เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึงบ้านดับปริศนา ด้าน รร.อ้างกล้องเสีย | ถกไม่เถียง

470 ครั้ง

01 ธ.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ทนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ข้อความ “มีผู้ปกครองน้องอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนราคาแพงเล่าให้ฟังว่าลูกล้มในห้องเรียนกลับมาบ้านเสียชีวิตแบบงง ๆ กล้องในห้องก็มีแต่บังเอิญเสียวันนั้น ไปถามโรงเรียน ๆ ให้ค่าทำศพมา 20,000”

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานทนายรณณรงค์ แก้วเพชร เพื่อพบกับนางกัญญาภัทร พิทักษ์หิรัญพงศ์ อายุ 49 ปี ที่เดินทางเข้าร้องเรียน ทนายรณรงค์แก้วเพ็ชร์ ประธานชมรม รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังหลานชายวัย 4 ขวบ ที่เรียนอยู่อนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนดังในกรุงเทพมหานคร เกิดหกล้มในโรงเรียน แล้วมาเสียชีวิตที่บ้าน

นางกัญญาภัทร เล่าว่า โดยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ในช่วงเช้า พ่อได้ไปส่งน้องภูผาที่โรงเรียนตามปกติ และปู่ได้ไปรับที่โรงเรียนในเวลา 16.30น. เป็นเวลาเลิกเรียน ครูประจำชั้นพาน้องส่งให้ปู่ แล้วแจ้งปู่ว่าน้องเดินไปเหลาดินสอแล้วสะดุดประเป๋าล้มลงแล้วร้องไห้ แต่ไม่มีบาดแผลอะไร ซึ่งครูประจำชั้นได้โทรศัพท์ไปแจ้งคุณแม่ตอน 5 โมงแล้ว ว่าน้องได้สะดุดกระเป๋าล้ม พอปู่พาน้องมาถึงบ้าน น้องได้บ่นว่าเจ็บบริเวณแก้มและมีอาการง่วงนอน ปู่จึงให้กินยา แล้วให้น้องไปนอนพักผ่อนแต่น้องภูผาก็นอนหลับ ๆ ตื่น น้องลุกมาขอเดินไปซื้อขนมกินที่ร้านข้างบ้าน หลังจากน้องไปซื้อเสร็จก็กลับมานอนเหมือนเดิม

จนเวลาประมาณ 18.30 น. คุณพ่อและคุณแม่เลิกงานกลับมาบ้าน น้องตื่นมาบ่นว่าเจ็บบริเวณแก้มอีก จึงพาน้องกินนมเพื่อจะได้เข้านอน แต่น้องเกิดอาการอ้วกออกมา จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้น้องพาน้องขึ้นไปนอน จนเวลา 3 ทุ่ม แฟนเข้านอนและเปิดไฟดูน้องเห็นหน้าน้องหน้าซีด และมีน้ำลายไหลออกปาก จึงรีบพาน้องไปโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน หมอบอกว่าได้ช่วยเต็มที่แล้วนะให้ทำใจ น้องได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งผลชันสูตรบอกว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง

ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ได้เข้าไปคุยกับทางโรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด ทางโรงเรียนแจ้งว่ากล้องเสีย และได้ช่วยเงินทำบุญมา 20,000 บาท จึงได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กลัวคดีไม่คืบหน้า และไม่ได้รับความเป็นธรรม

ตนถามทำไมตอนน้องล้มถึงไม่เอาไปส่งโรงพยาบาล เขาบอกไม่มีสิทธิ์ต้องให้พ่อแม่อนุญาต ตนติดใจที่น้องล้มแล้วกล้องเสีย ตัวอื่นไม่เสียมาเสียตัวนี้ เขาเอากฎหมายมาเล่นเรา บอกให้รอผล รอชันสูตร ก่อนหน้านี้น้องตกเก้าอี้แล้วคิ้วเจาะเขาก็โทรมาแจ้งตนก็รีบไปดูที่โรงเรียน อีกครั้งน้องล้มหัวโนอันนี้ก็เรื่องปกติของเด็กตนก็ไปรับกลับที่บ้าน

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ต้องไปหาหลักฐานก่อนว่าเด็กล้มลักษณะไหน ตนเองไม่เชื่อว่าเด็กลงใส่โต๊ะจะทำให้เสียชีวิตได้ แล้วกล้องวงจรปิดดันมาเสียที่จุดนั้นอีก ทำให้เป็นข้อสงสัย ไม่รู้ว่าครูพูดเรื่องจริงหรือเปล่า ส่วนเรื่องโรงเรียนไม่ส่งน้องไปรักษา ทางโรงเรียนอาจมีความผิดในเรื่องประมาณได้ เพราะทุกโรงเรียนมีประกันอุบัติเหตุอยู่ ไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ปกครอง เคยมีแนวทางการตัดสินของศาลอยู่ว่า หากครูรู้ว่าเด็กนักเรียนประสบอุบัติเหตุร้ายแรง แล้วไม่นำส่งโรงพยาบาล อาจเป็นเรื่องของประมาณเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกสูงถึง 6 ปี

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35