เพื่อนบ้านเปิดศึก ! ลุงหัวร้อน ควงค้อนทุบทรัพย์สิน ฉุนปมจอดรถหน้าบ้าน

มีลุงอยู่ท่านหนึ่ง ตะโกนโวยวาย ด่าทอ จากนั้นได้เดินถือฆ้อนขนาดใหญ่ ไปทุบเสาประตูรีโมทของบ้านฝั่งตรงข้าม ที่เปิดเป็นห้องเช่า เหตุการณ์นี้ทำให้เพื่อนบ้านอยู่อย่างหวาดผวา

 

เฟซบุ๊กมหาสารคาม ได้ลงคลิปนี้เอาไว้ พร้อมระบุข้อความว่า “ช่วยกัน เพื่อเตือนภัย อายุมาก ไม่ได้บ่งบอก วุฒิภาวะ ลุงคนนี้ จะตะโกนโวยวาย ด่าทอ และ เคยทุบรถ คนที่จอดอยู่ข้างถนน ที่ไปจอดอยู่เยื้องประตูบ้านแก โดยบอกว่า คนอื่นไม่มีสิทธิ์จอด เพราะขวางทางเข้าออกบ้าน มีการขู่ทำร้ายมาโดยตลอด วันนี้ก็เช่นกัน หน้าที่การงาน ภรรยาก็ทำงานที่โรงพยาบาล ลูกก็บรรจุนายตำรวจ อ้างสาระพัด อันตรายต่อคนอื่นจริง ๆ”

 

เรื่องนี้ นายนรากร ผู้ร้องเรียน ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว ในข้อหา สร้างความเดือดร้อน และใช้ฆ้อนทุบเสาเซ็นเซอร์รีโมทหอพัก ข่มขู่

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ  พบกับนายนรากร ผู้ร้องเรียนที่ถูกทำลายทรัพย์สิน ได้พาผู้สื่อข่าวมาดูถนนภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นถนนประมาณ 8 เมตร ทางด้านข้างเป็นประตูหลังทางขึ้นหอพัก ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านหลังที่มีคุณลุงออกมาโวยวาย เมื่อวานทางลูกค้าได้มาจอดรถที่บริเวณด้านข้างของหอพักในจุดนี้ ก็ได้มีเสียงโวยวายและมีการเอาเหล็กออกมาเคาะตีที่เสาประตูของทางเข้าหอพักเสียงดังมากจนตนเองต้องออกมาดู ก็ถูกข่มขู่ต่าง ๆ นานา จนต้องเดินถอยหลังออก และเหตุการณ์ก็เป็นแบบนี้มา 5 ปีกว่าแล้วที่ตนเองมาอาศัย และลุงยังเคยทุบรถคนที่จอดอยู่ข้างถนน โดยบอกว่า คนอื่นไม่มีสิทธิ์จอด เพราะ ขวางทางเข้าออกบ้าน  ทุกคนได้พบเจอก็จะงง พร้อมกับโดนด่าคำหยาบ ขู่ทำร้ายมาโดยตลอด

 

จึงต้องออกมานำเอาวงจรปิดออกมาเปิดเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของคุณลุงท่านนี้ ทั้งที่ถนนเป็นทางสาธารณะและก็จอดอยู่ที่ด้านของอาคารของเราไม่ได้ไปจอดขวางหน้าบ้านของทางคุณลุงแต่ก็สร้างความใพอใจให้ทุกครั้งจน และไม่ใช้แต่ลูกค้าของทางตนเอง แต่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่มาจอดบริเวณนี้ก็จะโดนด้วยทั้งหมด จนต้องไปแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินคดีโดยจะได้มีการนัดให้ทางครอบครัวของคุณลุงเข้ามาพูดคุยและทำไกล่เกลี่ยก่อนเพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน โดยในวันนี้ทางคุณลุงไม่อยู่บ้านเลยมาสามารถพูดคุยกันได้ ทางด้าน สภ.เมืองมหาสารคามจึงได้ทำเรื่องติดตั้งตู้แดงเพื่อให้สายตรวจเข้ามาตรวจตราบริเวณนี้เพื่อจะไม่มีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้นอีก