อินฟลูเอนเซอร์ แฉ แฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกายกว่า 18 ครั้ง ขนาดท้องก็ไม่เว้น ฝ่ายชายแฉกลับ แฟนสาวก็แสบไม่เบา หลอกคนอื่นลงทุนไปทั่ว !
วันที่ 28 พ.ย. 65 จี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เริ่มทะเลาะจนถูกไดกิ้นทำร้ายครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 64 เกิดจากเรื่องแมวที่เลี้ยงไว้ ไปทำความเสียหายให้กับโรงแรมย่านสุทธิสาร แล้วตนต้องไปชำระเงินค่าเสียหายที่แมวก่อไว้ แต่ทางไดกิ้นกลับมาบอกว่าทำไมไม่บอกเขา เขาจะไปคุยเอง ด้วยความที่ตอนนั้นยังคุยกันไม่รู้เรื่อง จูนกันไม่ติด เขาก็มาทำสีหน้าอารมณ์ไม่พอใจ โมโหรุนแรงใส่ จากนั้นก็มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น โดยตนถูกต่อยบริเวณแขน และกระแทกเข้าที่หน้าจนบวม ตนเลยโกรธมาก ตนเลยคิดว่าจะกลับบ้าน คิดว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ไดกิ้นก็มาขอโอกาส ยกมือกราบเท้าขอโทษ บอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แต่หลังจากนั้นเวลาทะเลาะกัน ก็มีการพูดถากถางกันตลอด และลงไม้ลงมืออยู่เรื่อย ๆ
ตนมาแจ้งความหลังจากโดนทำร้ายครั้งที่ 2-9 ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. - 25 ก.พ. 65 ซึ่งเป็นครั้งที่เขาทำร้ายตนต่อเนื่องกันตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน โดยวันนั้นคุณพ่อของตนนัดให้ออกไปหา เนื่องจากคุณยายเสีย ซึ่งตัวไดกิ้นก็เหมือนจะไม่เชื่อว่าคุณยายของตนเสีย มาขอดูใบมรณบัตร หาว่าตนโกหก ตนเลยตัดสินใจออกไปเจอคุณพ่อ เมื่อพ่อเห็นสภาพตน เขาเลยพาไปแจ้งความ ต่อมา 17 เม.ย. ตนถูกทำร้ายร่างกายครั้งที่ 10 และ 23 พ.ค. ตนก็โดนอีก สุดท้าย 30 พ.ค. ฝ่ายชายถูกตำรวจจับ และศาลได้มีคำสั่งจำคุก แต่ตนก็ได้ไปประกันตัวให้เขา เพราะตนรักเขา แล้วอีกอย่างคือ ไม่อยากทำลายอนาคตเขา เพราะแค่รอลงอาญา 2 ปี และติดกำไลอีเอ็มมันก็มากพอแล้ว และเขายังมาขอโอกาส จะไปทำงานเตะฟุตบอล ไม่อยากให้มีกำไลอีเอ็มติด ตนเลยไปแถลงต่อศาลให้ถอดกำไลอีเอ็ม
ตนมารู้ว่าตั้งครรภ์ตอนวันที่ 13 ต.ค. ตรวจเช็กแล้วแต่ไม่ได้บอกใคร จากนั้นเลยบอกกับไดกิ้น เขาเลยนัดให้มาคุยกันที่บางแสน วันที่ 17 ต.ค. และตรวจครรภ์ให้เขาดูตรงนั้นเลย เขาก็รับรู้แล้วว่าตนท้อง จากนั้นตนไปหาหมอที่ โรงพยาบาล ก็ส่งใบยืนยันให้ไดกิ้นดูว่าเขาท้องจริง แต่เขายังมาโพสต์ว่าตน ว่าตนเป็นแม่คนได้อย่างไร ต่อมาวันที่ 28 พ.ย. ตนถูกทำร้ายครั้งที่ 18 โดยฝ่ายชายตั้งใจเหมือนจะทำให้แท้ง ซึ่งเขาต่อยตนบริเวณจมูก 2 ครั้ง ที่ปาก 1 ครั้ง แก้ม 2 ครั้ง และต่อยที่ใบหู จนใบหูฉีกขาดเย็บไป 3 เข็ม เตะที่สะโพก 5 ครั้ง ข้างหลังอีก 4 ครั้ง และกระแทกบริเวณท้องอีก 2 ครั้ง จนตนต้องขอร้องว่าอย่าทำอะไรลูก สุดท้ายตนต้องไปแจ้งความที่ สภ.อุดมสุข
