logo ถกไม่เถียง

เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึงบ้านดับปริศนา แต่ รร. อ้างกล้องเสีย

ถกไม่เถียง : ทนายรณณรงค์ลุยหาหลักฐาน คดีเด็กอนุบาล 2 ล้มหัวกระแทกโต๊ะเสียชีวิต ไม่เชื่อคำให้การของครู ย้ำโรงเรียนต้องมีมาตรการดูแลเด็กที่ดีกว่านี

1,035 ครั้ง
|
01 ธ.ค. 2565
ทนายรณณรงค์ลุยหาหลักฐาน คดีเด็กอนุบาล 2 ล้มหัวกระแทกโต๊ะเสียชีวิต ไม่เชื่อคำให้การของครู ย้ำโรงเรียนต้องมีมาตรการดูแลเด็กที่ดีกว่านี้ และต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
จากกรณีที่ผู้ปกครองเด็กอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ร้องกับทนายรณณรงค์ว่าลูกล้มในห้องเรียนกลับมาบ้านแล้วเสียชีวิต มีกล้องวงจรปิดในห้องแต่บังเอิญเสีย ส่วนโรงเรียนรับผิดชอบเพียงค่าทำศพ 20,000 บาท
 
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่าตนได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับหาหลักฐานว่าเด็กล้มแบบไหน พบว่าเด็กสะดุดกระเป๋าล้มแล้วหน้าไปโดนโต๊ะเพื่อนที่นั้งอยู่ข้าง ๆ จึงติดใจว่าถ้าหากล้มในลักษณะนี้ จะต้องล้มแรงขนาดไหนถึงจะทำให้เด็กเสียชีวิต เมื่อตนไปพิสูจน์ความสูงของโต๊ะกับความสูงของเด็กที่ห่างกันเพียง 20 ซม. จึงไม่เชื่อว่านี่คือสาเหตุของการเสียชีวิต
 
ส่วนโต๊ะของเพื่อนที่เด็กล้มไปโดน ทนายรณณรงค์กล่าวว่าทางญาติของเด็กแจ้งกับทนายว่ามีการสลับเปลี่ยนโต๊ะของกลาง จากนั้นจึงต้องไปหาโต๊ะตัวที่เกิดเหตุมาใหม่ พบว่าโต๊ะมีลักษณะขอบมุมที่ไม่เรียบ ถ้าหากล้มแล้วกระแทกโต๊ะจะต้องมีรอยบาดแผลหรือรอยถลอกที่ใบหน้า แต่จากการตรวจสอบสภาพร่างกายของเด็กกลับไม่พบร่องรอยขีดข่วนบนใบหน้าเลย 
 
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
คุณนภาพร เชยประทับ (มุก) แม่ของเด็กอนุบาล 2 ที่เสียชีวิต กล่าวว่าตนมีข้อสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกทั้งเรื่องของโรงเรียนที่ไม่พาไปส่งโรงพยาบาลทันที และกล้องวงจรปิดของโรงเรียนที่ตอนแรกครูประจำชั้นแจ้งว่าสามารถมาดูได้เลย แต่เมื่อไปถึงกลับแจ้งว่ากล้องเสียมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64 
 
ส่วนอาการของเด็กหลังจากที่คุณปู่รับกลับมาที่บ้าน เด็กร้องไม่ยอมเดินกลับบ้าน คุณปู่ต้องอุ้มกลับมา จากนั้นก็ร้องอยากกินขนม พอคุณปู่ไปซื้อขนมมาให้กลับไม่กินแล้วนอนหลับไป พร้อมกับบอกว่ามีอาการเจ็บที่ใบหน้าบริเวณแก้มด้านซ้าย เมื่อคุณแม่มาถึงบ้าน จึงพยายามปลุกให้มากินข้าว อาบน้ำ แต่เด็กปฏิเสธแล้วกลับไปนอนต่อ จากนั้นคุณแม่ให้เด็กดื่มนมแต่ดื่มไปแล้วเกิดอาเจียนออกมา จึงพาไปอาบน้ำล้างตัวแล้วพาเข้านอน
 
เมื่อให้เด็กเข้านอนหลับไปไม่นาน คุณแม่ได้เข้าไปดูอาการพบว่าหน้าซีด มีน้ำลายฟูมปาก จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แต่หมอไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ หลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางโรงเรียนได้ให้เงินทำบุญงานศพเพียง 20,000 บาท แล้วไม่มีการให้ความช่วยเหลือเยียวยา หรือแสดงความรับผิดชอบเพิ่มเติมอีกเลย 
 
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ความคิดเห็นว่ากรณีการล้มแล้วกระแทกกับโต๊ะจะต้องมีบาดแผลให้เห็นบ้าง ผลการชันสูตรศพของเด็กพบว่ามีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งอาจจะทำให้มองไม่เห็นบาดแผลได้ ถึงแม้ว่าจะได้รับการกระทบกระเทือนมาก็ตาม 
 
เพราะจุดที่บอบบางของเด็กอยู่ที่บริเวณขมับ หากได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง อาจทำให้เกิดเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ คาดว่าเด็กอาจถูกโต๊ะกระแทกทั้งใบหน้าด้านซ้ายอาจถึงบริเวณขมับด้วย เมื่อเกิดเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองมักจะไม่มีอาการทันที จึงทำให้เด็กบอกเพียงว่าเจ็บที่ใบหน้า แต่หลังจากนั้นจะเกิดอาการซึม คลื่นไส้อาเจียน 
 
อาการเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้กับเด็กเล็ก ดังนั้นจึงควรระมัดระวังไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วต้องรีบพาไปส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันขึ้น แต่ทางโรงเรียนอ้างว่าเกิดเหตุช่วงใกล้เลิกเรียน เป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย ไม่ทันได้ตั้งตัว จึงไม่ได้พาไปส่งโรงพยาบาล ทั้งที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน ทางโรงเรียนอ้างว่าไม่มีอำนาจนำส่งโรงพยาบาลได้หากผู้ปกครองไม่อนุญาต
 
ถกไม่เถียง : เด็กอนุบาล 2 ล้มในห้องเรียน กลับถึง
การเอาผิดทางกฎหมาย ทนายรณณรงค์ กล่าวว่าถ้าหากครูที่ดูแลเด็กประมาทก็จะสามารถแจ้งความได้ จึงต้องพิสูจน์ว่าครูได้เห็นว่าเด็กล้มรุนแรงหรือไม่ และโรงเรียนมีสิทธิ์พาเด็กไปโรงพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง นอกจากนี้ทนายรณณรงค์ยังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองในโรงเรียนเดียวกันว่า มีเด็กเกิดอุบัติเหตุหัวกระแทกกับที่พักเท้าจักรยานยนต์ แต่ทางโรงเรียนไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล ทั้งที่เด็กถูกกระทบกระเทือนแรงมาก
 
สิ่งที่คุณแม่ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือ อยากให้คดีความคืบหน้าทั้งเรื่องของกล้องวงจรปิดและหลักฐานต่าง ๆ  พร้อมอยากให้กระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาควบคุมดูแลเรื่องความปลอดภัยของเด็กในโรงเรียน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก
 
นพ.วีระศักดิ์ ทิ้งท้ายว่าโรงเรียนหรือผู้ที่ดูแลเด็กเล็ก ถ้าหากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน ซึ่งอาจจะมาจากความประมาทของผู้ดูแล ควรจะบอกความจริงกับผู้ปกครองให้รับรู้ เพื่อที่จะสามารถไปรักษาได้ทัน และป้องกันไม่ให้กลายเป็นเหตุสลดเหมือนกับเคสนี้
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/EFX4gQJ-tJc