนังสือบอกกล่าวทวงถามเฉย ๆ คดีนี้กว่าจะยื่นฟ้องศาล ยังอีกนาน แต่เมื่อมีหมายศาลมา ค่อยจ้างทนายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35