นอกจากนี้ เขาเคยขู่ว่าถ้าตนไม่เอาเงินไปให้เขา เขาจะฆ่าตน ทำให้ตนเสียโฉม จะเอาให้ตนแท้งเลย ซึ่งเงินที่เขาจะเอา เขาอ้างว่าตนไปติดเงินเขา 5 แสน ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะแค่เคยโอนเงินให้ตน 2 แสนกว่า ซึ่งมันก็เป็นเงินที่ใช้จ่ายร่วมกัน และเป็นค่าขาดรายได้ของตนด้วย เนื่องจากตอนอยู่กับเขา เขาไม่ให้ตนออกไปทำงานเลย
ด้าน ปิ่น (นามสมมติ) แม่ของผู้เสียหาย เล่าว่า เคยเจอไดกิ้น ตอนเขามาทำร้ายลูกของตน ได้เรียกมาคุย และได้ให้โอกาสเขา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เพราะตนก็ไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งตัวเขาก็ได้บอกว่า จะไม่ทำอีกแล้ว แต่ 3 วันกลับมาทำอีกแล้ว
ฟาก ไดกิ้น (นามสมมติ) แฟนของผู้เสียหาย เผยว่า วันที่ 17 ต.ค. ยืนยันว่าเขาตรวจครรภ์จริง แต่ไม่ได้ให้ตนดู ตนไม่เห็นว่าขึ้น 2 ขีดเลย ขณะที่เรื่องประเด็นเงิน 5 แสน ตนโอนเงินให้เขาไปประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งในโทรศัพท์ของเขาก็บันทึกเอาไว้ว่าติดหนี้ตน 3 แสน ตนจึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แต่ตอนที่ตนหลับ เขาก็มาลบรูปภาพออก เพื่อไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเป็นหนี้ตน ส่วนอีก 2 แสน คือ รถมอเตอร์ไซค์ของตน และโทรศัพท์ ที่ตนซื้อเงินสดมา อีกประมาณ 2 แสน ซึ่งตัวของจี หลอกตน เอาโทรศัพท์ และมอเตอร์ไซค์ ของตนไปจำนำ โดยอ้างว่า จะเอาเงินไปเทรดหุ้น ขอร้องให้ตนเอาไปมอเตอร์ไซค์ไปจำนำให้ พอตนนำไปจำนำ เงินทั้งหมดก็ไปอยู่ที่เขา จนทุกวันนี้ยังไม่ได้คืนสักบาท และที่ตนไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะเขามาเกลี่ยกล่อมไม่ให้ตนทำ บอกว่า เดี๋ยวก็ได้เงินแล้ว
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายจีจริง แต่ไม่ถึง 18 ครั้ง ทำไปไม่เกิน 5 ครั้งด้วยซ้ำ ส่วนที่ยอมรับในชั้นศาลว่าทำหลายครั้ง เพราะตัวจีก็มาเป็นคนบอกให้ตนยอมรับ โทษจะได้เบาลง แล้วก็จะไม่เอาเรื่องต่อด้วย และที่ทำร้ายร่างกายไปเพราะ ตนอยากได้เงินที่เขายืมไปเทรดหุ้นคืน มันเป็นเงินหลักแสน อีกทั้งยังเป็นเงินมรดกที่ตนได้จากตอนที่พ่อเสียชีวิต
นอกจากนี้ เขายังหลอกคนอื่นไปลงทุน โกงคนอื่น พูดจาเป็นตุเป็นตะ สร้างโปรไฟล์ เพิ่มยอดไลค์ อ้างตัวเองเป็นทนาย เป็นเน็ตไอดอล หรือแม้กระทั่งทำงานเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ ทุกอย่างอุปโลกน์ขึ้นมาหมด เพราะตั้งแต่อยู่กับตนเขาไม่ได้ทำงานเลย ขณะเดียวกัน ณ ตอนนี้เขาก็ยังไม่หยุดโกงคนอื่น
ด้าน เอ (นามสมมติ) เล่าว่า ตนรู้จักคุณจี ผ่านทางแอปหาคู่ เป็นช่วงระยะเวลาที่คุณไดกิ้นติดคุก เหมือนเขาพยายามจะหาแฟนใหม่ เขาบอกกับตนว่าเลิกกับแฟนเก่าแล้ว อีกทั้งเขายังสร้างภาพ บอกว่าตัวเองเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เป็นนักกฎหมาย สังกัดสภาทนายความ เล่นหุ้นตั้งแต่เด็ก ไปต่างประเทศมา 27 ประเทศ
ทั้งนี้ตนถูกหลอกเอาเงิน 1.4 แสนบาท บอกเอาไปลงทุนในศาล จะได้คืนภายใน 3 เดือน พอตนไปทวงเงินเขาก็บล็อกตน ยังไม่สามารถติดต่อได้เลย ขณะที่ตอนนี้ตนยังไม่ได้ไปแจ้งความ ติดธุระอยู่ต่างประเทศ แต่รวบรวมหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้วกลับไทยเมื่อไหร่ ตนจะรีบดำเนินการ ทั้งนี้ตนมีหลักฐานคือหนังสือรับสภาพหนี้ ระบุว่าเขาเป็นนักกฎหมาย สภาทนายความ
น.ส.จี เล่าต่อว่า ตนเอาโทรศัพท์ไปจำนำเอง เอาเงินมากินใช้ร่วมกัน เพราะตอนนั้นเราไมได้ทำงาน ส่วนมอเตอร์ไซค์ เขาเอาไปจำนำของเขาเอง ส่วนสิ่งที่ตนต้องการ คืออยากให้เขาเลิกยุ่งกับตน และครอบครัว อยากยุติความสัมพันธ์กับเขา ซึ่งเขาก็มีการระรานตนอยู่เรื่อย ๆ ทักมาข่มขู่ สาปแช่งครอบครัวตน ยืนยันว่าตนจะดำเนินคดีกับไดกิ้นให้ถึงที่สุด ทั้งเรื่องทำร้ายร่างกาย และเรื่องคดีหมิ่นประมาทด้วย เนื่องจากเขาโพสต์ประจานตน เรื่องที่เคยถูกดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชนเมื่อ 4 ปีก่อน แต่คดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว แต่ยังมาประจานให้คนเข้าใจผิด
ส่วนตัวคุณเอ (นามสมมติ) ตนรู้จักจริง และเงินของเขาตนก็เอาไปเทรดจริง ๆ แต่ระยะเวลาปันผลมันยังไม่ถึง ทั้งนี้ ตนไม่ได้เป็นนักกฎหมาย เพียงแต่เข้าไปอบรมที่สภาทนายความ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาคิดว่าตนเอาเงินเขาไป ก็ให้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย ทั้งไดกิ้น และคุณเอ
ส่วน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตัวไดกิ้นติดต่อเข้ามาที่เพจ อยากมีโอกาสได้พูดเรื่องที่ทำร้ายร่างกายกับภรรยาเขา อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชาย การทำร้ายผู้หญิงเป็นเรื่องที่ผิด ส่วนเรื่องปัญหาบาดหมางต่าง ๆ ตนก็อยากให้คุยกันให้จบ เพราะทั้งสองคน ก็มีลูกด้วยกัน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35